วันศุกร์ที่ 21 ตุลาคม พ.ศ. 2565

ศูนย์ภูมิคุ้มกันและโรคระบบทางเดินหายใจ US.CDC และหน่วยคุ้มครองสุขภาพโลก (DGHP) เยี่ยมติดตามการดำเนินงานจังหวัดนครพนม

วันที่ 21 ตุลาคม 2565 นายแพทย์กิตติเชษฐ์ ธีรกุลพงศ์เวช รองนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดนครพนม เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 20 ตุลาคม 2565 นายแพทย์ปรีดา วรหาร นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดนครพนม มอบหมายให้ร่วมกับ ดร.ศิริลักษณ์ ใจช่วง ผู้ช่วยนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดนครพนม นายแพทย์ธนสิทธิ์ ไพรพงษ์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลนครพนม ดร.บารเมษฐ์ ภิราล้ำ ผู้จัดการโครงการโครงการวิจัยและเฝ้าระวังโรคโควิด-19และคณะเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ร่วมให้การต้อนรับ Dr. Beth Skaggs หัวหน้าฝ่ายห้องปฏิบัติ DGHP, ดร.สายทิพย์ เพ่งศรี นักระบาดวิทยา และ ดร.พงษ์พันธ์ สวาสดิ์สงค์ นักวิทยาศาสตร์การแพทย์ หน่วยคุ้มครองสุขภาพโลก (DGHP: Division of Global Health Protection) พร้อมด้วย Dr. Maureen Diaz, Dr. Maliha Ishaq ศูนย์ภูมิคุ้มกันและโรคระบบทางเดินหายใจ จากศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคแห่งชาติประเทศสหรัฐอเมริกา (U.S. CDC) ที่ได้เดินทางมาเยี่ยมและติดตามนิเทศงานหน่วยคุ้มครองสุขภาพโลกจังหวัดนครพนม (DGHP NP)

โดยได้มีการร่วมประชุมหารือ และนำเสนอผลการดำเนินงานโครงการวิจัยและเฝ้าระวังโรคโควิด-19 ในผู้ที่มีอาการไข้จังหวัดนครพนม ของหน่วยคุ้มครองสุขภาพโลกจังหวัดนครพนม ซึ่งเริ่มดำเนินงานมาตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม 2564 มีผู้ป่วยที่ยินดีเข้าร่วมโครงการ จำนวน 4,873 ราย มีโรงพยาบาลที่เข้าร่วมโครงการจำนวน 3 โรงพยาบาล ได้แก่ โรงพยาบาลนครพนม โรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชธาตุพนม และโรงพยาบาลศรีสงคราม โดยยังคงทำการคัดกรองผู้ป่วยที่เข้าร่วมโครงการ และตรวจหาเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ด้วยวิธีการตรวจ PCR และนัดผู้ป่วยกลับมาตรวจซ้ำ เพื่อติดตามดูอาการและการเปลี่ยนแปลงของเชื้อ แบบไม่มีค่าใช้จ่าย ทั้งนี้หลังเดือนสิงหาคม 2565 มีการปรับนิยามการคัดกรองเพื่อให้ครอบคลุมการตรวจมากยิ่งขึ้น

นอกจากนี้ยังมีการหารือความร่วมมือโครงการวิจัยในอนาคตที่จะเกิดขึ้น คือ การพัฒนาระบบ Smart ER เพื่อคัดกรองและจำแนกผู้ป่วยที่มีอาการติดเชื้อในกระแสเลือดที่เข้ามารับการรักษาในแผนกผู้ป่วยฉุกเฉิน โรงพยาบาลนครพนม โดยแยกตามประเภทความรุนแรงของอาการ เพื่อประกอบการวินิจฉัยและการพิจารณาให้การรักษาของแพทย์อย่างเหมาะสม ทันเวลา ซึ่งจะเป็นประโยชน์ในการพัฒนาระบบสุขภาพของพื้นที่และเป็นประโยชน์สำหรับผู้ป่วยที่มารับการรักษาในโรงพยาบาล


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น