จ.นครพนม ประกอบพิธีถวายพระพรชัยมงคล แด่สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภาฯ พร้อมบวงสรวงพญาศรีสัตตนาคราช ขอพรให้ทรงหายจากพระอาการประชวร

วันที่ 29 ธันวาคม 2565 ที่บริเวณลานพนมนาคา ถนนสุนทรวิจิตร ตำบลในเมือง อำเภอเมือง จังหวัดนครพนม นายวันชัย จันทร์พร ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม เป็นประธานนำคณะหัวหน้าส่วนราชการ ตุลาการ ศาล ทหาร ตำรวจ ข้าราชการ เจ้าหน้าที่หน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน และประชาชนจังหวัดนครพนม ประกอบพิธีถวายพระพรชัยมงคล แด่สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา นเรนทิราเทพยวดี กรมหลวงราชสาริณีสิริพัชร มหาวัชรราชธิดา จากนั้นประกอบพิธีบวงสรวงพญาศรีสัตตนาคราช ให้ช่วยปกปักษ์ คุ้มครอง พร้อมประทานพรให้พระองค์ท่าน ทรงหายจากพระอาการประชวรและมีพลานามัยสมบูรณ์แข็งแรงในเร็ววัน สถิตเป็นมิ่งขวัญของพสกนิกรชาวจังหวัดนครพนมและปวงชนชาวไทย อีกทั้งเป็นการขอพรให้ผู้ที่มาเยือนจังหวัดนครพนมให้ได้พบแต่ความสุข ความเจริญ มีแต่เรื่องดี ๆ เข้ามาในชีวิตส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่

โดยพิธีบวงสรวงองค์พญานาคราช เป็นพิธีอันศักดิ์สิทธิ์ที่สืบทอดกันมาอย่างยาวนาน ตามความเชื่อของคนลุ่มน้ำโขง เนื่องจากองค์พญานาคราชเป็นสัญลักษณ์แห่งความยิ่งใหญ่ ความอุดมสมบูรณ์ ที่ผู้คนนิยมกราบไหว้เพื่อขอพรในเรื่องต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น ในเรื่องสุขภาพพลานามัยที่แข็งแรง เรื่องของเงินทอง การค้าขาย อำนาจ บารมี วาสนาที่ยิ่งใหญ่เหมือนกับองค์พญานาคราชเจ้าผู้ครองบาดาล ซึ่งในการบวงสรวงนั้นจะมีการนำเครื่องบรรณาการและเครื่องบูชาต่างๆ รวมถึงผลไม้ 9 ชนิด และพานบายศรีที่เป็นรูปพญานาคมาประกอบพิธี ตามขั้นตอนของการบูชาและบวงสรวงพญานาคราช

โดยชาวนครพนมนั้นมีความเชื่อว่า พญาศรีสัตตนาคราช เป็นพญานาคาราชที่คอยดูแลปกปักษ์รักษาผู้คนในแถบลุ่มน้ำโขงและองค์พระธาตุพนม จึงได้มีการออกแบบและก่อสร้าง องค์พญาศรีสัตตนาคราช ขึ้นมาไว้ที่ริมฝั่งแม่น้ำโขงเพื่อกราบไหว้บูชา โดยสร้างจากทองเหลืองทั้งองค์ มีความสูง 10.90 เมตร น้ำหนักรวม 9 ตัน ถือเป็นพญานาคองค์เดียวในโลกที่ไม่เหมือนที่ใด เพราะที่พระศอมีสร้อยสังวาลย์ที่นำเอาสัญลักษณ์เหนือซุ้มประตูองค์พระธาตุพนมมาสวมคล้องไว้ ซึ่งในการก่อสร้างใช้เวลานานเกือบ 5 ปี จึงแล้วเสร็จ จากนั้นจึงได้ประกอบพิธีอัญเชิญองค์พญาศรีสัตตนาคราชขึ้นประดิษฐาน ท่ามกลางประชาชนชาวไทยและลาว ตลอดจนผู้ที่มีความเชื่อ ความศรัทธาเกี่ยวกับองค์พญานาคราชที่มารวมงานสมโภชน์กันอย่างคับคั่ง และด้วยความเชื่อและความศรัทธาของประชาชนและนักท่องเที่ยวที่เดินทางมากราบไหว้แล้วสมหวังดังที่ปรารถนา จึงกลายเป็นแลนด์มาร์คแห่งใหม่ของจังหวัดนครพนมที่มีผู้คนหลั่งไหลกันมาอย่างต่อเนื่อง