วันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2564 ที่จังหวัดนครพนม นายไกรสร กองฉลาด ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม นำคณะทำงานลงพื้นที่ติดตามการขุดสระน้ำคลองส่งน้ำและการยกร่องแปลงนา ที่มีการออกแบบให้เป็นโคก หนอง นา โมเดล ตามโครงการสระน้ำไร่นา ประชารัฐสามัคคี จังหวัดนครพนม ที่จังหวัดนครพนมได้มีการบูรณาการความร่วมมือ ทั้งหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชนและประชาชน ในลักษณะประชารัฐสามัคคี เพื่อปรับเปลี่ยนพื้นที่แปลงนาของเกษตรกรบ้านดอนแดง ตำบลนาทม อำเภอนาทม ให้มีความพร้อมสำหรับการทำการเกษตรแบบผสมผสาน ภายใต้แนวคิดหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงและการแก้ไขปัญหาการขาดแคลนน้ำในการทำการเกษตร
โดยภายหลังจากตรวจดูสภาพการขุดสระน้ำ
คลองส่งน้ำและการยกร่องแปลงนาเพื่อทำการเกษตรแบบผสมผสานทั้งหมดของพื้นที่แล้ว
ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนมได้มีการประชุมหารือกับคณะทำงานร่วมกับเกษตรกรที่เข้าร่วมโครงการทันที
เพื่อวางแผนการขับเคลื่อนโครงการให้มีความต่อเนื่อง
ซึ่งเบื้องต้นจากการตรวจดูสภาพของสระน้ำและคลองส่งน้ำแล้วมีน้ำน้อย มองว่าถ้ามีการนำพืชและต้นไม้มาลงปลูกในแปลงจะมีความเสี่ยงที่น้ำจะมีไม่เพียงพอต่อการเจริญเติบโต
และถ้ารอให้ถึงฤดูฝนที่จะมีน้ำมาเติมในสระก็จะล้าช้าในการขับเคลื่อนโครงการจนเกินไป
ดังนั้นจึงได้มีการวางแผนที่จะเจาะบ่อบาดาลเพิ่มเติม เพื่อที่จะให้สามารถสูบน้ำเข้ามาเติมในสระได้
และสามารถขับเคลื่อนโครงการในส่วนอื่น ๆ ให้เป็นไปตามเป้าหมายและทันช่วงเวลาได้
ด้านนายอดุลย์
โบราณกุล เกษตรกรบ้านดอนแดงที่เข้าร่วมโครงการฯ เปิดเผยว่า ตนเองมีที่นาอยู่ 8 ไร่
3 งาน
ปกติจะปลูกข้าวเป็นประจำทุกปี เมื่อหน่วยงานมีโครงการสระน้ำไร่นา ประชารัฐสามัคคี ออกมา
ก็มีความสนใจเพราะจากการรับฟังข้อมูลแล้ว จะมีทั้งการถ่ายทอดความรู้ด้านการเกษตร
การปรับปรุงพื้นที่นาให้ มีการขุดสระให้ ทั้งมีการสนับสนุนด้านอื่น ๆ อีก ซึ่งมองว่าเมื่อที่นามีน้ำ
มีสระน้ำ ก็จะสามารถทำการเกษตรที่หลากหลายได้มากยิ่งขึ้น จะมีรายได้เพิ่มมากยิ่งขึ้น
ดังนั้นจึงได้ขอเข้าร่วมโครงการนี้ โดยได้แบ่งที่นาจำนวน 4 ไร่ 3
งานเข้าร่วมโครงการ และมีการวางแผนว่าจะทำการเกษตรในพื้นที่ตรงนี้ ประกอบไปด้วย
การทำนา ปลูกกล้วย ปลูกผักประเภทแตงกวา ถั่วฝักยาว พริก ไม้ผล เช่น ส้มโชกุน และส้มโอ
นอกจากนี้ยังจะมีการเลี้ยงโคเนื้อ และเลี้ยงปลาในบ่อดินแห่งนี้
และหวังว่าในอนาคตที่นาแปลงนี้จะกลายเป็นศูนย์การเรียนรู้ต้นแบบด้านเกษตรอินทรีย์
การจัดการสิ่งแวดล้อม และแหล่งท่องเที่ยววิถีชุมชน


ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น