วันที่ 18 ธันวาคม 2563 ที่ห้องประชุมพระธาตุนคร
ชั้น 3 ศาลากลางจังหวัดนครพนม นายไกรสร กองฉลาด ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม
เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดนครพนม ครั้งที่ 31/2563 และประชุมทางไกลร่วมกับนายอำเภอผ่านระบบ
VDO
Conference เพื่อติดตามสถานการณ์ ผลการดำเนินงานและประเด็นปัญหาการเฝ้าระวังป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโควิด
-19 รวมถึงพิจารณาการจัดการแข่งขันกีฬาครูและบุคคลากรทางการศึกษาโรงเรียนอนุบาลประจำจังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
ครั้งที่ 11 ประจำปี 2563 การจัดงานรำลึก 60 ปี หอนาฬิกาเวียดนามอนุสรณ์คราวย้ายกลับปิตุภูมิ
และการขอผ่อนปรนขนส่งสินค้าข้ามแดนเป็นการชั่วคราว ที่บริเวณท่าเทียบเรือบ้านโพธิ์ไทร
อำเภอบ้านแพง นอกจากนี้ยังมีกรณีการแบ่งพื้นที่รับผิดชอบศูนย์โควิด – 19 และข้อสั่งการจากกระทรวงมหาดไทย รวมถึงการดำเนินงานในช่วงเทศกาลปีใหม่
ตามมาตรการเฝ้าระวังอุบัติเหตุ 7 วันอันตราย และมาตรการป้องกันควบคุมโควิด – 19
โดยในส่วนของสถานการณ์ covid 19 ทั่วโลกนั้น
พบว่าไวรัสมีการกลายพันธุ์และพบผู้ป่วยเพิ่มขึ้นในหลายพื้นที่ ขณะที่ประเทศไทยก็มีการพบผู้ติดเชื้อเช่นเดียวกัน
ทั้งนี้ในส่วนของจังหวัดนครพนมยังไม่พบผู้ติดเชื้อมาแล้ว 247 วัน นับจากวันที่กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข ประกาศรายสุดท้ายของจังหวัดนครพนมไปเมื่อวันที่
13 เมษายน 2563 โดยจังหวัดนครพนมมีผู้ป่วยที่เข้าเกณฑ์การเฝ้าระวังและสอบสวนโรค
pui covid 19 แบ่งเป็น ผู้ที่เดินทางมาจากพื้นที่เสี่ยง 90
ราย ผู้ป่วยปอดอักเสบหาสาเหตุไม่ได้ 62 ราย ผู้ที่เดินทางมาจากประเทศ
30 ราย บุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุข 12 ราย สำหรับประเด็นปัญหาในการเฝ้าระวังป้องกันและควบคุมโรคจากการลงพื้นที่ตรวจประเมินสถานประกอบการภายในจังหวัดนครพนมพบว่า
ร้านจำหน่ายอาหารหรือเครื่องดื่ม ร้านสะดวกซื้อ ร้านค้าปลีกค้าส่ง ร้านเสริมสวยแต่งผมหรือตัดผมสำหรับสุภาพบุรุษหรือสตรี
โรงแรม รีสอร์ท ที่พัก สถานที่ออกกำลังกาย และตลาดบางแห่งไม่ผ่านเกณฑ์มาตรฐานตามที่กำหนด
จึงได้มีการแจ้งเตือนให้ปรับปรุงเป็นการด่วนพร้อมคาดโทษหากตรวจพบในครั้งต่อไปจะให้ปิดเป็นเวลา
14 วัน ส่วนการขอผ่อนปรนขนส่งสินค้าข้ามแดนเป็นการชั่วคราวและการจัดกิจกรรมนั้น
มติที่ประชุมได้มีการอนุญาตให้ดำเนินการได้แต่ต้องอยู่ภายใต้การควบคุมและการดำเนินงานเฝ้าระวังป้องกันการแพร่ระบาดไวรัสโควิด
– 19 ที่ได้มาตรฐานทุกประการ ส่วนกรณีการแบ่งพื้นที่รับผิดชอบศูนย์โควิด
– 19 แบ่งการปฏิบัติเป็นพื้นที่ชายแดน
พื้นที่ตอนใน และพื้นที่หมู่บ้าน/ชุมชน ซึ่งทุกหน่วยที่เกี่ยวข้องจะมีการบูรณาการงานร่วมกัน
หากพบบุคคลที่เดินทางจากพื้นที่เสี่ยง ให้ดำเนินการตามมาตรการเฝ้าระวังป้องกันไวรัสโควิด-
19 กรณีพบการละเมิดให้พิจารณาดำเนินการตามกฎหมายทุกราย เช่นพบการลักลอบข้ามชายแดนเข้ามาในพื้นที่
เมื่อกักตัวครบ 14 วันแล้วให้ส่งดำเนินคดีตามกฎหมาย ทั้งนี้มติที่ประชุมได้เน้นย้ำให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งสร้างการรับรู้เข้าใจ
และขอความร่วมมือกับประชาชนและภาคประชาสังคมในการปฏิบัติตัวในการเฝ้าระวังป้องกันไวรัสโควิด
– 19 ที่ต้องมีการตรวจคัดกรองวัดอุณหภูมิร่างกาย เว้นระยะห่าง ล้างมือ และสวมแมสหรือหน้ากากผ้า
เพื่อเป็นการสร้างเกาะป้องกันให้กับตนเองและทุกคน สำหรับมาตรการเฝ้าระวังอุบัติเหตุ
7 วันอันตราย
และมาตรการป้องกันควบคุมโควิด – 19
ในช่วงเทศกาลปีใหม่นั้น ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนมได้เน้นย้ำให้ผู้รับผิดชอบประสานกับผู้ประกอบการที่กำลังดำเนินการสร้างและปรับปรุงซ่อมแซมถนนให้มีการติดตั้งป้ายสัญญาณจราจร
ป้ายแจ้งเตือนและไฟส่องสว่างให้เพียงพอทุกจุด ให้ทุกอำเภอบูรณาการหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้มข้นในเรื่อง
เมาขับ
เสพขับ
โดยเฉพาะกรณีคนที่ประสบเหตุเป็นเด็ก ให้สืบสวนเอาผิดถึงผู้ที่จำหน่ายจ่ายแจกทุกราย

ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น