วันที่ 19 มีนาคม 2565 ที่หน่วยเรือรักษาความสงบเรียบร้อยตามลำแม่น้ำโขง จังหวัดนครพนม นายชาธิป รุจนเสรี ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม พร้อมด้วย พลเรือตรี สมบัติ จูถนอม ผู้บัญชาการหน่วยเรือรักษาความสงบเรียบร้อยตามลำแม่น้ำโขง ( ผบ.นรข.) นาวาเอก พรภิรมย์ ยศบุญ ผู้บังคับการหน่วยเรือรักษาความสงบเรียบร้อยตามลำแม่น้ำโขง เขตนครพนม นาวาโท ธนะพงษ์ สุดรักษ์ หัวหน้าสถานีเรือบ้านแพง พันเอก ปราโมทย์ เนียมสำเภา รองผู้บังคับการกองบังคับการควบคุมที่ 1 กองกำลังสุรศักดิ์มนตรี ร้อยเอก ธนากร นาเหล็ก ผู้บังคับกองร้อยทหารพรานที่ 2109 หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 21 ร้อยตำรวจเอก อุทัย เกิดแก้ว และเจ้าหน้าที่หน่วยความมั่นคงในพื้นที่ที่เกี่ยวข้องร่วมกันแถลงข่าวผลการบูรณาการความร่วมมือเฝ้าระวัง ป้องกัน และปราบปรามยาเสพติดตามแนวชายแดนและในพื้นที่ ภายใต้แผนยุทธการฟ้าสางที่ฝั่งโขง ประจำปี 2565 ที่เมื่อวันที่ 18 มีนาคม 2565 ที่ผ่านมาสามารถตรวจยึดยาบ้า จำนวน 230,000 เม็ด พร้อมกัญชาอัดแท่ง จำนวน 10 แท่ง/กิโลกรัม เรือกีบพร้อมเครื่องยนต์ 1 ลำ และอุปกรณ์หาปลา ภายหลัง ผบ.นรข.ได้มีคำสั่งกำชับสั่งเข้มงวดกวดขันการกระทำผิดตามกฎหมายต่าง ๆ ในพื้นที่รับผิดชอบ พร้อมให้ประสานบูรณาการงานข่าว ร่วมกับหน่วยความมั่นคงในพื้นที่ จนทราบว่าจะมีการลักลอบลำเลียงยาเสพติดเข้ามาในราชอาณาจักรไทย บริเวณริมฝั่งแม่น้ำโขง บ้านท่าหนามแก้ว ตำบลหนองเทา อำเภอท่าอุเทน จังหวัดนครพนม
โดยเจ้าหน้าที่ได้จัดชุดลาดตระเวนทั่งทางบกและทางน้ำ กระทั่งเวลา 4.30 น. ได้ตรวจพบเรือต้องสงสัย 2 ลำ ลอยลำอยู่กลางแม่น้ำโขง จากนั้นไม่นาน 1 ใน 2 ลำ ก็แล่นเข้ามาที่ท่าน้ำ แล้วก็มีชาย 2 คน เดินลงบันไดทางขึ้น – ลงที่มายังที่เรือเข้าจอดเทียบ เจ้าหน้าที่สังเกตเห็นว่าชายทั้งคู่กำลังขนของขึ้นจากเรือจึงได้แสดงตัวขอเข้าตรวจค้น เมื่อเห็นดังนั้นชาย 2 คนก้ได้ทิ้งวัตถุต้องสงสัยแล้ววิ่งหนีหายไปในความมืดทันทีด้วยความชำนาญ ส่วนผู้ต้องสงสัยที่อยู่ในเรือก็ได้กระโดดน้ำหนีไปขึ้นเรืออีกลำที่ลอยอยู่กลางแม่น้ำโขง แล้วติดเครื่องยนต์แล่นข้ามไปยังฝั่งประเทศเพื่อนบ้าน เจ้าหน้าที่จึงได้ทำการตรวจสอบบริเวณดังกล่าวพบกระสอบสีเหลืองบนขั้นบันได จำนวน 2 กระสอบ และปลายบันไดทางขึ้นบริเวณหัวเรือ 2 กระสอบ เมื่อตรวจสอบภายในพบเป็นยาบ้าจำนวน 230,000 เม็ดและกัญชาอัดแท่งจำนวน 10 แท่ง/กิโลกรัม จึงได้ทำบันทึกตรวจยึดพร้อมนำส่งพนักงานสืบสวนสอบสวน สภ.ท่าอุเทนพร้อมของกลางอื่น ๆ คือ เรือกีบพร้อมเครื่องยนต์ จำนวน 1 ลำ และอุปกรณ์หาปลา ทั้งนี้เจ้าหน้าที่พบว่าลักษณะพฤติการณ์การลำเลียงยาเสพติดในครั้งนี้มีการเปลี่ยนแปลงไปจากเดิม เพราะเป็นลักษณะการแอบแฝงมาในรูปการปลอมเป็นชาวประมงในพื้นที่ออกหาปลาในเวลากลางคืน ทำให้เจ้าหน้าที่จับสังเกตได้ยากขึ้น โดยหลังจากนี้ฝ่ายความมั่นคงของจังหวัดนครพนมจะมีการนำเรื่องดังกล่าวเข้าที่ประชุมเพื่อหารือวางแผนในการจัดระเบียบเรือประมงในพื้นที่ ซึ่งจะส่งผลดีต่อการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ทำให้สามารถแยกแยะได้ว่าเป็นชาวประมงตัวจริงหรือเป็นคนที่แอบแฝงมา ทั้งยังทราบเวลาที่ชัดเจนในการใช้เรือทำการประมง รวมถึงจะมีการเสนอเรื่องดังกล่าวเข้าที่ประชุมระหว่างประเทศที่จะมีขึ้นในเร็ววันนี้ เพื่อร่วมกันวางมาตรการและจัดระเบียบเป็นการเฝ้าระวังป้องกัน การลักลอบกระทำผิดกฎหมายทุกประเภทด้วย.jpg)
.jpg)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น