วันอังคารที่ 30 เมษายน พ.ศ. 2562

กำลังพล มทบ.210 ประกอบพิธีอำลาธงชัยเฉลิมพล สิ่งศักดิ์สิทธิ์สูงสุดของทหาร


วันที่ 30 เมษายน 2562 ที่กองบัญชาการมลฑลทหารบกที่ 210 ค่ายพระยอดเมืองขวาง อำเภอเมือง จังหวัดนครพนม พลตรี ปราโมทย์ นาคจันทึก ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ เป็นประธานในพิธีอำลงธงชัยเฉลิมพลและผู้บังคับบัญชาของทหารกองประจำการ ผลัดที่ 1 /2560 และทหารกองประจำการที่ขอใช้สิทธิ์ลดวันรับราชการ ตามพระราชบัญญัติรับราชการทหาร พ.ศ. ๒๔๙๗ ที่ครบตามกำหนดปลดประจำการเป็นทหารกองหนุน ได้แสดงออกถึงความภาคภูมิใจ และความจงรักภักดีที่มีต่อประเทศชาติ

โดยก่อนที่จะประกอบพิธีสวนสนามอำลาธงชัยเฉลิมพลและผู้บังคับบัญชานั้น ทหารกองประจำการ จำนวน 268 นาย ประกอบไปด้วย หน่วยมณฑลทหารบกที่ 210 จำนวน 121 นาย และกองพันทหารราบที่ 3 กรมทหารราบที่ 3 จำนวน 147 นาย ได้ร่วมกันกล่าวคำอำลาและแสดงถึงความรู้สึก ถึงความภาคภูมิใจที่ได้เข้ามารับราชการทหาร มีโอกาสได้รับใช้ชาติ ปฏิบัติหน้าที่ของชายไทยอย่างสมบูรณ์ ครบถ้วน ก่อนที่จะร่วมกันปฏิญาณตน ที่ว่าหลังจากปลดประจำการไปแล้ว จะประพฤติปฏิบัติตนเป็นคนดี อยู่ในศีล ในธรรม และร่วมเป็นกำลังสนับสนุนหน่วยงานราชการต่าง ๆ ในการช่วยเหลือสังคมและประเทศชาติสืบไป จากนั้นผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 210 ได้กล่าวให้โอวาทและกล่าวแสดงความยินดีกับทหารทุกนายที่ได้รับใช้ชาติจนครบตามกำหนด ก่อนที่เหล่าทหารกล้าจะได้ร่วมกันประกอบพิธีอำลาธงชัยเฉลิมพล ซึ่งเป็นธงประจำหน่วยทหาร ที่ได้รับพระราชทานจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 เพื่อแทนพระองค์ไปในกองทัพ โดยธงชัยเฉลิมพลถือเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์สูงสุดของทหาร ที่มีความหมายอย่างยิ่งสำหรับทหารทุกนาย เพราะถือเป็นตัวแทน จอมทัพ เป็นสิ่งยึดเหนี่ยวจิตใจของเหล่าทหารหาญยามออกรบ และเป็นมิ่งขวัญแก่ทหารทั้งปวง เมื่อธงนี้โบกสะบัดอยู่ที่ใดหมายความว่า พระเจ้าอยู่หัวฯ ประทับอยู่ ณ ที่นั้น จำเป็นที่ทหารทั้งหลายจะต้องติดตามธงนั้นจนถึงที่สุด และต้องคุ้มครองป้องกันธงชัยเฉลิมพลไว้ด้วยชีวิตตนเอง สำหรับการปฏิบัติต่อธงชัยเฉลิมพลนั้นทุกขั้นตอนจะ ต้องเป็นไปตามพิธีการ ระเบียบแบบแผนที่วางไว้อย่างเข้มงวดกวดขัน และผู้ถือธงจะต้องได้รับการเลือกสรรอย่างดี  โดยแต่ละครั้งที่มีพิธีเชิญธงชัยเฉลิมพลออกประจำที่ หมายถึงพิธีนั้นมีความสำคัญอย่างยิ่ง เช่น พิธีกระทำสัตย์ปฏิญาณตนของทหาร และไปราชการสงคราม

