วันที่ 4 สิงหาคม 2566 ที่จังหวัดนครพนม นายชวนินทร์ วงศ์สถิตจิรกาล รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม เป็นประธานการประชุมเชิงปฏิบัติการ เพื่อจัดทำแผนการปรับตัวต่อผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลง สภาพภูมิอากาศ จังหวัดนครพนม ที่สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดนครพนม จัดขึ้น เพื่อ ขับเคลื่อนงานให้เป็นไปตามคำสั่งจังหวัดนครพนม และเป็นไปตามประกาศเจตนารมณ์ในการยกระดับการแก้ไขปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ เพื่อบรรลุเป้าหมายความเป็นกลางทางคาร์บอน ภาย ในปี ค.ศ. 2050 และบรรลุเป้าหมายการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ได้ในปี ค.ศ. 2065 ของประเทศไทยในการประชุมรัฐภาคีกรอบอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ สมัยที่ 26 ที่จัดขึ้นเมื่อวันที่ 1 พฤศจิกายน 2564
โดยในการประชุมคณะทำงานด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศระดับจังหวัด จังหวัดนครพนม ทุกคนได้ร่วมกันจัดลำดับมาตรการการลดก๊าซเรือนกระจก ซึ่งจากข้อมูลพบว่าปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจกของจังหวัดนครพนมอยู่ในภาคการขนส่งมากสุดถึง 52.33 % รองลงมาเป็นภาคพลังงาน 51.35% ภาคการจัดการของเสีย 40.33 % โดยมีการคาดการณ์ว่าในปี พ.ศ. 2573 จังหวัดนครพนมจะมีปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจก อยู่ที่ 1,367,812 ตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่า จากนั้นร่วมกันประเมินความเสี่ยงและวางแผนการปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ เนื่องจากความเข้มข้นของก๊าซเรือนกระจกที่ปล่อยออกมาส่งผลให้เกิดการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ไม่ว่าจะเป็น น้ำท่วม ภัยแล้ง ภัยความร้อน ภัยหนาว โรคระบาด และความแปรปรวนของฤดูกาล นำมาซึ่งความเสียหายของโครงสร้างพื้นฐาน สถานที่ต่าง ๆ รวมถึงการใช้ชีวิตประจำวันของชาวนครพนม และความมั่นคงทางอาหารลดลง ซึ่งในที่ประชุมก็ได้มีการวางแผนการปรับตัวใน 6 สาขาหลัก คือสาขาการจัดการน้ำ ที่จะมุ่งเน้นการบูรณาการและเพิ่มประสิทธิภาพเข้าถึงทรัพยากรน้ำอย่างเป็นธรรม มีการจัดการความเสี่ยงมีมาจากอุทกภัยและภัยแล้ง สาขาการเกษตรและความมั่นคงทางอาหาร มุ่งเน้นการพัฒนาขีดความสามารถของเกษตรกรรายย่อยและแนวปฏิบัติที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม สาขาการท่องเที่ยว มุ่งเน้นการพัฒนาและส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงนิเวศและการท่องเที่ยวที่ยั่งยืนเพื่อรักษาไว้ซึ่งความสมบูรณ์ของทรัพยากรธรรมชาติในแหล่งท่องเที่ยว สาขาสาธารณสุข มุ่งเน้นการเฝ้าระวังโรงและปัจจัยที่ส่งผลต่อสุขภาพ รวมถึงการส่งเสริมการเข้าถึงบริการที่มีคุณภาพ สาขาการจัดการทรัพยากรธรรมชาติ มุ่งเน้นการสงวนรักษาและฟื้นฟูทรัพยากรธรรมชาติและระบบนิเวศให้สมบูรณ์ และสาขาการตั้งถิ่นฐานและความมั่นคงของมนุษย์ ที่มุ่งเน้นการลดความเสี่ยงและความเสียหายจากภัยธรรมชาติ และสร้างความพร้อมและขีดความสามารถในการปรับตัวของชุมชน รวมถึงมีการหาทางลดก๊าซเรือนกระจกร่วมกัน โดยในภาคพลังงานจะมีการส่งเสริมการติดตั้ง Solar Cell อย่างน้อยร้อยละ 5 ของครัวเรือนในช่วงปี 2566-2570 และอย่างน้อยร้อยละ 20 ในช่วงปี 2571-2575 นอกจากนี้ยังมีการรณรงค์การประหยัดพลังงานของโรงแรม โดยการออกใบประกาศ การผลิตไฟฟ้าก๊าซชีวภาพจากพืชพลังงาน(หญ้าสุวรรณภูมิ) ส่งเสริมโครงการขุดเจาะบ่อบาดาล โครงการสูบน้ำโดยใช้พลังงาน Solar Cell มากยิ่งขึ้น รวมถึงการติดตั้ง Solar Cell โรงพยาบาลชุมชน การติดตั้งหลอด LED ไฟทางสาธารณะ ด้านการขนส่ง ส่วนในภาคขนส่งมีการส่งเสริมให้มีการปรับมาใช้รถยนต์ไฟฟ้า EV ทั้งรถส่วนบุคคลและรถสาธารณะ ภาคการจัดการของเสีย ก็มีโครงการระบบบำบัดน้ำเสียรวมของเทศบาลเมืองนครพนม และของ อปท.ที่อยู่ในพื้นที่แม่น้ำโขงและแม่น้ำสายสำคัญของจังหวัด มีการส่งเสริมการคัดแยกขยะ การจัดการขยะปลายทาง การจัดการมูลสัตว์ ส่วนภาคการเกษตร ป่าไม้และการใชประโยชน์ที่ดินก็มีการเพิ่มพื้นที่สีเขียว การลดพื้นที่เผาทางการเกษตร.jpg)
.jpg)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น