วันจันทร์ที่ 15 พฤษภาคม พ.ศ. 2566

บรรยากาศหลังปิดหีบเลือกตั้ง นครพนมพรรคเพื่อไทยได้คะแนนบัญชีรายชื่อมากสุด ส่วน ส.ส. เป็นเพื่อไทยและภูมิใจไทย พรรคละ 2 คน

ที่จังหวัดนครพนม บรรยากาศหลังปิดหีบเลือกตั้งในวันที่ 14 พฤษภาคม เต็มไปด้วยความสนใจของประชาชนที่มาลุ้นคะแนนว่าใครจะได้เป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร และพรรคการเมืองไหนจะได้เป็นตัวแทนคนนครพนม โดยภายหลังปิดหีบเลือกตั้ง นายสมพล พงษ์พิพัฒน์ ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำจังหวัดนครพนม ได้ให้ข้อมูลว่าการเลือกตั้งในครั้งนี้เป็นไปด้วยความเรียบร้อยทุกหน่วยเลือกตั้งไม่มีการแจ้งการกระทำผิดใด ๆ ที่เป็นการจงใจกระทำความผิด มีปัญหาเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่พบ เช่นผู้มีสิทธิไปผิดหน่วยเลือกตั้งแต่ก็สามารถที่จะไปลงทะเบียนที่อีกหน่วยได้ทันเวลา และการตรวจรายชื่อที่เจ้าหน้าที่ตรวจไม่ละเอียดทำให้เข้าใจคลาดเคลื่อน ซึ่งเมื่อมีการตรวจสอบโดยละเอียดแล้วก็สามารถใช้สิทธิได้ตามปกติ ซึ่งหลังจากนี้ก็ต้องมาดูกันว่าจะมีบัตรเสียเท่าไหร่เพราะในปี 2562 มีบัตรเสียค่อนข้างเยอะ 5 เปอร์เซ็นต์กว่า รวมแล้วทั้งจังหวัด 20,000 กว่าใบ ครั้งนี้นายวันชัย จันทร์พร ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม ได้ขอความร่วมมือส่วนราชการในการช่วยเร่งการประชาสัมพันธ์ก่อนเลือกตั้งประมาณ 2 เดือน ในเรื่องวิธีการกากบาทบัตรเลือกตั้งให้ถูกต้องว่าจะทำอย่างไรไม่ให้เป็นบัตรเสีย ซึ่งเชื่อว่าการเลือกตั้งในครั้งนี้จะมีบัตรเสียลดลงเป็นจำนวนมาก

โดยภายหลังปิดหีบและมีการนับคะแนนตามหน่วยเลือกตั้งต่าง ๆ ผลปรากฏคะแนนอย่างไม่เป็นทางการ ส.ส. เขตเลือกตั้งที่ 1 เป็นของนายภูมิพัฒน์ พชรทรัพย์ ได้คะแนน 44,712 คะแนน ส่วนคะแนนบัญชีรายชื่อเป็นของพรรคเพื่อไทยได้คะแนน 50,429 คะแนน จากที่มีผู้มาใช้สิทธิ จำนวน 100,285 คน ส.ส. เขตเลือกตั้งที่ 2 เป็นของนางมนพร เจริญศรี ได้คะแนน 39,856 คะแนน ส่วนคะแนนบัญชีรายชื่อเป็นของพรรคเพื่อไทยได้คะแนน 45,200 คะแนน จากที่มีผู้มาใช้สิทธิ จำนวน 99,905 คน ส.ส.เขตเลือกตั้งที่ 3 เป็นของนายอลงกต มณีกาศ ได้คะแนน 41,738 คะแนน ส่วนคะแนนบัญชีรายชื่อเป็นของพรรคเพื่อไทยได้คะแนน 45,945 คะแนน จากที่มีผู้มาใช้สิทธิ จำนวน 97,928 คน และ ส.ส.เขตเลือกตั้งที่ 4 เป็นของนายชูกัน กุลวงษา ได้คะแนน 25,253 คะแนน ส่วนคะแนนบัญชีรายชื่อเป็นของพรรคเพื่อไทย ได้คะแนน 39,708 คะแนน จากที่มีผู้มาใช้สิทธิ จำนวน 99,881 คน ทั้งนี้จังหวัดนครพนมมีบัตรเสีย จำนวน 15,124 ใบ คิดเป็น 3.8 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งน้อยกว่าปี 2562

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น