วันจันทร์ที่ 12 มิถุนายน พ.ศ. 2566

นครพนม ฝึกเด็กเอาตัวรอดเมื่อต้องติดอยู่ในรถ พร้อมเน้นย้ำ 3 มาตรการ นับ ตรวจตรา อย่าประมาท สำหรับผู้ใหญ่

 นายวันชัย จันทร์พร ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม เปิดเผยว่า ปัญหาการพบเห็นเด็กติดอยู่ในรถยนต์มีให้เห็นเป็นข่าวอยู่เรื่อย ๆ โดยเด็กที่ถูกลืมส่วนใหญ่มีอายุเฉลี่ยประมาณ 3-7 ปี ซึ่งเป็นวัยที่กำลังเติบโตและเป็นวัยที่ต้องเฝ้าดูแลด้วยความระมัดระวังอย่างใกล้ชิด เพราะอุบัติเหตุหรือเรื่องไม่คาดฝันสามารถเกิดขึ้นได้เสมอ หากผู้ใหญ่หรือผู้ปกครองไปช่วยไม่ทันเวลา ก็อาจนำมาซึ่งการสูญเสียได้ ประกอบกับจังหวัดนครพนมมีการขับเคลื่อนการยกระดับคุณภาพการศึกษาและประสิทธิภาพการศึกษาจังหวัดนครพนม ตาม 15 นโยบายที่ได้มอบให้แต่ละโรงเรียนได้ไปดำเนินการซึ่ง 1 ในนั้นคือเรื่องความปลอดภัยในสถานศึกษาที่ต้องสอดคล้องกับนโยบายนครพนมเมืองแห่งความปลอดภัย อีกทั้งศูนย์อำนวยความปลอดภัยทางถนนจังหวัดนครพนม ก็ได้มีการขับเคลื่อนภารกิจด้านการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนน ที่ต้องการให้ทุกคนปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน ดังนั้นในวันนี้จึงได้บูรณาการหน่วยงานที่เกี่ยวข้องลงพื้นที่ ฝึกลูก ๆ นักเรียนในโรงเรียนอนุบาลนครพนม ให้ได้มีทักษะการเอาตัวรอดเมื่อต้องติดอยู่ในรถยนต์ เป็นการเสริมสร้างความสามารถให้ทุกคนช่วยเหลือตนเองและเพื่อน ๆ พี่ ๆ น้อง ๆ ได้หากเกิดเหตุการณ์ติดอยู่ในรถ

โดยในวันนี้จะให้ลูก ๆ ทุกคนจะได้ฝึก เริ่มตั้งแต่การขึ้นรถที่จะทำให้รู้ว่าใครควรนั่งตรงไหน คือให้เด็กเล็กนั่งแถวด้านหน้า ส่วนเด็กโตนั่งด้านหลังสุดและด้านข้างคนขับเพื่อที่จะได้คอยดูแลน้อง ๆ ที่นั่งมาด้วยกันและช่วยตรวจดูน้อง ๆ ว่ามีการลงรถหมดแล้ว จากนั้นเป็นการเรียนรู้การเปิดกระจกรถ ปลดล็อคประตูรถ เพราะแต่ละคันจะมีรูปแบบการปลดล็อคภายในรถยนต์ที่แตกต่างกันออกไป หากสอนให้เด็กได้รู้วิธีการปลดล็อครถในแบบต่าง ๆ ได้ จะช่วยให้เด็กสามารถออกจากรถ หรือเปิดแง้มเพื่อตะโกนขอความช่วยเหลือได้ สิ่งต่อมาคือวิธีการเปิดประตูรถจากด้านใน ทำให้ลูก ๆ นักเรียนได้รู้ตำแหน่งของประตูรถว่าอยู่ตรงไหน สังเกตจากอะไร เพราะหากทำการปลดล็อคประตูได้ แม้ประตูรถจะมีน้ำหนักที่ค่อนข้างมากไม่สามารถเปิดออกเองได้ทั้งหมด ก็ยังจะสามารถแง้มเพื่อตะโกนขอความช่วยเหลือได้ สิ่งต่อมาคือทำให้ทุกคนได้รู้จักตำแหน่งแตรรถยนต์ว่าอยู่ตรงไหน สวิทช์สัญญาณไฟฉุกเฉินอยู่ตรงไหน ต้องกดตำแหน่งใดเพื่อให้เกิดเสียงและสัญญาณไฟฉุกเฉินขอความช่วยเหลือ เพราะเป็นสัญญาณที่สามารถกดเปิดได้แม้ไม่ได้สตาร์ทรถ โดยขั้นตอนการฝึกในวันนี้ จะให้ลูก ๆ นักเรียนได้ฝึกทีละคน เพื่อให้เข้าใจในขั้นตอนการปฏิบัติ ทำให้ได้เห็นภาพและสามารถปฏิบัติได้อย่างถูกต้องเมื่อเกิดเหตุ

ขณะเดียวกันก็ได้เน้นย้ำ 3 มาตรการกับคนขับรถและครูอาจารย์ที่รับช่วงต่ออีกครั้ง กับมาตรการนับ ตรวจตรา และอย่าประมาท เช่น คนขับรถรับส่งนักเรียนจะต้องมีการตรวจเช็คและตรวจนับจำนวนเด็กนักเรียนทุกครั้งเพื่อให้แน่ใจว่าเด็กลงรถหมดแล้ว อุ้มพาเด็กเล็กลงจากรถทุกครั้งเพื่อความปลอดภัย หากต้องทิ้งเด็กไว้ในรถชั่วคราวจะต้องลดกระจกลง ส่วนครูอาจารย์ที่รับส่งนักเรียนต่อจากคนขับรถ ก็ให้มีการตรวจเช็คจำนวนเด็กนักเรียนทุกครั้งเพื่อความมั่นใจว่าลูก ๆ นักเรียนไม่ได้ติดอยู่ในรถ ขณะเดียวกันก็อยากฝากถึงผู้ปกครองที่ได้ใช้บริการรถรับส่งนักเรียนได้สอบถามครูประจำชั้นด้วยว่าลูกถึงที่หมายโดยปลอดภัยแล้วอย่างแน่นอน


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น