วันเสาร์ที่ 5 ตุลาคม พ.ศ. 2562

จิตอาสานครพนม พัฒนาทำความสะอาดเมืองครั้งใหญ่เตรียมต้อนรับนักท่องเที่ยวงานประเพณีไหลเรือไฟ 2562

วันที่ 5 ตุลาคม 2562 ที่จังหวัดนครพนม นายสยาม ศิริมงคล ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม พร้อมด้วยพลตำรวจเอก อดุลย์ แสงสิงแก้ว สมาชิกวุฒิสภาไทย ชุดที่ 12  นางวิไลวรรณ ไกรโสดา รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม และนายรังสรรค์ คัมภิรานนท์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม นำคณะหัวหน้าส่วนราชการ เจ้าหน้าที่และประชาชนจิตอาสาพระราชทาน 904 วปร. ร่วมทำความสะอาดและปรับแต่ภูมิทัศน์เมืองนครพนม ตั้งแต่บริเวณแลนด์มาร์คพญาศรีสัตตนาคราช เรื่อยไปตามเส้นทางริมแม่น้ำโขงจนถึงสะพานมิตรภาพแห่งที่ 3 นครพนม – คำม่วน ภายใต้กิจกรรม จิตอาสา เราทำความดีด้วยหัวใจ พัฒนาทำความสะอาดเมืองนครพนม

โดยกิจกรรมในครั้งนี้ ได้แบ่งหน้าที่รับผิดชอบออกเป็นโซนเพื่อให้การทำความสะอาดและปรับแต่งภูมิทัศน์ครอบคลุมพื้นที่ทั้งหมดตลอดความยาว 13 กิโลเมตรที่อยู่ริมฝั่งแม่น้ำโขง เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมในเรื่องสถานที่ให้เกิดความประทับใจสำหรับประชาชนและนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาเยือนจังหวัดนครพนม  โดยเฉพาะในช่วงระหว่างวันที่ 6 - 14 ตุลาคม นี้ ที่จังหวัดนครพนมได้มีการจัดงานประเพณ๊ไหลเรือไฟและงานกาชาดจังหวัดนครพนม ประจำปี 2562 ขึ้น ซึ่งคาดว่าจะมีประชาชนและนักท่องเที่ยวมาร่วมงานมากกว่า 10,000 คน เพื่อชมความงดงามและยิ่งใหญ่ตระการตาของเรือไฟ ที่จังหวัดนครพนมได้ร่วมกับหน่วยงานต่าง ๆ จาก 12 อำเภอ ทั้งภาครัฐ ภาคเอกชนและประชาชนในพื้นที่สร้างขึ้นมาเพื่อเป็นประทีปพุทธบูชารอยพระพุทธบาทในวันออกพรรษา ตามความเชื่อที่ว่าเมื่อครั้งพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเสด็จไปแสดงธรรมเทศนาโปรดพญานาคที่เมืองบาดาล ได้ทรงประทับรอยพระพุทธบาทไว้ที่ริมฝั่งแม่น้ำนัมทามหานที รวมถึงเป็นการระลึกถึงพระคุณของแม่น้ำโขงที่ทุกคนได้ใช้หล่อเลี้ยงชีวิตเสมอมา ทั้งเป็นการขอขมาลาโทษต่อสิ่งที่ได้กระทำล่วงเกินลงไป

 โดยในปีนี้จังหวัดนครพนมมีการจัดสร้างเรือไฟขนาดใหญ่ ทั้งสิ้น 13 ลำ ขนาดใหญ่สุดจะมีความยาวประมาณ 110 เมตร สูงประมาณ 30 เมตร และมีการประดับตกแต่งลวดลายด้วยตะเกียงไฟ ประมาณ 12,000 ดวง  เพื่อให้เกิดเป็นเรื่องราวเกี่ยวกับการส่งเสริมสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และศิลปวัฒนธรรมประเพณีท้องถิ่น เอกลักษณ์ท้องถิ่น รวมถึงมีการนำเอาเทคโนโลยีเข้ามาเพิ่มความยิ่งใหญ่ ด้วยการทำให้ลวดลายสามารถเคลื่อนไหวได้ขณะที่เรือไฟไหลไปตามสายน้ำโขงพร้อมกับกระทงสายกว่า 42,000 ดวงที่ไหลตาม นอกจากนี้ยังมีการสร้างไหลเรือไฟโบราณที่เป็นภูมิปัญญาชาวบ้านสืบสานต่อกันมาแต่โบราณ ที่มีขนาดเล็กประมาณ 3 เมตร ซึ่งการประดับตกแต่งจะแตกต่างออกไปจากเรือไฟขนาดใหญ่ โดยเรือไฟโบราณจะสร้างเป็นปีนักษัตริย์ ที่สำคัญคือเปิดโอกาสให้ผู้ที่มาร่วมงาน ได้นำเรือไฟขนาดเล็กที่ประดิษฐ์จากกาบกล้วยมาวางบนเรือไฟโบราณ เพื่ออธิฐานขอพรร่วมกับผู้ที่เกิดในปีเดียวกัน ก่อนที่เจ้าหน้าที่จะนำไปปล่อยกลางลำน้ำโขง ซึ่งจะเป็นการทำให้ผู้ที่มาร่วมงานได้ร่วมไหลเรือไฟไปพร้อมกับการชมความยิ่งใหญ่ตระการตาในวันออกพรรษาในปีนี้ 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น