วันที่ 6 ตุลาคม 2562
ที่จังหวัดนครพนม บรรยากาศของประชาชนและนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาร่วมงานประเพณีไหลเรือไฟและงานกาชาดจังหวัดนครพนม
ประจำปี 2562 ยังคงคึกคัก แม้ในช่วงเวลาประมาณ 16.30 น. ได้เกิดเหตุฝนตกและมีลมกรรโชกแรงทำให้เรือไฟขนาดใหญ่ที่สร้างเรียงรายอยู่ริมฝั่งแม่น้ำโขงได้รับความเสียหายจำนวน
2 ลำ จากทั้งหมด 13 ลำ ทำให้หลายคนที่มาเห็นเหตุการณ์ต่างรู้สึกเสียดายในความงดงาม
แต่ทางทีมงานผู้สร้างต่างมั่นใจว่าจะปรับปรุงแก้ไข ให้สามารถกับมาไหลได้ทันวันที่
13 ตุลาคม 2562 ที่เป็นวันออกพรรษาและมีการไหลเรือไฟทุกลำที่สร้างพร้อมกันอย่างแน่นนอน
นายสยาม ศิริมงคล
ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม กล่าวว่า งานประเพณีไหลเรือไฟจังหวัดนครพนมนั้น ถือเป็นงานประเพณีที่สำคัญและยิ่งใหญ่ของพี่น้องชาวนครพนม
เป็นที่รู้จักของบรรดานักท่องเที่ยว ทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศเป็นอย่างดี
ทั้งนี้คณะกรรมการที่จัดงาน ได้ใช้กลไกประชารัฐในการร่วมมือ ร่วมแรง ร่วมใจกันจัดงานประเพณีในครั้งนี้ขึ้น
ระหว่างวันที่ 6-14 ตุลาคม 2562 เพื่อเป็นการอนุรักษ์ขนบธรรมเนียมและประเพณีอันดีงามให้คงอยู่สืบไป
ทั้งเป็นการแสดงให้เห็นถึงความสมัครสมานสามัคคี และความเป็นน้ำหนึ่งอันเดียวกันของพี่น้องชาวจังหวัดนครพนม
ซึ่งการจัดงานในปีนี้จะเป็นไปด้วยความเรียบง่ายที่คงไว้ซึ่งวัฒนธรรมและประเพณีอันดีงาม
ที่มีกิจกรรมอย่างหลากหลายพร้อมให้ทุกคนได้มาสัมผัส
โดยในปีนี้จังหวัดนครพนมได้รับโอกาสให้นำกิจกรรมสำคัญนี้
ไปแสดงต่อหน้าคณะรัฐมนตรีและสื่อมวลชนจำนวนมากที่ทำเนียบรัฐบาล ในช่วงเวลาก่อนการประชุมคณะรัฐมนตรี
รวมถึงปีนี้มีความพิเศษคือวันไหลเรือไฟที่ตรงกับวันที่ 13 ตุลาคมเป็นวันออกพรรษา และเป็นวันคล้ายวันเสด็จสวรรคตของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
รัชกาลที่ 9 ซึ่งจังหวัดนครพนมจะมีกิจกรรมที่สอดคล้องกับการถวายความอาลัย ถวายพระเกียรติยศและถวายพระอัจฉริยภาพของพระองค์ท่านโดยพร้อมเพียงกัน
เพราะฉะนั้นจึงถือเป็นอีกปีที่มีความสำคัญยิ่ง แต่อย่างไรก็ตามการจัดงานย่อมมีปัญหาและอุปสรรคบ้าง
โดยในช่วงเย็นของวันนี้เวลาประมาณ 16.30 น ได้มีเรือไฟของบางอำเภอ ถูกพายุลมกรรโชกเสียหาย
และจากการตรวจสอบ พูดคุยกับนายอำเภอที่รับผิดชอบก็ได้รับการยืนยันว่าจะพยายามเร่งฟื้นฟู
หรือสร้างเรือไฟให้กลับมาให้ทันวันไหลเรือไฟ เพื่อเป็นการสืบสานประเพณีวัฒนธรรมที่ตกทอดมาของแต่ละอำเภอ
โดยแต่ละฝ่ายจะมีการระดมสรรพกำลังและเครื่องมาช่วยกันเพื่อให้แล้วเสร็จทันวันไหลจึงถือเป็นความร่วมไม้ร่วมมือที่น่าชื่นชมเป็นอย่างยิ่ง
เพราะนอกจากจะเป็นการแสดงออกถึงความเคารพเทิดทูนต่อสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์แล้ว
ยังให้เห็นถึงถึงความสมัครสมานสามัคคีของพี่น้องชาวนครพนมทั้งยามสุขและยามทุกข์


ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น