ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.ขจิต ณ กาฬสินธุ์ รองอธิการบดีฝ่ายวิชาการ มหาวิทยาลัยนครพนม กล่าวว่า มหาวิทยาลัยนครพนม นอกจากการผลิตบัณฑิตที่มีทักษะความสามารถป้อนเข้าสู่ตลาดแรงงานแล้ว มหาวิทยาลัยยังมีพันธกิจในด้านการวิจัย การบริการวิชาการ เพื่อต่อยอดองค์ความรู้ไปสู่ชุมชนและสังคม โดยการนำผลสำเร็จจากงานวิจัยที่เป็นนวัตกรรมหรือเทคโนโลยีต่าง ๆ ไปช่วยสนับสนุนให้เกิดการสร้างงาน สร้างอาชีพในชุมชนและสังคมทั่วไป ทั้งในกลุ่มคนปกติ และกลุ่มคนที่เป็นผู้พิการ โดยเฉพาะการให้ส่งเสริมสวัสดิการต่าง ๆ ที่ก่อให้เกิดความเท่าเทียมทางสังคม ตลอดจนการสร้างการรับรู้ และสร้างเจตคติที่ดีสำหรับผู้พิการ โดยเมื่อวันที่ 24 พฤศจิกายน 2566 ที่ผ่านมา มหาวิทยาลัยนครพนม ได้มีการจัดเวทีถอดบทเรียนโครงการวิจัยและผลิตสื่อสร้างการเรียนรู้สำหรับประกอบอาชีพแก่คนพิการทางสติปัญญาและครอบครัว ภายใต้วิถีปกติใหม่ ที่มี ดร.คณิน เชื้อดวงผุย เป็นหัวหน้าโครงการ ร่วมกับ ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.เบญจยามาศ พิลายนต์ เด็กและครอบครัวของผู้พิการทางสติปัญญา และหน่วยงานภาคีเครือข่ายในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนริมแม่น้ำโขง คือ จังหวัดบึงกาฬ มุกดาหารและนครพนม เพื่อให้ผู้ที่สนใจได้มาศึกษา แลกเปลี่ยนความรู้ แนวความคิด ประสบการณ์ ร่วมกันหาทางพัฒนาต่อยอดงานวิจัยนี้ให้ลงสู่ชุมชนและครอบครัวคนพิการทางสติปัญญามากยิ่งขึ้น เพราะโครงการดังกล่าวเป็นโครงการที่ศึกษาเกี่ยวกับ ปัญหาความต้องการของเด็กและครอบครัวผู้พิการทางสติปัญญาในเรื่องการพัฒนาทักษะอาชีพ การออกแบบสื่อที่เหมาะสมและสอดคล้องกับสรรถนะของผู้พิการทางสติปัญญา และการนำสื่อที่ได้จากการทดลองงานวิจัยไปใช้ในการพัฒนาทักษะอาชีพให้กับเด็กและครอบครัวของผู้พิการทางสติปัญญา โดยได้รับการสนับสนุนจากกองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์
ซึ่งจากข้อมูลพบว่าทั่วโลกมีคนพิการมากกว่า 1,000 ล้านคน คิดเป็น 15 % ของประชากรทั้งหมด และในจำนวนนี้มีคนพิการทางสติปัญญามากถึง 200 ล้านคน ขณะที่ในประเทศไทยมีคนพิการกว่า 2 ล้านคน คิดเป็น 3.08 % ของประชากรทั่วประเทศ ซึ่งในจำนวนนี้มีคนพิการทางสติปัญญาประมาณ 140,000 คน ขณะที่ 3 จังหวัดชายแดนริมแม่น้ำโขงที่เป็นพื้นที่เป้าหมายของงานวิจัย พบว่ามีผู้พิการทางสติปัญญามากถึง 2,958 คน ประกอบไปด้วย จังหวัดนครพนม 1,814 คน บึงกาฬ 835 คน และมุกดาหาร 759 คน โดยในช่วงที่ผ่านมาที่เกิดการแพร่ระบาดของโควิด-19 พบว่าครอบครัวของผู้พิการทางสติปัญญาในพื้นที่เป้าหมายมีรายได้ลดลง บางครอบครัวแทบไม่มีรายได้จากการจ้างงานเลย ดังนั้นจึงเป็นที่มาของโครงการที่จะเข้ามาส่งเสริม สนับสนุน และเติมเต็มองค์ความรู้เพื่อพัฒนาเด็กและผู้พิการทางสติปัญญา ให้ได้มีทักษะ มีความสามารถในการประกอบอาชีพ และกลายเป็นอีหนึ่งกำลังเสริมในการหารายได้ช่วยเหลือครอบครัว เป็นการพัฒนาคุณภาพชีวิตคนในชุมชนให้มีความยั่งยืนมากยิ่งขึ้น
.jpg)
.png)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น