วันที่ 19 ธันวาคม 2565 ที่วัดกลาง ตำบลในเมือง อำเภอเมืองนครพนม จังหวัดนครพนม นายวันชัย จันทร์พร ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม เป็นประธานฝ่ายฆราวาส นำคณะหัวหน้าส่วนราชการ เจ้าหน้าที่ หน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน และประชาชนจังหวัดนครพนม ร่วมกันประกอบพิธีเจริญพระพุทธมนต์และเจริญจิตภาวนาถวายพระพรชัยมงคล แด่สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา นเรนทิราเทพยวดี กรมหลวงราชสาริณีสิริพัชร มหาวัชรราชธิดา เพื่อให้หายจากอาการทรงพระประชวร โดยมีพระปลัดพรสวรรค์ สิริปัญโญ เจ้าอาวาสวัดกลาง เป็นประธานฝ่ายสงฆ์
.jpg)
โดยชาวพุทธเชื่อว่าพิธีเจริญพระพุทธมนต์ เป็นการปฏิบัติบูชา ที่นอกจากจะเป็นพุทธานุสติแล้ว ยังสามารถช่วยป้องกันภัยอันตรายต่าง ๆ ที่จะเกิดขึ้น เป็นการเสริมชะตาให้ยืนยาว เป็นมงคลในชีวิต มีความเป็นอยู่ที่ปราศจากโรคภัยทั้งหลายทั้งปวง ซึ่งคำว่าพระพุทธมนต์ หมายถึง พระพุทธพจน์อันเป็นพระธรรมคำสั่งสอนของพระสัมมาสัมพระพุทธเจ้าที่มีปรากฏในพระไตรปิฏกบ้าง เป็นคำที่แต่งขึ้นมาภายหลังบ้าง และเรียกอีกอย่างว่า สวดพระปริตร ซึ่งมี 7 พระสูตร คือ มงคลสูตร ว่าด้วยเหตุที่จะทำให้เกิดสิริมงคล รัตนสูตร ว่าด้วยรัตนทั้ง 3 คือพระพุทธ พระธรรม และพระสงฆ์ เป็นการสวดเพื่อปัดเป่าอุปัทวันตรายให้หมดไป กรณียเมตตสูตร ว่าด้วยการเจริญเมตตาไปไหนมาไหนให้คนและเทวดารักใคร่ เมตตา ขันธปริตร ว่าด้วยพระพุทธมนต์สำหรับป้องกันสัตว์ร้ายพวกอสรพิษ ธชัคคสูตร ว่าด้วยการเคารพธงและการรำลึกถึงคุณพระรัตนตรัยทำให้หายหวาดกลัว อาฏานาฏิยปริตร ว่าด้วยพระพุทธมนต์ที่สามารถป้องกันอุปัทวันตรายทั้งปวง และอังคุลิมาลปริตร ว่าด้วยมนต์ขององคุลีมาล .jpg)
โดยเกิดขึ้นครั้งแรกในประเทศลังกา ราว พ.ศ. 500 ด้วยชาวลังกาที่นับถือพุทธศาสนาในขณะนั้น ประสงค์ให้พระสงฆ์ช่วยเหลือตนให้เกิดสิริมงคลและป้องกันภยันตรายต่างๆ ด้วยการสวดมนต์และคาถาตามแบบอย่างพราหมณ์ ซึ่งมีความเชื่อว่าผู้ทรงเวทจะทำให้เกิดสิริมงคล และป้องกันภยันตรายแก่มหาชนได้ และด้วยเหตุนี้พระสงฆ์ลังกา จึงได้คิดวิธีสวดพระปริตรขึ้น โดยเลือกเอาพระสูตรหรือคาถาที่สรรเสริญคุณพระรัตนตรัย อันเกิดขึ้นเนื่องด้วยเหตุการณ์ต่างๆ มาสวดเป็นมนต์ ครั้นคนนิยมมากขึ้น ก็ได้เพิ่มบทสวดเป็นพระปริตร ต่อมาพระเจ้าแผ่นดินประเทศลังกาได้รับสั่งให้คณะสงฆ์ปรับปรุงพระสูตร และคาถาที่ใช้สวดพระปริตรขึ้นใหม่ให้เหมาะกับเหตุการณ์เพื่อใช้ในพระราชพิธีหลวง โดยได้เพิ่มพระสูตรและคาถาให้มากขึ้น เรียกว่าราชปริตร เป็นมนต์คุ้มครองพระเจ้าแผ่นดิน ประชาชนยิ่งนิยมมากขึ้นจึงกลายเป็นประเพณีสืบต่อกันมาจนถึงปัจจุบัน
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น