วันที่ 12 กุมภาพันธ์ 2563 ที่สนามหน้าศาลากลางจังหวัดนครพนม
นายสยาม ศิริมงคล ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม พร้อมด้วยนายรังสรรค์ คัมภิรานนท์
รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม และนายชาตรี จันทร์วีระชัย
รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม นำคณะทำงานบูรณาการตรวจวัดปริมาณควันดำรถยนต์ที่ใช้ในหน่วยงานราชการเพื่อสร้างเป็นต้นแบบให้กับประชาชนในการร่วมกันแก้ไขปัญหามลพิษทางอากาศในพื้นที่จังหวัดนครพนม
โดยขั้นตอนการตรวจผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนมจะเป็นผู้ที่เหยียบคันเร่งรถยนต์เองทุกคัน
เพื่อจะได้เป็นมาตรฐานเดียวกันทั้งหมด สำหรับรถยนต์ที่มีปริมาณควันดำเกิน 45% จะออกคำสั่งห้ามใช้รถทันที
โดยจะพ่นสีแดงที่บริเวณกระจกรถยนต์ มีข้อความว่า ห้ามใช้ ซึ่งหน่วยงานยที่เป็นเจ้าของรถต้องนำรถไปทำการแก้ไขปรับปรุงและนำเข้ารับการตรวจสภาพ
ณ สำนักงานขนส่งภายใน 7 วัน เมื่อผ่านการตรวจสภาพแล้วจึงจะสามารถนำรถไปใช้งานได้อีกครั้ง
ขณะที่รถยนต์ที่มีค่าควันดำอยู่ระหว่าง 30 – 45 % ก็ใช้มาตรการแนะนำให้ความรู้ ในการดูแลรักษารถยนต์แก่ผู้ขับขี่
นายสยาม ศิริมงคล
ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม เปิดเผยว่า การแก้ปัญหาฝุ่นละออง PM 2.5
เป็นนโยบายของรัฐบาลที่ต้องการดูแลพี่น้องประชาชน ซึ่งทุกคนจะได้ยินได้ฟังข้อมูลข่าวสารมามากว่าปัญหาสิ่งแวดล้อมเรื่องฝุ่นละอองมลพิษทางอากาศ
เป็นปัญหาสำคัญที่ส่งผลกระทบในหลาย ๆ ภูมิภาค เช่น กรุงเทพฯ ปริมณฑล หรือจังหวัดใหญ่ๆ
ส่วนจังหวัดนครพนมแม้สภาพฝุ่นละอองในอากาศจะไม่มาก แต่ก็จากการตรวจวัดของกรมควบคุมมลพิษก็อยู่ในระดับที่อาจจะกระทบกับสุขภาพของพี่น้องประชาชน
ซึ่งปัญหาที่เกิดขึ้นก็มาจากหลายสาเหตุ ทั้งเรื่องของการเผาพืชไร่หรือวัสดุทางการเกษตร
เรื่องของการก่อสร้างถนนหนทาง อาคารบ้านเรือน ในเขตพื้นที่ชุมชนหนาแน่น และเรื่องของรถยนต์
ทั้งรถขนส่งและรถส่วนบุคคล ซึ่งส่วนราชการก็มีการใช้เช่นเดียวกัน เพราะฉะนั้นเมื่อเรารณรงค์ให้พี่น้องประชาชนให้ความสำคัญและตระหนักถึงปัญหาฝุ่นละออง
หน่วยงานราชการเองก็ต้องทำตัวเป็นตัวอย่างที่ดีให้กับประชาชน
จึงได้มีการทำข้อตกลงกับทุกส่วนราชการในจังหวัดในการนำรถยนต์ที่ใช้งานในทุกราชการมาตรวจวัดปริมาณควันดำ
ซึ่งทุกคันต้องเป็นไปตามมาตรฐานที่กรมการขนส่งทางบก กระทรวงคมนาคมกำหนด
คือต้องมีค่าปริมาณควันดำไม่เกิน 45 % จึงจะสามารถนำไปใช้งานบนท้องถนนได้
ถ้าคันไหนเกินก็ต้องมีการปรับปรุงแก้ไขให้แล้วเสร็จภายใน 7 วัน

ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น