วันที่ 3 เมษายน 2566 ที่ศาลาน้อมรำลึก วัดศรีเทพประดิษฐาราม ตำบลในเมือง อำเภอเมือง จังหวัดนครพนม นายวันชัย จันทร์พร ผู้ราชการจังหวัดนครพนม เป็นประธานนำคณะหัวหน้าส่วนราชการ ข้าราชการ เจ้าหน้าที่ พ่อค้า และประชาชนจังหวัดนครพนม ร่วมกันประกอบพิธีเจริญพระพุทธมนต์ และพิธีทำบุญตักบาตร ถวายเป็นพระราชกุศล เนื่องในวันคล้ายวันพระราชสมภพ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี 2 เมษายน เพื่อเป็นการน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณ ที่พระองค์ท่านทรงมีคุณูปการแก่ประเทศชาติและพสกนิกรชาวไทย
โดยสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี พระราชสมภพเมื่อวันที่ 2 เมษายน พ.ศ. 2498 เป็นพระราชธิดาในพระบาทสมเด็จพระมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เป็นพระโสทรกนิษฐภคินีในพระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว เป็นเจ้านายพระองค์แรกที่ได้รับสถาปนาพระอิสริยยศที่ สยามบรมราชกุมารี โดยพระองค์ท่านทรงมีพระปรีชาสามารถในหลายด้าน โดยเฉพาะอย่างยิ่งทางด้านอักษรศาสตร์และดนตรีไทย ซึ่งพระองค์ได้นำมาใช้ในการอนุรักษ์ ส่งเสริม และให้การอุปถัมภ์ในด้านศิลปวัฒนธรรมของประเทศ จากพระราชกรณียกิจในด้านศิลปวัฒนธรรมนี้ พระองค์จึงได้รับการทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายพระสมัญญาว่า เอกอัครราชูปถัมภกมรดกวัฒนธรรมไทย และ วิศิษฏศิลปิน นอกจากนี้ พระองค์ยังทรงประกอบพระราชกรณียกิจ เช่น ด้านการศึกษา การพัฒนาสังคม ทรงมีโครงการในพระราชดำริส่วนพระองค์หลายหลากโครงการ ซึ่งโครงการในระยะเริ่มต้นนั้นจะมุ่งเน้นทางด้านการแก้ปัญหาการขาดสารอาหารของเด็กในท้องถิ่นทุรกันดาร และพัฒนามาสู่การให้ความสำคัญทางด้านการศึกษาเพื่อการพัฒนาราษฎรสำหรับพิธีเจริญพระพุทธมนต์นั้นพิธีเจริญพระพุทธมนต์ เป็นการปฏิบัติบูชา ที่นอกจากจะเป็นพุทธานุสติแล้ว ยังสามารถช่วยป้องกันภัยอันตรายต่าง ๆ ที่จะเกิดขึ้น เป็นการเสริมชะตาให้ยืนยาว เป็นมงคลในชีวิต มีความเป็นอยู่ที่ปราศจากโรคภัยทั้งหลายทั้งปวง ขณะที่การทำบุญตักบาตรเป็นประเพณีชาวพุทธที่ถือปฏิบัติกันมาตั้งแต่สมัยพุทธกาล โดยเชื่อว่าเป็นการสร้างกุศลให้กับตนเอง บุคคลอันเป็นที่รักและผู้มีพระคุณ ซึ่งอานิสงส์ของการตักบาตรจะทำให้สุขทั้งกาย ใจ อายุ วรรณะ สุขะ พละ มีสุขภาพแข็งแรง อายุยืนยาว โรคภัยน้อย มีทรัพย์สมบัติมาก เป็นมหาเศรษฐีผู้ใจบุญ และถึงพร้อมด้วย รูปสมบัติ ทรัพย์สมบัติ ทิพยสมบัติ และนิพพานสมบัติ ซึ่งการทำบุญตักบาตรเป็น 1 ใน 3 ของการทำทาน คือการให้วัตถุสิ่งของ ส่วนทานอีก 2 อย่างคือการให้ที่ไม่เป็นวัตถุสิ่งของเช่น ให้สติ ให้ธรรมะ สอนคุณธรรม ให้กำลังใจ และทานสุดท้ายคือการยกโทษด้วยการไม่พยาบาทจองเวร ซึ่งมีบัณฑิตกล่าวไว้ว่าเป็นทานที่ให้ได้ยากที่สุด เพราะเป็นการให้อภัยศัตรูหรือผู้ที่ทำร้ายตนอย่างสาหัส
.jpg)
.jpg)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น