วันที่ 29 ตุลาคม 2566 ที่บริเวณลานพนมนาคา เทศบาลเมืองนครพนม จังหวัดนครพนม นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ได้เดินทางมาเป็นประธานเปิดมหกรรมไหลเรือไฟจังหวัดนครพนม โดยมีนางสาวธนน นท์ นิรามิษ ภริยา ดร. มนพร เจริญศรี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม พลตำรวจเอก อดุลย์ แสงสิงแก้ว สมาชิก วุฒิสภาไทย ชุดที่ 12 ชัยวัฒน์ ชื่นโกสุม อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน นายสิรภพ ดวงสอดศรี ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงแรงงาน นายวันชัย จันทร์พร ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม ตลอดจนรองเจ้าแขวงคำม่วน สปป.ลาว สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรในพื้นที่ คณะหัวหน้าส่วนราชการ เจ้าหน้าที่ ประชาชน และนักท่องเที่ยวทั้งในและต่างประเทศร่วมกิจกรรมเป็นจำนวนมาก
นายอนุทิน กล่าวว่า ทุกคนต่างทราบกันดีว่าประเพณีไหลเรือไฟของจังหวัดนครพนมนั้น ถือเป็นประเพณีเก่าแก่ที่สำคัญและถือปฏิบัติสืบทอดกันมายาวนานของพี่น้องประชาชน จนเป็นที่รู้จักของนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างประเทศอย่างแพร่หลาย ขอแสดงความชื่นชมและขอบคุณต่อผู้จัดงาน และพี่น้องชาวนครพนมที่ได้ร่วมกันอนุรักษ์และรักษาธรรมเนียมและประเพณีที่เก่าแก่ศักดิ์สิทธิ์และสวยงามของจังหวัดนครพนมให้ยังคงดำรงรักษาไว้อย่างดียิ่ง นี่คือความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันของพี่น้องประชาชนชาวจังหวัดนครพนม งานที่เกิดขึ้นจะกระตุ้นเศรษฐกิจของจังหวัดนครพนมและภาพรวมของประเทศ ซึ่งการจัดงานดังกล่าวจะเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยว ทำให้เกิดเม็ดเงินหมุนเวียน และการกระจายรายได้สู่พี่น้องประชาชนในพื้นที่จังหวัดนครพนม และจังหวัดใกล้เคียง งานประเพณีทั้งหลายล้วนมีคุณค่า ขอบคุณอย่างยิ่งที่ช่วยกันรักษาเอาไว้ เซื่อในสิ่งที่เฮ็ด เฮ็ดในสิ่งที่เซื่อ”สำหรับบรรยากาศมหกรรมไหลเรือไฟจังหวัดนครพนม ที่จัดในปีนี้ยังคงโชว์ความยิ่งใหญ่เหมือนเช่นทุกปีที่ผ่านมา โดยก่อนถึงเวลาปล่อยเรือไฟเพียง 30 นาทีได้มีฝนตกลงมาอย่างหนัก ทำให้ประชาชนและนักท่องเที่ยวต่างต้องหาที่หลบฝนกันตามสถานที่ต่าง ๆ หลังจากมีการมาจับจองที่นั่งริมฝั่งแม่น้ำโขงเพื่อรอชมความงดงามตั้งแต่ช่วงบ่าย ทำให้หลายคนมีความกังวลว่าอาจจะไม่ได้ชมเรือไฟในปีนี้ แต่ก็เหมือนปาฏิหาริย์เพราะฝนตกไม่นานก็หยุดลง และเจ้าหน้าที่ปล่อยเรือไฟได้มีการยืนยันเรื่องการปล่อยเรือไฟโชว์อย่างแน่นอน โดยประกาศเลื่อนเวลาปล่อยเรือไฟลำแรกออกไปเป็นเวลา 19.30 น. จากเดิมที่กำหนดเวลาไว้ที่ 18.30 น. ซึ่งเมื่อถึงเวลาเรือไฟลำแรกที่เป็นของอำเภอนาหว้าก็ได้ออกสู่สายตาประชาชนและนักท่องเที่ยว ตามด้วยเรือไฟของอำเภออื่น ๆ ตามลำดับที่กำหนดไว้ โดยเรือไฟรำสุดท้ายที่เป็นของอำเภอธาตุพนมก็ยังทำให้ทุกคนต้องมาลุ้นว่าจะไหลได้หรือไม่แม้จะจุดตะเกียงติดหมดแล้ว ซึ่งเจ้าหน้าที่ต้องใช้เวลากว่าครึ่งชั่วโมงจึงสามารถนำเรือไฟของจากฝั่งไปไหลโชว์ได้ ในเวลาประมาณ 23.30 น. แต่ก็สร้างความประทับใจอย่างเต็มอิ่มให้กับประชาชนและนักท่องเที่ยวนับแสนคนที่เฝ้ารอ เพราะได้เห็นลวดลายที่สวยงามประกอบกับการแสดงพุกลางแม่น้ำโขง ที่เป็นความอลังการครบทั้ง 12 ลำ.jpg)
.jpg)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น