ตร.เร่งขยายผล หาผู้กระทำผิดสวมรอยเป็นหัวหน้าพยาบาลหลอกยืมเงินผ่านเฟสและไลน์


วันที่ 30 เมษายน 2562 ที่จังหวัดนครพนม จากกรณี นางสาวอรรจจิมา ศรีชนม์ อายุ 53 ปี พยาบาลวิชาชีพชำนาญการ ปฏิบัติหน้าที่หัวหน้าตึกศัลยกรรมทางเดินปัสสาวะ และหัวหน้าศูนย์ดูแลแผล (Wound Center) โรงพยาบาลนครพนม นำเอกสารหลักฐานเข้าแจ้งความร้องทุกข์กับ ร.ต.อ.สิทธิชัย  จันโทศิริ รอง สว.(สอบสวน) สภ.เมืองนครพนม เมื่อวันที่ 29 เมษายนที่ผ่านมา เพื่อเอาผิดกับแก๊งมิจฉาชีพ ที่ทำการแฮ็กเฟสบุ๊ค และไลน์ อ้างเป็นตนเองและหลานสาวทักไปหลอกยืมเงินเพื่อนและคนรู้จักในเฟสบุ๊ค ซึ่งมีผู้หลงเชื่อมากถึง 38 ราย และมีการโอนเงินเข้าบัญชีรายละ 4,000 – 20,000 บาท ขณะเดียวกันตัวผู้เสียหายเองก็ยังถูกแก๊งมิจฉาชีพใช้เฟสบุ๊คหลานสาวที่ทำการแฮ็กมาทักมาหลอกยืมเงิน โดยอ้างว่ามีความจำเป็นต้องใช้เงินด่วน จึงหลงเชื่อโอนเงินไปให้จำนวน 3 ครั้ง รวมเป็นเงิน 20,000 บาท

ล่าสุดทางตำรวจได้มีการรวบรวมหลักฐาน เพื่อออกหมายเรียกบุคคลที่มีส่วนเกี่ยวข้องมาสอบสวน คือเจ้าของบัญชีที่มีผู้เสียหายโอนเงินไป 2 บัญชี  คือ บัญชี น.ส.นูรี งานแข็ง ธนาคารไทยพาณิชย์ สาขาภูเก็ต และบัญชีนายดุสิต พ่วงบูรณ์ ธนาคาร ธกส. สาขาภูเก็ต ซึ่งหากพบการกระทำผิดเชื่อมโยงก็จะมีการจับกุมดำเนินคดีทันที หรือหากไม่มาตามหมายเรียกจะดำเนินการรวบรวมหลักฐานเสนอศาลออกหมายจับต่อไป รวมถึงได้มีการประสานให้ทางธนาคารปลายทาง ตรวจสอบอายัดบัญชี พร้อมฝากเตือนเป็นอุทาหรณ์สำหรับประชาชนทั่วไป อย่าหลงเชื่อง่าย ๆ หากมีพฤติกรรมในการขอยืมเงินผ่านทางเฟสบุ๊ค ทางไลน์ หรือทางสื่อโซเชียลต่าง ๆ  ขอให้ตรวจสอบข้อเท็จจริง รวมถึงติดต่อสอบถามหรือยืนยันตัวตนให้ชัดเจนก่อน เพื่อเป็นการป้องกันการฉวยโอกาสของมิจฉาชีพ เนื่องจากปัจจุบันมีผู้เสียหายที่ตกเป็นเหยื่อในลักษณะนี้เป็นจำนวนมาก

คณะอนุกรรมการลงพื้นที่นครพนม ตรวจประเมินมาตรฐานศูนย์ราชการสะดวก (GECC) ประจำปี 62


วันที่ 30 เมษายน 2562 ที่จังหวัดนครพนม นายนริศชัย  ป้อมเสือ อดีตผู้ตรวจราชการสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นประธานนำคณะอนุกรรมการตรวจประเมินมาตรฐานศูนย์ราชการสะดวก คณะที่ 15 ลงพื้นที่ตรวจประเมินมาตรฐานการให้บริการศูนย์ราชการสะดวก ( Government Easy Contact Center : GECC ) เพื่อให้คะแนนหน่วยงานของจังหวัดนครพนมที่สมัครขอรับรองมาตรฐานการ ประจำปี 2562

