ผู้ว่าราชการนครพนม นำทีมเยี่ยมให้กำลังใจศิลปินเรือไฟ การันตีความยิ่งใหญ่เรือไฟยาวสุด 79 เมตร สูงเท่าตึก 8 ชั้น

วันนี้ 17 ตุลาคม 2566 ที่ริมฝั่งแม่น้ำโขงเขตเทศบาลเมืองนครพนม จังหวัดนครพนม นายวันชัย จันทร์พร ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม พร้อมด้วยนางสงวน จันทร์พร นายกเหล่ากาชาดจังหวัดนครพนม นายจิรศักดิ์ สีหามาตย์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม นายสมลักษ์ ยกน้อยวงษ์ ปลัดจังหวัดนครพนม ตลอดจนคณะหัวหน้าส่วนราชการ และภาคเอกชน ร่วมกันลงพื้นที่เยี่ยมให้กำลังใจและมอบเครื่องอุปโภคบริโภคแก่ศิลปินเรือไฟของแต่ละอำเภอที่กำลังเร่งสร้างเรือไฟขนาดใหญ่ เพื่อใช้เป็นประทีปพุทธบูชาในช่วงวันออกพรรษา ภายใต้งานประเพณีไหลเรือไฟจังหวัดนครพนม ประจำปี 2566 ที่จะมีขึ้นระหว่างวันที่ 20 – 30 ตุลาคม 2566

นายวันชัย จันทร์พร ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม เปิดเผยว่า ประเพณีไหลเรือไฟเป็นประเพณีเก่าแก่หนึ่งเดียวในโลกที่ชาวนครพนมถือปฏิบัติเป็นประจำทุกปีในช่วงวันออกพรรษา ซึ่งในปีนี้ทางจังหวัดจะมีการไหลให้ประชาชนได้ชมทุกวัน โดยวันที่มากสุดคือวันที่ 29 ตุลาคม 2566 ที่เป็นวันออกพรรษา ซึ่งจาการตรวจเยี่ยมให้กำลังใจและสอบถามศิลปินเรือไฟพบว่ามีเรือไฟขนาดต่าง ๆ โดยลวดลายของแต่ละลำจะมีความเป็นเอกลักษณ์และอัตลักษณ์เฉพาะตัวของแต่ละท้องถิ่นที่สอดแทรกเรื่องราวของอำเภอเอาไว้ แต่แสดงออกถึงความจงรักภักดีต่อสถาบัน ชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ รวมถึงความเชื่อและความศรัทธาตลอดจนสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญ ทั้งนี้ในเรื่องของเทคนิคการตกแต่งลวดลายนั้นบอกได้เพียงว่า จะมีการนำเอาเทคโนโลยีต่าง ๆ เข้ามาเสริมเพื่อให้เรือไฟที่จัดสร้างมีความสวยงามโดดเด่นตามจินตนาการและเป็นไปตามการออกแบบที่ได้วางเอาไว้ เพื่อสร้างความประทับใจและความทรงจำที่ไม่อาจลืมเลือนให้กับประชาชนและนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาเยือน เช่น ของอำเภอปลาปากจะทำให้เรือไฟในยามค่ำคืนตื่นตาตื่นใจไปกับลวดลายที่สวยงามบนเรือสุพรรณหงส์ที่ฝีพายสามารถเคลื่อนไหวได้ โดยพญานาคจะมีการแสดงอภินิหารพ่นไฟโชว์ให้ได้ชมในวันงาน ส่วนอำเภอโพนสวรรค์ที่ปีนี้หวังทวงคืนแชมป์การสร้างเรือไฟ ก็มีการจัดสร้างเรือไฟที่มีขนาดใหญ่ความยาวถึง 79 เมตร ส่วนความสูงเท่ากับตึก 8 ชั้นคือประมาณ 25 เมตร ที่แน่นอนคือมีลวดลายของเรือไฟเป็นเรือพระที่นั่งนารายณ์ทรงสุบรรณ รัชกาลที่ 9 โดยบนเรือจะมีการบอกเล่าเรื่องราวต่าง ๆ ที่ประดับตกแต่งด้วยตะเกียงไฟให้สวยงามตามจินตนาการที่รับรองว่าได้ชมแล้วต้องหยิบมือถือมาถ่ายภาพเก็บเป็นที่ระลึกอย่างแน่นอน

จึงอยากขอเชิญชวนทุกคนให้ได้มาสัมผัสความงดงามแห่งสายน้ำในครั้งนี้ไปพร้อมกัน เพราะนอกจากจะได้ชมเรือไฟไหลโชว์แล้ว ยังมีกิจกรรมการแสดงบินโดรนแปลอักษร ที่จะนำเอาภาพเรือไฟที่ประทับใจในปีก่อนหน้ามาแสดงโชว์ให้ได้ชมกลางท้องฟ้าในยามค่ำคืน หรือจะร่วมสะเดาเคราะห์ อธิฐานขอพรกับกิจกรรมเรือไฟโบราณ ที่เปิดโอกาสให้ทุกคนได้ประดิษฐ์เรือไฟขนาดเล็กไปวางในเรือไฟโบราณเมื่อประกอบพิธีเสร็จจะมีการนำไปลอยกลางแม่น้ำโขงเช่นเดียวกับเรือไฟขนาดใหญ่ หรือการรับชมการประกอบพิธีอัญเชิญไฟพระฤกษ์ พิธีรำบูชาพระธาตุพนม การแสดงศิลปวัฒนธรรมและวิถีชีวิตชนเผ่า การเดินแบบผ้าไทย การแสดงดนตรีของศิลปินชื่อดัง การแข่งขันเรือยาวชิงถ้วยพระราชทาน การออกร้านจำหน่ายสินค้า OTOP และสินค้าขึ้นชื่อของจังหวัดนครพนม รวมถึงกิจกรรมกาชาดหารายได้ไปช่วยเหลือผู้ยากไร้ในพื้นที่