วันที่ 29 กรกฎาคม 2566 ที่จังหวัดนครพนม บรรยากาศเป็นไปด้วยความคึกคักตั้งแต่เช้าตรู่ท่ามกลางสายฝนที่โปรยปรายลงมาเล็กน้อย ก่อให้เกิดความชุ่มฉ่ำที่กระตุ้นให้นักปั่น 279 ชีวิต ได้มีความตื่นตัวก่อนที่จะมีการปั่นข้ามสะพานมิตรภาพแห่งที่ 3 (นครพนม – คำม่วน) ไปยังฝั่งเมืองท่าแขก แขวงคำม่วน สปป.ลาว เพื่อเป็นการเชื่อมสัมพันธไมตรีกับนักปั่นจากแขวงคำม่วน อีกจำนวน 50 ราย เป็นการเชื่อมสิ่งดี ๆ และกระตุ้นการท่องเที่ยว 2 ฝั่งโขง สร้างการรับรู้ถึงสถานที่สำคัญที่มีกระจายอยู่ตลอดเส้นทางริมฝั่งแม่น้ำโขง ทำให้ประชาชนและนักท่องเที่ยวทุกคนอยากมาสัมผัสวิถีชีวิตความเป็นอยู่ เรียนรู้ศิลปและวัฒนธรรมอันดีงามในแบบ Slow life ของบ้านใกล้เรือนเคียงที่มีความสวยงามไม่แพ้จังหวัดนครพนม รวมถึงเก็บภาพบรรยากาศสวย ๆ ของวิวทิวทัศน์ในมุมที่แตกต่าง ที่สามารถวางแผนการเดินทางง่าย ๆ ด้วยการมาพักที่จังหวัดนครพนมแล้วข้ามไปเที่ยวที่ฝั่ง สปป.ลาว ได้แบบชิล ๆ ทั้งแบบเช้าไปเย็นกลับ หรือจะพักค้างคืนก็ได้เช่นเดียวกัน
โดยกิจกรรมได้เริ่มขึ้นในเวลา 5.00 น. ที่ผู้เข้าร่วมกิจกรรมทุกคนต้องมาลงทะเบียนรายงานตัวเพื่อเตรียมตัวตรวจสอบเอกสารการข้ามแดนตามระเบียบกฎหมายและขั้นตอนปฏิบัติจากเจ้าหน้าที่ด่านตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดนครพนมที่มาคอยอำนวยความสะดวก ซึ่งเมื่อแล้วเสร็จ นายวันชัย จันทร์พร ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม พร้อมด้วย ท่านวันไซ พองสะหวัน เจ้าแขวงคำม่วน สปป.ลาว และคณะผู้จัดงานทั้ง 2 ฝั่งโขง ก็ได้พาทุกคนปั่นข้ามสะพานมิตรภาพแห่งที่ 3 (นครพนม – คำม่วน) ไปแวะที่ด่านตรวจคนเข้าเมือง ฝั่งแขวงคำม่วน สปป.ลาว เพื่อทำเอกสารอีกครั้ง จากนั้นจึงได้ปั่นไปตามเส้นทางริมฝั่งโขงไปแวะพักและไหว้ศาลหลักเมือง วัดนาโบสีพัดทะนาลาม ที่อยู่ใกล้กับลานพญานาคราช ซึ่งเป็นทางขึ้นสำหรับประชาชนและนักท่องเที่ยวที่นั่งเรือข้ามฟากจากจังหวัดนครพนมมาเมืองท่าแขก ซึ่งถ้านั่งเรือข้ามฟากจะใช้เวลาเพียง 10 นาทีเท่านั้น โดยในจุดนี้จะมีทั้งโรงแรมที่พัก เกสต์เฮาส์ รถโดยสาร รวมถึงร้านค้าจำหน่ายสินค้าสำหรับผู้ที่ต้องการเลือกซื้อของฝากของที่ระลึก จากนั้นปั่นมุ่งหน้าสู่พระธาตุศรีโคตตะบอง เพื่อกราบไหว้สักการะปูขนียสถานที่สำคัญในราชอาณาจักรลาว ที่มีเรื่องเล่าไว้ในนิทานอุรังคธาตุ ว่าสร้างขึ้นเพื่อเป็นอนุสาวรีย์พระยาศรีโคตรบอง กษัตริย์นครศรีโคตตะบุระ เนื่องจากที่แห่งนี้เคยเป็นที่ประดิษฐานพระสารีริกธาตุของพระพุทธเจ้าทั้ง 4 พระองค์ คือ พระกะกุสันโท, พระโกนาคะมะโน, พระกัดสะโบและพระโคตะโม โดยเป็นพระธาตุพี่น้องกับพระธาตุพนมพระธาตุศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองนครพนมที่ปัจจุบันกำลังขอขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก จากนั้นทุกคนได้ปั่นย้อนกลับอีกหนึ่งเส้นทางผ่านชุมชนชาวท่าแขก ทำให้ได้เห็นถึงบรรยากาศและวิถีชีวิตที่ครั้งหนึ่งเคยเป็นที่ตั้งของอาณาจักรฟูนันและเจนฬา มีเมืองหลวงชื่อ ศรีโคตรบูร หรือ ศรีโคตรบอง ที่เป็นท่าเรือขนส่งสินค้าจากต่างเมือง และมีการสร้างบ้านเรือนตามแบบฝรั่งเศสไว้บริเวณท่าแม่น้ำ

.jpg)
.jpg)
.jpg)
.jpg)
.jpg)
.jpg)
.jpg)
.jpg)
.jpg)
.jpg)
.jpg)
.jpg)
.jpg)
.jpg)
.jpg)
.jpg)
.jpg)
.jpg)
.jpg)

.jpg)
.jpg)
.jpg)
.jpg)
.jpg)
.jpg)
.jpg)
.jpg)
.jpg)
.jpg)
.jpg)
.jpg)
.jpg)