วันพุธที่ 3 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2564

จ.นครพนม รวมพลัง TambonSmartTeam ขับเคลื่อนโครงการเราชนะหวังกระตุ้นเศรษฐกิจทั้งจังหวัด

 

วันที่ 3 กุมภาพันธ์ 2564 ที่ห้องประชุมพระธาตุพนม ชั้น 5 ศาลากลางจังหวัดนครพนม นายพรต ภูภักดิ์ ปลัดจังหวัดนครพนมเป็นประธานการประชุมชี้แจงสร้างความเข้าใจในแนวทางการปฏิบัติให้กับเจ้าหน้าที่ TambonSmartTeam ของแต่ละอำเภอ ที่จะร่วมกันบูรณาการขับเคลื่อนโครงการเราชนะ จังหวัดนครพนม ร่วมกับสำนักงานคลังจังหวัดนครพนมและธนาคารกรุงไทย ด้วยการลงพื้นที่อธิบายถึงสิทธิ์และขั้นตอนการปฏิบัติที่ถูกต้องให้กับประชาชน ผู้ประกอบการและร้านค้าในพื้นที่ ให้สามารถสมัครเข้าร่วมโครงการเราชนะได้ทันช่วงเวลา ที่รัฐบาลกำหนด และทุกคนได้รับสิทธิ์การช่วยเหลือค่าครองชีพเนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดโรคติดเชื้อไวรัสโควิด -19 ระลอกใหม่ จำนวน 3,500 บาทต่อคนต่อเดือน เป็นระยะเวลา 2 เดือน ซึ่งจะเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจในพื้นที่ให้กับมามีความพร้อมอีกครั้ง

โดยโครงการเราชนะ ที่มีการแบ่งกลุ่มบุคคลที่จะได้รับสิทธิ์ออกเป็น 3 กลุ่ม คือ กลุ่มผู้ที่ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐจะได้สิทธิ์โดยอัตโนมัติ โดยในส่วนเงินเพิ่มเติมโครงการเราชนะ จะสามารถสะสมไปใช้จ่ายได้จนถึงวันที่ 26 มี.ค 64 ซึ่งจะได้รับครั้งแรก 675 หรือ 700 บาท ขึ้นอยู่กับรายได้ของแต่ละคนที่มีสิทธิ์ จากนั้นจะได้รับทุกวันศุกร์จนครบตามจำนวน กลุ่มต่อมาคือกลุ่มผู้ที่อยู่ในระบบฐานข้อมูลแอพพลิเคชั่น เป๋าตัง ในโครงการคนละครึ่งและเราเที่ยวด้วยกัน ที่ได้ให้ความยินยอมไว้ให้นำข้อมูลไปประมวลผลหรือเปิดเผยเพื่อดำเนินมาตรการอื่น ๆ ของรัฐได้  ซึ่งกลุ่มนี้ก็ไม่ต้องดำเนินการอะไร หากผ่านเกณฑ์การคัดกรองจะมีข้อความแจ้งเตือนผ่านแอปเป๋าตังให้กดยืนยันสิทธิ์ เมื่อยืนยันจะได้รับวงเงิน 2,000 บาท จากนั้นทุกวันพฤหัสบดีจะมีเงินเข้าจนครบตามจำนวน ขณะที่กลุ่มที่ 3 ซึ่งเป็นกลุ่มที่ไม่ได้อยู่ในฐานข้อมูลผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ และไม่เป็นผู้ที่มีแอปเป่าตัง จะต้องมีการลงทะเบียนออนไลน์ผ่าน www เราชนะ.com  ก่อนเวลา 23.00 น. ของวันที่ 12 กุมภาพันธ์ 2564 โดยกลุ่มที่ 2 และ 3 สามารถสะสมเงินไว้ใช้จ่ายได้จนถึง 31 พฤษภาคม 2564 ทั้งนี้ในส่วนของผู้ที่ไม่มีสิทธิ์เข้าร่วมโครงการเราชนะ คือกลุ่มผู้ประกันตนมาตรา 33 เจ้าหน้าที่หรือผู้ปฏิบัติงานอื่นใดในหน่วยงานของรัฐ ข้าราชการการเมือง และผู้ที่รับบำนาญหรือเบี้ยหวัดจากส่วนราชการ ผู้มีเงินได้พึงประเมินเกิน 300,000 บาท และไม่เป็นผู้มีเงินฝากเกิน 500,000 บาท

สำหรับร้านค้าและสถานประกอบการที่อยากเข้าร่วมโครงการ สามารถลงทะเบียนได้ 2 ทาง คือผ่านทางระบบออนไลน์และธนาคารกรุงไทย โดยร้านค้าและสถานประกอบการเดิมที่เคยเข้าร่วมโครงการที่ใช้แอพพลิเคชั่นถุงเงินจะต้องอัปเดทระบบให้ปัจจุบันก็จะสามารเข้าร่วมโครงการได้เลย ส่วนผู้ที่ใช้เครื่อง EDC ก็จะต้องกดอัปเดทเพื่อปรับปรุงเมนูเช่นเดียวกันซึ่งเมื่ออัปเดทแล้วจะมี 2 เมนู คือ เมนูที่ใช้กับบัตรสวัสดิการแห่งรัฐและเมนูถุงเงิน

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น