จากที่นายกรัฐมนตรีได้มีนโยบายในคราวการประชุมคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 1 กันยายน 2558 ที่ให้ทุกกระทรวง กรม จังหวัด และรัฐวิสาหกิจ ดำเนินการจัดให้มีศูนย์ราชการสะดวก (GECC) เพื่อทำหน้าที่ให้คำแนะนำและอำนวยความสะดวกแก่ประชาชนที่มาขอรับบริการอย่างมีประสิทธิภาพ และสร้างความเชื่อมั่นแก่ประชาชน ต่อการให้บริการจากหน่วยงานของรัฐ โดยได้มีการเปิดตัวตราสัญลักษณ์ศูนย์ราชการสะดวก และประกาศมาตรฐานการให้บริการประชาชน ตามที่คณะกรรมการอำนวยการศูนย์ราชการสะดวกกำหนดให้หน่วยงานของรัฐได้นำไปปฏิบัติ รวมถึงได้เปิดให้หน่วยงานต่าง ๆ สมัครเข้ารับการประเมิน เพื่อขอการรับรองมาตรฐาน ซึ่งในปี 2562 มีหน่วยงานสมัครเข้ารับการตรวจประเมินทั้งสิ้น 1,262 ศูนย์ มีศูนย์ที่ผ่านการคัดกรองเอกสาร จำนวน 422 ศูนย์ ดังนั้นคณะอนุกรรมการฯ จึงได้มีการลงพื้นที่ตรวจประเมินมาตรฐานตามหลักเกณฑ์ ซึ่งหน่วยงานที่ได้คะแนนประเมิน 90-100 คะแนน จะได้รับตรารับรองมาตรฐานศูนย์ราชการสะดวกระดับสูง (สีทอง) รองลงมาคือได้คะแนนประเมิน 80-89 คะแนน ได้รับตรารับรองมาตรฐานศูนย์ราชการสะดวกระดับปานกลาง (สีน้ำเงิน) และถ้าได้คะแนนประเมิน 70-79 คะแนน จะได้รับตรารับรองมาตรฐานศูนย์ราชการสะดวก ระดับต้น (สีฟ้า)

นายนริศชัย  ป้อมเสือ อดีตผู้ตรวจราชการสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า การลงพื้นที่ในครั้งนี้เป็นการลงพื้นที่ตรวจประเมินหน่วยงานราชการของจังหวัดนครพนม ที่สมัครขอการรับรองศูนย์ราชการสะดวก มีด้วยกัน 4 แห่ง ประกอบไปด้วย ศูนย์บริการประชาชนกระทรวงพาณิชย์จังหวัดนครพนม การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคจังหวัดนครพนม การประปาส่วนภูมิภาคจังหวัดนครพนม สาขาศรีสงคราม และสำนักงานสรรพสามิตพื้นที่นครพนม สาขาศรีสงคราม และหน่วยงานที่รักษาระดับศูนย์ราชการสะดวกอีก 1 แห่ง คือ สำนักงานขนส่งจังหวัดนครพนม โดยหน่วยงานในภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน 8 จังหวัดนั้น มีหน่วยงานสมัครเข้ารับการประเมินทั้งสิ้น 94 หน่วย ผ่านเกณฑ์ประเมินเบื้องต้น 24 หน่วย ทั้งนี้ก็อยากฝากถึงหน่วยงานที่สมัครเข้าประเมินด้วยว่า เวลาส่งแบบเอกสารประเมินตนเองไป ขอให้ตรวจสอบให้ดี ดูให้ละเอียด เพราะไม่เช่นนั้นอาจจะเสียเวลาไปอีก 1 ปี สำหรับผลการตรวจประเมินหน่วยงานที่ผ่านมานั้นส่วนใหญ่อยู่ในเกณฑ์มาตรฐานที่จะเป็นศูนย์ราชการสะดวกได้ แต่ยังติดปัญหาและข้อจำกัดในหลายๆ เรื่อง โดยเฉพาะในเรื่องของพื้นที่ และขอเรียนว่าจริง ๆ แล้วคณะอนุกรรมการฯ ไม่ใช่ผู้ตัดสินว่าใครจะได้หรือไม่ได้ เป็นเพียงผู้ที่ทำหน้าที่ในการตรวจเช็ค ดูสถานที่จริง ดูว่ามีเอกสารอะไรที่จะต้องขอเพิ่มเติม และมาทำความเข้าใจกับข้อมูลหน่วยงานเพื่อนำไปเสนอต่อคณะกรรมการชุดใหญ่ที่มีนายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน เพื่อพิจารณารับรองศูนย์ราชการสะดวก สำหรับเกณฑ์การให้คะแนนนั้น มี 3 ส่วน ด้วยกัน ประกอบไปด้วย สถานที่ที่ประชาชนมารับบริการ ส่วนสนับสนุนสถานที่ และส่วนที่เป็นผลลัพธ์ซึ่งในส่วนนี้จะมาจากการสอบถามประชาชนที่มารับบริการ ว่าเป็นเช่นไร ควรให้คะแนนมากน้อยขนาดไหน

