วันที่ 12 พฤศจิกายน 2562
ที่ห้องประชุมพระธาตุนคร ศาลากลางจังหวัดนครพนม(หลังใหม่) นายสยาม ศิริมงคล ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม
มอบหมายให้นางวิไลวรรณ ไกรโสดา รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม เป็นประธานการประชุมด่วน
เพื่อซักซ้อมทำความเข้าใจในการดำเนินการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉินให้เป็นไปตามระเบียบและหลักเกณฑ์การให้ความช่วยเหลือ
หลังได้รับรายงานจากทางอำเภอว่ามีประชาชนเริ่มได้รับความเดือดร้อนมีน้ำไม่เพียงพอ
ประกอบกับทางสถานีอุตุนิยมวิทยาจังหวัดนครพนม รายงานสถานการณ์ปริมาณน้ำฝนในพื้นที่จังหวัดนครพนม
ไม่มีฝนตกในพื้นที่หรือมีตกบ้างแต่ก็มีปริมาณน้อย ตั้งแต่ช่วงกลางเดือนกันยายน 2562
เป็นต้นมา เป็นเหตุให้หลายพื้นที่จังหวัดนครพนมเริ่มประสบความแห้งแล้ง และขาดแคลนน้ำเพื่อการอุปโภค
บริโภค รวมถึงพื้นที่การเกษตรเริ่มได้รับความเสียหาย
นางวิไลวรรณ ไกรโสดา รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม
เปิดเผยว่าในการประกาศให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉินนั้นมีการประกาศอยู่
2 ส่วนใหญ่ ๆ คือการประกาศเขตพื้นที่ประสบสาธารณภัย
เพื่อให้ส่วนราชการ หน่วยงาน องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นและภาคเอกชน
ดำเนินการช่วยเหลือตามอำนาจหน้าที่ ภายใต้ พ.ร.บ. พ.ศ. 2550 และการประกาศเขตการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน
เพื่อใช้จ่ายเงินทดรองราชการ ซึ่งในความเป็นจริง ณ
ปัจจุบันมีความคาบเกี่ยวกันในเรื่องของเวลา ระหว่างภัยของอุทกภัยและภัยแล้ง ซึ่งการดำเนินงานอาจจะกลายเป็นพื้นที่ทับซ้อนได้
ดังนั้นเพื่อซักซ้อมทำความเข้าใจในการดำเนินงานให้กับทุกคน ให้สามารถปฏิบัติงานได้อย่างถูกต้อง
เป็นไปตามระเบียบ ข้อบังคับ หลักเกณฑ์และอำนาจหน้าที่
โดยมีข้อมูลจากทุกฝ่ายมายืนยันตามหลักความเป็นจริง
ที่สำคัญคือสามารถให้การช่วยเหลือพี่น้องประชาชนในพื้นที่ได้อย่างรวดเร็วและทันท่วงที
จึงได้เชิญคณะหัวหน้าส่วนราชการ
ตลอดจนเจ้าหน้าที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งหมดร่วมประชุมด่วนในครั้งนี้
สำหรับข้อมูลเบื้องต้นที่ได้รับรายงาน
ณ วันที่ 8 พฤศจิกายน 2562 มีพื้นที่ 3 อำเภอ
ที่เริ่มได้รับผลกระทบ ประกอบไปด้วย อำเภอปลาปาก อำเภอศรีสงคราม อำเภอโพนสวรรค์ โดยมีพื้นที่การเกษตรที่คาดว่าจะได้รับความเสียหายทั้งสิ้น
7,764 ไร่ ขณะที่รายงานปริมาณน้ำฝนในจังหวัดนครพนมของโครงการชลประทานนครพนม
สำนักงานชลประทานที่ 7 ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม - 11 พฤศจิกายน 2562 มีปริมาณน้ำฝนตกสะสมน้อยกว่าปีที่ผ่านมา
350.5 มิลลิเมตร โดยมีปริมาณน้ำในการบริหารจัดการ ณ ปัจจุบัน 45.23
ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็น 90.23 ของความจุรวม ทั้งนี้ในพื้นที่เขตโครงการชลประทาน มีการเพาะปลูกข้าวนาปรัง
1,354 ไร่ พืชไร่ 2,230 ไร่ พืชผัก 572
ไร่ โดยมีการเตรียมแผนการรับมือกับภัยแล้ง ทั้งการเตรียมเครื่องสูบน้ำและรถบรรทุกน้ำไว้คอยช่วยเหลือเกษตรกร


ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น