วันเสาร์ที่ 31 ธันวาคม พ.ศ. 2565

ผู้ว่าฯนครพนม ย้ำมาตรการเมา หมวก เร็ว ทุกด่านต้องเข้ม พร้อมอำนวยความสะดวกประชาชน และนักท่องเที่ยว

วันที่ 31 ธันวาคม 2565 ที่ห้องประชุมพระธาตุท่าอุเทน ชั้น 3 ศาลากลางจังหวัดนครพนม (หลังใหม่) นายวันชัย จันทร์พร ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม พร้อมด้วย ชวนินทร์ วงศ์สถิตจิรกาล รองผู้ว่าราชกาจังหวัดนครพนม นำคณะทำงานประจำศูนย์ปฏิบัติการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลปีใหม่ 2566 จังหวัดนครพนม ร่วมประชุมผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์กับคณะอนุกรรมการศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนน ส่วนกลาง กระทรวงมหาดไทย เพื่อหารือแนวทางในการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนน ให้กับพี่น้องประชาชนและนักท่องเที่ยวที่สัญจรไปมาในพื้นที่ ก่อนที่จะประชุมร่วมกับแต่ละอำเภอ เพื่อปรับแผนการปฏิบัติงานให้เป็นไปตามบริบทของแต่ละพื้นที่

โดยผลการดำเนินงานในวันที่ 30 ธันวาคม 2565 จังหวัดนครพนม มีการเรียกตรวจตาม 10 มาตรการหลักทั้งสิ้น 4,780 คัน มีผู้กระทำความผิด 406 ราย เป็นผู้ไม่มีใบขับขี่มากสุด รองลงมาเป็นไม่สวมหมวกนิรภัย เมาสุรา ความเร็วเกินกว่ากฎหมายกำหนด และพฤติกรรมอื่น ๆ ตามลำดับ ซึ่งตลอดทั้งวันมีอุบัติเหตุเกิดขึ้น 4 ครั้ง มีผู้บาดเจ็บ 4 ราย ยังไม่มีผู้เสียชีวิต และจากการสังเกตของเจ้าหน้าที่ในการปฏิบัติงานพบว่าปริมาณรถที่เข้ามาในพื้นที่ยังคงมีมากและต่อเนื่อง มีทั้งที่เป็นประชาชนชาวนครพนมที่เดินทางกลับบ้าน และนักท่องเที่ยวที่เดินทางมากราบไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์และเที่ยวตามสถานที่สำคัญในพื้นที่จังหวัดนครพนม ทำให้มีการใช้ถนนทั้งสายหลักและสายรองเพิ่มตามจำนวนไปด้วย

และในโอกาสนี้ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม ได้เน้นย้ำกับเจ้าหน้าที่ ในหลาย ๆ เรื่อง เช่น การให้ปรับภูมิทัศน์ในถนนสายรองให้มีทัศนะวิสัยที่มองเห็นได้ไกลขึ้น ให้เจ้าหน้าที่ประจำจุดตรวจจุดบริการและด่านชุมชน เพิ่มสัญลักษณ์ กรวยแจ้งเตือน และผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนกันมาให้สัญญานในการขับขี่เพื่อชะลอความเร็ว รวมถึงการตรวจคัดกรองประชาชนและนักท่องเที่ยวให้มากยิ่งขึ้น เพราะในช่วงนี้อาจมีการแอบแฝงของขบวนการมิจฉาชีพและผู้กระทำผิดกฎหมายเข้ามาก่ออาชญากรรมในพื้นที่ ทั้งยังขอให้จัดชุดเฉพาะกิจออกตรวจตามร้านค้า สถานบริการต่าง ๆ เพื่อให้ปฏิบัติตามระเบียบและกฎหมายอย่างเคร่งครัด ในเรื่องของการเปิดปิดที่ต้องตรงเวลา การจำหน่ายเครื่องดื่มสุราและแอลกอฮอล์ทุกชนิด เฝ้าระวังนักดื่มหน้าใหม่ รวมถึงได้เน้นย้ำในเรื่องการคุมเข้มของมาตรการ เมา หมวก เร็ว ขอให้บังคับใช้อย่างจริงจังและเข้มข้น โดยเฉพาะข้าราชการที่ต้องเป็นแบบอย่างให้กับประชาชนถ้าพบเจอต้องมีโทษหนักฟันวินัยไม่ยั้ง เด็กแว้นก็ให้ส่งดำเนินคดีฟ้องศาลทุกราย

และยังได้ฝากประชาสัมพันธ์ไปยังพี่น้องประชาชน ในการขอความร่วมมือควบคุมคนในครอบครัวให้อยู่แต่ในบ้าน ซึ่งทุกคนสามารถเฉลิมฉลองกันได้ปกติ แต่อย่ามีการจุดพลุไฟ และยิงปืนเพื่อต้อนรับปีใหม่ ที่สำคัญคือการเฝ้าระวังในเรื่องของไฟ ไม่ว่าจะเป็นการ ทำอาหาร การก่อไฟผิงเพื่อคลายหนาว เพราะอาจเกิดเพลิงลุกไหม้ได้ง่าย เนื่องจากในช่วงนี้สภาพอาการแห้ง และมีลมแรง ซึ่งจะส่งผลต่อการเกิดเปลวเพลิงที่ลุกไหม้ได้เร็วขึ้น และขอขอบคุณทุกหน่วยงานทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน และประชาชนที่มีจิตอันเป็นกุศล มาสนับสนุนเครื่องอุปโภคบริโภคในการปฏิบัติงานให้เจ้าหน้าที่สามารถทำงานได้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น เพื่อดูแลพี่น้องประชาชนและนักท่องเที่ยวให้มีความปลอดภัยในช่วงเทศกาลปีใหม่นี้


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น