วันจันทร์ที่ 29 เมษายน พ.ศ. 2562

พสกนิกรจังหวัดนครพนม พร้อมใจประกอบพิธีปลูกต้นรวงผึ้งพระราชทาน ต้นไม้ประจำรัชกาลที่10


วันที่ 29 เมษายน 2562  ที่บริเวณหน้าสาลากลางจังหวัดนครพนม(หลังเก่า) นายสยาม ศิริมงคล ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม เป็นประธานนำคณะหัวหน้าส่วนราชการ ศาล ทหาร ตำรวจ ตลอดจน ข้าราชการ เจ้าหน้าที่ ประชาชนจิตอาสา และประชาชนจังหวัดนครพนม ประกอบพิธีปลูกต้นรวงผึ้งพระราชทาน ที่สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร ได้พระราชทานวโรกาสให้นายกรัฐมนตรี นำคณะผู้ว่าราชการจังหวัดทั้ง 76 จังหวัดและผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เข้าเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท รับพระราชทานต้นไม้มงคล เมื่อวันที่ 15 เมษายน 2562 เพื่อเชิญมาปลูกเป็นปฐมฤกษ์บนถนนเฉลิมพระเกียรติ ทั้งในกรุงเทพมหานคร และจังหวัดต่าง ๆ ทั่วประเทศ ในโครงการ "๑ จังหวัด ๑ ถนนเฉลิมพระเกียรติ พุทธศักราช 2562” เพื่อแสดงออกถึงความจงรักภักดีและเฉลิมพระเกียรติ เนื่องในโอกาสมหามงคลพระราชพิธีบรมราชาภิเษก พุทธศักราช 2562

โดยต้นรวงผึ้ง เป็นต้นไม้ประจำพระองค์ สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร รัชกาลที่ 10 เนื่องด้วยดอกรวงผึ้ง มีสีเหลืองซึ่งเป็นสีประจำวันพระราชสมภพ และผลิดอกช่วงวันพระราชสมภพพอดี เมื่อพระองค์เสด็จฯ กอปรพระราชกรณียกิจตามสถานที่ต่าง ๆ จะทรงปลูกต้นรวงผึ้งพระราชทานไว้ เพื่อเป็นตัวแทนแห่งพระองค์ท่านและเพื่อความเป็นสิริมงคลแก่ราษฎร โดยต้นรวงผึ้ง หรือ Yellow star เป็นไม้หอมที่มีถิ่นกำเนิดในประเทศไทย พบมากในป่าทางภาคเหนือ สูงจากระดับน้ำทะเล 1,000 - 1,100 เมตร เป็นพันธุ์ไม้พวกเดียวกับ ปอกระเจาและตะขบฝรั่ง เป็นไม้กลางแจ้งจัดอยู่ในกลุ่มต้นไม้ขนาดเล็ก สูง 6 - 8 เมตร คนภาคเหนือเรียกว่า ต้นสายน้ำผึ้ง หรือดอกน้ำผึ้ง มีลักษณะเด่นคือ มีดอกสีเหลืองเข้ม เหมือนทองเหลืองใหม่ๆ มีกลิ่นหอมคล้ายน้ำผึ้งตลอดทั้งวัน ออกช่อเป็นกระจุกแน่นตามซอกใบใกล้ปลายกิ่ง ส่วนของกลีบเลี้ยงมีโคนเชื่อมกัน ปลายแยกเป็น 5 แฉก คล้ายรูปดาว ไม่มีกลีบดอก มีเกสรตัวผู้จำนวนมาก ลำต้นแตกกิ่งต่ำและมีขนาดกิ่งค่อนข้างเล็ก มีเรือนยอดเป็นพุ่มกลมทึบ เปลือกสีน้ำตาลปนขาว ใบเป็นชนิดใบเดี่ยว เรียงเวียนสลับรูปรี โคนใบเบี้ยว มีเส้นใบออกจากโคนใบ สีใบจะเป็นสีเขียวแก่แต่ใต้ใบเป็นสีอ่อน เป็นเกล็ดเล็ก ๆ และก้านใบมีขน สามารถขยายพันธุ์ได้ทั้งการตอนกิ่งและการเพาะเมล็ด

