วันที่ 4 ตุลาคม 2562
ที่จังหวัดนครพนม นายสยาม ศิริมงคล ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม พร้อมด้วยนางวิไลวรรณ
ไกรโสดา รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม นายรังสรรค์ คัมภิรานนท์
รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม นำคณะหัวหน้าส่วนราชการ
เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องตลอดจนประชาชนจังหวัดนครพนม
ร่วมประกอบพิธีบวงสรวงสิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองจังหวัดนครพนมที่คอยปกป้องคุ้มครองให้ทุกคนปลอดภัยและอยู่อย่างร่มเย็นเป็นสุข
รวมทั้งสิ้น 9 แห่ง 13 จุด ประกอบไปด้วย บริเวณศาลหลังเมือง
พระบรมราชานุเสาวรีย์พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 ศาลพระภูมิเจ้าที่ภายในจวนผู้ว่าราชการจังหวัด
(หลังเก่า) ศาลเจ้าพ่อคำแดง วัดโอกาสศรีบัวบาน(พระติ้ว/พระเทียม/ศาลเจ้าพ่อหมื่น/ศาลปู่ย่า)
องค์พญาศรีสัตตนาคราช วัดศรีเทพประดิษฐาราม(หลวงปู่จันทร์/หลวงพ่อพระแสง)
ศาลเจ้าพ่อสิบสอง และศาลเจ้าพ่อสัมมะติ
เพื่อกราบไหว้ขอพรและเพื่อความเป็นสิริมงคล ก่อนเปิดงานประเพณีไหลเรือไฟและงานกาชาด
ประจำปี 2562 ที่จะมีขึ้นระหว่างวันที่ 6 - 14 ตุลาคม 2562 ณ
บริเวณศาลากลางจังหวัดนครพนมและบริเวณริมฝั่งแม่น้ำโขง เลียบถนนสุนทรวิจิตร
อำเภอเมือง จังหวัดนครพนม

สำหรับงานประเพณีไหลเรือไฟเป็นประเพณีเก่าแก่ที่ชาวจังหวัดนครพนมจัดขึ้นทุกปีในช่วงวันออกพรรษา
ตามความเชื่อที่ว่า
การไหลเรือไฟเป็นการบูชารอยพระพุทธบาทที่พระพุทธองค์ประทับไว้ที่ริมฝั่งแม่น้ำนัมทามหานที
เมื่อครั้งที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าเสด็จไปแสดงธรรมเทศนาโปรดพญานาคที่เมืองบาดาล
รวมถึงเป็นการระลึกถึงพระคุณของแม่น้ำโขงที่ได้ใช้หล่อเลี้ยงชีวิตมาและเป็นการขอขมาในสิ่งที่ได้ล่วงเกินลงไป
โดยในปีนี้จังหวัดนครพนม มีการจัดสร้างเรือไฟขนาดใหญ่ทั้งสิ้น 13 ลำ
ลำที่มีขนาดใหญ่สุดจะมีความยาว 110 เมตร สูงประมาณ 30 เมตร
ประดับตกแต่งลวดลายด้วยตะเกียงไฟประมาณ 12,000 ดวง
ซึ่งผู้ที่มาร่วมงานนอกจากจะได้ชมเรือไฟที่ยิ่งใหญ่ตระการตาแล้ว
ยังจะได้ร่วมพิธีอัญเชิญไฟพระฤกษ์
เพื่อนำไปจุดต่อให้ตะเกียงไฟบนเรือไฟสว่างไสวตามลวดลายที่ออกแบบด้วยความวิจิตรสวยงาม
รวมถึงการประกอบพิธีไหลเรือไฟโบราณที่เป็นภูมิปัญาชาวบ้านสืบสานต่อกันมาแต่โบราณ
ซึ่งก็จะแปลกตาออกไปอีกแบบด้วยขนาดที่เล็กเพียงประมาณ 3 เมตร
แต่จะมีการประดับตกแต่งที่แตกต่างออกไป ที่มีการสร้างเป็นปีนักษัตริย์
และเปิดโอกาสให้ผู้ที่มาร่วมงานได้นำเรือไฟขนาดเล็กที่ประดิษฐ์จากกาบกล้วยมาวางบนเรือไฟโบราณ
เพื่ออธิฐานขอพรร่วมกับผู้ที่เกิดปีเดียวกัน ก่อนที่เจ้าหน้าที่จะนำไปปล่อยกลางลำน้ำโขง
นอกจากนี้ยังมีพิธีรำบูชาพระธาตุพนมสิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองที่เป็นศูนย์รวมจิตใจของพุทธศาสนิกชน
2 ฝั่งโขง การร่วมสนุกลุ้นรับรางวัลกับสลากกาชาดที่จำหน่ายในราคาเพียงใบละ 50 บาท
แต่ได้โชคใหญ่เป็นรถยนต์กระบะ Double CAB 4 ประตู ชมการแสดงศิลปวัฒนธรรมและวิถีชีวิตชนเผ่า
การแสดงหมอลำพื้นบ้านอีสาน การเดินแบบผ้าลายมุก การประกวด B-BOY And Cover
Dance Contest 2019 การประกวด To Be Number One Idol
/Dancercise การประกวดร้องเพลงลูกทุ่ง/วงดนตรีลูกทุ่ง
การแสดงดนตรีของศิลปินชื่อดัง การแข่งขันเรือยาวชิงถ้วยพระราชทาน การออกร้านจำหน่ายสินค้า
OTOP และสินค้าขึ้นชื่อของจังหวัดนครพนม โดยงานนี้น่วยงานความั่นคงและงานด้านสาธารณสุข
พร้อมอำนวยความสะดวก ให้ความช่วยเหลือและให้บริการประชาชนตลอดจนนักท่องเที่ยวที่มาร่วมงานตลอดเวลา
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น