วันศุกร์ที่ 25 กันยายน พ.ศ. 2563

ไหลเรือไฟนครพนมวันแรก ประชาชนและนักท่องเที่ยวเริ่มคึกคัก

วันที่ 25 กันยายน 2563 ที่จังหวัดนครพนม บรรยากาศการเดินทางมาท่องเที่ยวงานประเพณีไหลเรือไฟและงานกาชาดจังหวัดนครพนม ประจำปี 2563 ของประชาชนและนักท่องเที่ยวเริ่มมีความคึกคักขึ้นเรื่อย ๆ ท่ามกลางมาตรการการเฝ้าระวังป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด – 19 ที่เข้มงวด ซึ่งที่พักบางแห่งมีการจองล่วงหน้าเต็มหมดแล้ว โดยในเวลา 18.30 น. นายสยาม ศิริมงคล ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนมได้เป็นประธานในพิธีเปิดงานประเพณีอันเก่าแก่และงดงามของชาวจังหวัดนครพนม ที่จัดขึ้นในช่วงเทศกาลวันออกพรรษาของทุกปี เป็นการบูชารอยพระพุทธบาทที่พระพุทธองค์ประทับไว้ที่ริมฝั่งแม่น้ำนัมทามหานที เมื่อครั้งที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าเสด็จไปแสดงธรรมเทศนาโปรดพญานาคที่เมืองบาดาล รวมถึงเป็นการระลึกถึงพระคุณของแม่น้ำโขงที่ได้ใช้หล่อเลี้ยงชีวิตมาและขอขมาในสิ่งที่ได้ล่วงเกินลงไป โดยในปีนี้จังหวัดนครพนมได้ร่วมกับหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน และประชาชนในพื้นที่จัดขึ้นจำนวน 10 วัน ซึ่งจะมีไปจนถึงวันที่ 4 ตุลาคม 2563


โดยในวันแรกบริเวณจุดที่ได้รับความสนใจจากประชาชนและนักท่องเที่ยวคงหนีไม่พ้นจุดที่มีการเปิดเพราะมีการแสดงแสงสีเสียง ที่เล่าเรื่องราวถึงความเป็นมาแห่งสายน้ำและประเพณีไหลเรือไฟให้ทุกคนได้ชมผ่านการแสดงก่อนพิธีเปิด รวมถึงการมอบเงินสนับสนุนกิจกรรมในครั้งนี้ ตามมาด้วยจุดที่เหล่ากาชาดจังหวัดนครพนมใช้ออกร้านกาชาดเพื่อหารายได้มาสนับสนุนภารกิจในการบรรเทาทุกข์และให้ความช่วยเหลือสงเคราะห์ประชาชนที่ประสบภัยและประสบปัญหาความเดือดร้อนต่าง ๆ เพราะในแต่ละวันนั้นจะมีรางวัลใหญ่ออกทุก ๆ วัน เช่น รถจักรยานยนต์ ตู้เย็น จักรยาน ทีวีสี LED เตาไมโครเวฟ หม้อหุงข้าวไฟฟ้าและรางวัลอื่น ๆ อีกมากมายกับการจับสลากมัจฉากาชาดที่จำหน่ายในราคาเพียง 20 บาท ขณะที่บางคนก็เลือกที่จะซื้อสลากกาชาดที่จำหน่ายในราคา 100 บาทเพื่อรอลุ้นรับรถยนต์กระบะ Double CAB 4 ประตู หรือรถยนต์เก่ง ที่จะมีการออกสลากในวันที่ 4 ตุลาคม 2563 และอีกจุดคงหนีไม่พ้นที่บริเวณริมฝั่งแม่น้ำโขงที่มีการไหลเรือไฟโชว์แม้จะมีขนาดความยาวประมาณ 40 เมตร ซึ่งเล็กกว่าเรือไฟแข่งขัน 1 เท่าตัว แต่ก็มีการประดับตกแต่งให้มีความสวยงามวิจิตรตระการตากับลวดลายที่โดดเด่นเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว ไม่แพ้เรือไฟแข่งขันประเภทความคิดสร้างสรรค์ที่จะใช้ไหลเพื่อเป็นประทีปพุทธบูชาในวันที่ 30 กันยายน จำนวน 2 ลำและ วันที่ 1 ตุลาคมไหลจำนวน 3 ลำ รวมถึงเรือไฟประเภทสวยงามที่จะมีการไหลในวันที่ 2 ตุลาคมที่เป็นวันออกพรรษาอีกจำนวน 7 ลำ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น