วันศุกร์ที่ 26 เมษายน พ.ศ. 2562

จ.นครพนม ประกอบพิธีสรงน้ำพระราชทานพระธาตุพนมวรมหาวิหาร ประจำปี 2562


วันที่ 26 เมษายน 2562 ที่บริเวณวัดพระธาตุพนมวรมหาวิหาร อำเภอธาตุพนม จังหวัดนครพนม นายสยาม ศิริมงคล ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม เป็นประธานฝ่ายฆราวาส นำคณะหัวหน้าส่วนราชการ ข้าราชการ ตลอดจนประชาชนชาวจังหวัดนครพนม ร่วมประกอบพิธีอัญเชิญเครื่องราชสักการะ ในสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร รัชกาลที่ 10 เพื่อถวายเป็นพุทธบูชาในพิธีสรงน้ำพระราชทาน พระธาตุพนมวรมหาวิหาร ประจำปี 2562 โดยมีพระเทพวรมุนี เจ้าคณะจังหวัดนครพนม เจ้าอาวาสวัดพระธาตุพนวรมหาวิหาร เป็นประธานฝ่ายสงฆ์

โดยในเวลา 16.00 น. นายสยาม ศิริมงคล ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม ประธานฝ่ายฆราวาสได้นำทุกคนประกอบพิธีจุดธูปเทียนบูชาพระรัตนตรัย จากนั้นพระเทพวรมุนี เจ้าคณะจังหวัดนครพนม เจ้าอาวาสวัดพระธาตุพนมวรมหาวิหาร นำสวดเจริญชัยมงคลคาถา ก่อนที่จะอัญเชิญน้ำพระราชทานไปสรงองค์พระมหาจักรพรรดิ พระประธานที่สถิตย์อยู่ในองค์พระธาตุพระพนม จากนั้นอัญเชิญน้ำพระราชทานไปสรงรอบองค์พระธาตุพนมวรมหาวิหาร ทั้ง 4 ทิศ อัญเชิญน้ำพระราชทานไปสรงพระองค์แสนศาสดา พระประธานในพระอุโบสถ พร้อมทั้งเปลี่ยนผ้าแพรแดงประจำกาย และถวายเครื่องราชสักการะ ซึ่งประกอบไปด้วย น้ำหอม ต้นไม้ทอง ต้นไม้เงิน ธูปไม้ระกำ และเทียน จากนั้นได้อัญเชิญน้ำพระราชทานไปสรงพระมารวิชัยศาสดาที่สถิตอยู่บริเวณหอพระแก้ว และอัญเชิญน้ำพระราชทานมาผสมกับน้ำในตุ่มที่ตั้งอยู่รอบหอแก้วทั้ง 4 ทิศ เพื่อแจกจ่ายให้ประชาชนไว้บูชาเพื่อความเป็นสิริมงคลในชีวิต โดยในโอกาสนี้พระเทพวรมุนี ได้มอบผ้าแพรแดงประจำกายพระองค์แสนศาสดา พระประธานในพระอุโบสถที่เปลี่ยนออก ให้กับผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนมเพื่อนำมาเก็บรักษาไว้ที่ศาลากลางจังหวัดนครพนม ให้ประชาชนที่เดินทางมาติดต่อราชการ ได้เรียนรู้และศึกษาพระราชกรณียกิจ สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร รัชกาลที่ 10 ที่ทรงทำนุบำรุงพระศาสนา

