นครพนม ออกปฏิบัติการฟ้าสางที่ฝั่งโขง ระดมกวาดล้างยาเสพติดในพื้นที่

 

วันที่ 8 ธันวาคม 2563 ที่จังหวัดนครพนม นายไกรสร กองฉลาด ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม เป็นประธานปล่อยแถวเปิดยุทธการระดมกวาดล้างยาเสพติด ครั้งที่ 1 ตามแผนยุทธการฟ้าสางที่ฝั่งโขง ที่จังหวัดนครพนมได้ประกาศแผนป้องกันและปราบปรามยาเสพติดใช้เป็นกรอบแนวทางการปฏิบัติงานในปีงบประมาณ 2564 โดยได้มีการบูรณาการหน่วยความมั่นคงที่เกี่ยวข้อง ประกอบไปด้วย ศูนย์ปฏิบัติการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดกองทัพภาคที่ 2 ศูนย์อำนวยการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดชายแดนภาคตะวันออกเฉียงเหนือ  กองกำลังสุรศักดิ์มนตรี ตำรวจภูธรภาค 4 สำนักงานป้องกันและปราบปรามยาเสพติด ภาค 4 กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในจังหวัดนครพนม ตำรวจภูธรจังหวัดนครพนม มณทลทหารบกที่ 210 ปกครองจังหวัดนครพนม หน่วยเรือรักษาความสงบเรียบร้อยตามลำแม่น้ำโขง ศูนย์ปฏิบัติการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดอำเภอทุกแห่ง และหน่วยงานความมั่นคงในพื้นที่จังหวัดนครพนม ร่วมกันปิดล้อมระดมกวาดล้างยาเสพติดเพื่อปราบปรามผู้ค้ายาเสพติดให้หมดไปจากพื้นที่

โดยยุทธการฟ้าสางที่ฝั่งโขงจะมีทั้งการเฝ้าระวังป้องกัน ปราบปราม และการปิดล้อมตรวจค้นตามหมายศาล ทั้ง 12 อำเภอในพื้นที่จังหวัดนครพนม ซึ่งในห้วง 4 วันที่ผ่านมาจนถึงวันนี้ 8 ธันวาคม 2563 มีการดำเนินการไปแล้ว 65 ครั้ง ได้ผู้ต้องหา 51 ราย ได้ของกลางยาบ้า 1,203,262 เม็ด กัญาชา4 กรัม ยาไอซ์ 3.66 กรัม ปืน 5 กระบอก และเครื่องกระสุน 4 นัด ขณะที่ในรอบปีงบประมาณ 2564 ตั้งแต่ 1 ตุลาคม – 8 ธันวาคม  มีผลการจับกุมผู้ต้องหา รวม 355 ราย 362 คน ได้ของกลางรวม ยาบ้า 7,028,401เม็ด กัญชา 2,648 กิโลกรัม ไอซ์ 38.7 กรัม เฮโรอีน 248 กิโลกรัม อาวุธปืน 5 กระบอก กระสุนปืน 5 นัด รถยนต์ 8 คัน  

นายไกรสร กองฉลาด ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม เปิดเผยว่า ยาเสพติดเป็นปัญหาใหญ่ที่บ่อนทำลายประชาชนและประเทศชาติ เป็นปัญหาที่ส่งผลกระทบรุนแรงไปถึงทุกภาคส่วนและนับวันจะยิ่งรุนแรงขึ้น ซึ่งการปล่อยแถวตามแผนยุทธการฟ้าสางที่ฝั่งโขงในครั้งนี้ถือเป็นการ kick off เพื่อเป็นการส่งสัญญาณออกไป ไม่เฉพาะผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับยาเสพติดทั้งทางตรงทางอ้อมเท่านั้น แต่อยากจะส่งให้ถึงประชาชนและเจ้าหน้าที่ของรัฐทุกภาคส่วนด้วย ไม่เว้นแม้แต่พระสงฆ์ เพราะประสบการณ์ที่ผ่านมาเริ่มต้นจากการกวาดบ้านตนเองเพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจ ก่อนที่เราจะลงไปทำงานกับชาวบ้าน ซึ่งหนึ่งในการกวาดบ้านก็ต้องกวาดวัดด้วยเนื่องจากพบว่าที่วัดมีเปอร์เซ็นต์สูงมาก เฉลี่ยประมาณ 5 เปอร์เซ็นต์ที่เจอ เพราะคนไทยถือว่าถ้าลูกหลานไม่ดี แมวหมาไม่ดีนึกถึงวัดไว้ก่อน ด้วยคิดว่าวัดจะเป็นที่ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมได้ โดยในการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดในปีนี้ได้เน้นย้ำใน 3 มาตรการใหญ่ ๆ  คือ มาตรการกวาดล้างยาเสพติดปราบปรามผู้ค้ายาเสพติดในพื้นที่ให้หมดสิ้นไป มาตรการกวาดบ้านเจ้าหน้าที่รัฐทุกคนต้องไม่ยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด และมาตรการจัดตั้งจุดตรวจหมู่บ้านชุมชนให้เฝ้าระวังปัญหายาเสพติดในชุมชน เป็นการป้องกันหมู่บ้านตนเองให้ปลอดภัยยาเสพติด ซึ่งการออกปฏิบัติหน้าที่ทุกนายต้องปฏิบัติตามระเบียบ ขั้นตอน และกฎหมายอย่างถูกต้องและเคร่งครัด โดยมีความระมัดระวัง คำนึงถึงความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของตนเองและประชาชนด้วย