วันที่
24 สิงหาคม 2563 ที่จังหวัดนครพนม นายสมชาย ชำนิ รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม เป็นประธานเปิดการอบรมโครงการสร้างเครือข่ายสายสัมพันธ์มาดีระดับจังหวัด
เพื่อการจัดทำสำมะโนประชากรและเคหะจังหวัดนครพนม ที่สำนักงานสถิติจังหวัดนครพนมจัดขึ้น
เพื่อสร้างการรับรู้เกี่ยวกับการจัดทำโครงการสำมะโนประชากรและเคหะในปี 2563 ที่คณะกรรมการบริหารโครงการฯ
มีมติเลื่อนการจัดทำออกไปจนกว่าสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่า
2019 จะสิ้นสุดลง เนื่องจากเป็นโครงการขนาดใหญ่ที่ต้องดำเนินการให้ครบถ้วนทุกพื้นที่ทั่วประเทศภายในระยะเวลาที่จำกัดและเป็นการจัดเก็บแบบดั้งเดิมคือการสัมภาษณ์แบบ
face to face แม้ในชั้นเตรียมแผนงานสำนักงานสถิติจังหวัดจะได้มีการประสานสร้างเครือข่ายประกอบไปด้วย
ภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาชน เพื่อเป็นกลไกในการขับเคลื่อนส่งเสริมสนับสนุนการปฏิบัติงานสนามในพื้นที่
รวมถึงเป็นการสร้างการรับรู้การในภารกิจของสำนักงานสถิติแห่งชาติและสำนักงานสถิติจังหวัดนครพนม
สร้างการรับรู้เกี่ยวกับภารกิจและคุณสมบัติของเครือข่ายมาดี ในการปฏิบัติงานในพื้นที่หรืองานภาคสนามเริ่มตั้งแต่การรับมอบหมายงาน
การส่งงาน การตรวจการณ์ และการรับค่าตอบแทน นอกจากนี้เครือข่ายมาดียังจะได้รู้เกี่ยวกับโครงการขนาดใหญ่ที่จะดำเนินงานต่อไปในอนาคต
เช่น สำมะโนธุรกิจและการค้า สำมะโนเกษตร ซึ่งเป็นโครงการที่เครือข่ายมาดีจะต้องมีการลงพื้นที่เก็บข้อมูล
โดยสำมะโนประชากรและเคหะเป็นการเก็บรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับประชากรทุกคนในประเทศและต่างชาติที่มาอยู่ในประเทศไทยตั้งแต่
3 เดือนขึ้นไปตามที่มีอยู่จริงและที่อยู่อาศัยจริงของประชากร
ณ วันสำมะโน ซึ่งเป็นการเก็บรวบรวมข้อมูลโครงสร้างพื้นฐานของประชากรในระดับพื้นที่ย่อย
เพื่อวัดการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างของประชาชนและที่อยู่อาศัยในรอบ 10 ปี โดยข้อมูลที่ได้จะจัดทำเป็นระบบสถิติและเป็นฐานข้อมูลขนาดใหญ่ที่เชื่อมโยงบูรณาการกับหน่วยงานภาครัฐและทุกภาคส่วน
เพื่อเป็นเครื่องมือในการขับเคลื่อนพัฒนาในทุกมิติได้อย่างถูกต้องเหมาะสมทั้งในระดับประเทศและระดับท้องถิ่น
เป็นเสียงสะท้อนให้หน่วยงานภาครัฐได้ใช้ในการกำหนดนโยบาย วางแผนพัฒนาและจัดสรรงบประมาณ
สาธารณูปโภค ตลอดจนการให้บริการแก่ประชาชนทุกกลุ่มวัยและการคาดการณ์ประชากรในอนาคต
ขณะที่ภาคเอกชนใช้ในการวางแผนและตัดสินใจดำเนินธุรกิจและขยายธุรกิจ
สถาบันการศึกษาใช้ในการศึกษาวิเคราะห์และงานวิจัยเป็นต้น

ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น