สำหรับการสรงน้ำพระบรมสารีริกธาตุและพระธาตุนั้น เป็นประเพณีความเชื่อดั้งเดิมที่มีตั้งแต่สมัยโบราณ  นิยมกระทำเป็นประจำทุกปี เปรียบเสมือนการได้สรงน้ำพระพุทธเจ้าหรือพระอรหันต์ทั้งหลาย โดยจะกระทำในวันสำคัญทางพระพุทธศาสนาหรือวันงานเทศกาลประจำปี เช่น วันสงกรานต์ และวิธีปฏิบัติในการสรงน้ำก็จะแตกต่างกันออกไป แล้วแต่ความเชื่อและความศรัทธาของแต่ละท้องถิ่น ส่วนใหญ่นิยมนำเอาเครื่องหอม ข้าวตอกดอกไม้ และน้ำสะอาดหรือน้ำที่เจือด้วยน้ำหอมมาสรง โดยการราดน้ำไปบนองค์พระเจดีย์ เนื่องจากองค์พระบรมธาตุส่วนใหญ่จะบรรจุอยู่ใต้ฐานพระเจดีย์

จ.นครพนม เร่งสำรวจและให้ความช่วยเหลือประชาชน หลังพายุกระหน่ำวันเดียวเสียหายกว่า 219 ครัวเรือน


วันที่ 26  เมษายน 2562   ที่จังหวัดนครพนม นายสยาม ศิริมงคล ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม มอบหมายให้นายนิติพัฒน์ ลีลาเลิศแล้ว ปลัดจังหวัดนครพนม พร้อมด้วยเหล่ากาชาดจังหวัดนครพนม ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดนครพนม และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องลงพื้นที่เยี่ยมให้กำลังใจ และติดตามให้ความช่วยเหลือผู้ประสบวาตภัย หลังเกิดพายุฝนฟ้าคะนอง ลมกรรโชกแรง ช่วงเวลาประมาณ 16.20 – 17.00 น. ของวันที่ 25 เมษายนที่ผ่านมา ส่งผลให้บ้านเรือนประชาชนในพื้นที่ตำบลหนองเทา อำเภอท่าอุเทน และตำบลบ้านค้อ อำเภอโพนสวรรค์ เสียหายกว่า 219 ครัวเรือนรวมถึงต้นไม้ขนาดใหญ่ เสาไฟฟ้าหักโค่นเสียหายอีกหลายจุด

เบื้องต้นจากการสำรวจความเสียหาย พบว่าตำบลหนองเทา อำเภอท่าอุเทน มีบ้านเรือนประชาชนเสียหาย จำนวน 4 หมู่บ้าน ประกอบไปด้วย บ้านแก้ง หมู่ที่ 2 เสียหาย 14 ครัวเรือน บ้านตาล หมู่ที่ 6 เสียหาย 18 ครัวเรือน บ้านหนองเทา หมู่ที่ 1 เสียหาย 20 ครัวเรือนและบ้านหนองเทา หมู่ที่ 7 เสียหาย 17 ครัวเรือน ส่วนอำเภอโพนสวรรค์ ตำบลบ้านค้อนั้น มีบ้านเรือนประชาชนเสียหาย 7 หมู่บ้าน ประกอบไปด้วย บ้านนาเต่า หมู่ที่ 6 เสียหาย 3 ครัวเรือน วัดเสียหาย 1 แห่ง บ้านงิ้ว หมู่ที่ 8 เสียหาย 35 ครัวเรือน บ้านหนองท่ม หมู่ที่ 9 เสียหาย 29 ครัวเรือน บ้านขว้างคลี หมู่ที่ 7 เสียหาย 29 ครัวเรือน บ้านขว้างคลี หมู่ที่ 10 เสียหาย 31 ครัวเรือน บ้านขว้างคลี หมู่ที่ 19 เสียหาย 13 ครัวเรือน และบ้านชูชาติ หมู่ที่ 13 เสียหาย 10 หลัง โดยทางจังหวัดนครพนม ได้ระดมกำลังเจ้าหน้าที่ ตลอดจนประชาชนจิตอาสา ได้ร่วมกันเร่งสำรวจและให้ความช่วยเหลือในด้านต่าง ๆ  พร้อมประสานองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นสนับสนุนงบประมาณในการซ่อมแซม ซึ่งหากไม่เพียงพอทางองค์การบริหารส่วนจังหวัดนครพนมให้การสนับสนุนเพิ่มเติม ทั้งนี้ก็ได้มีการประกาศแจ้งเตือนประชาชน ในการเฝ้าระวังอันตราย หลีกเลี่ยงการอยู่ในที่โล่งแจ้ง ใต้ต้นไม้ใหญ่ ป้ายโฆษณา และสิ่งปลูกสร้างที่ไม่แข็งแรง เกษตรกรให้ระวังความเสียหายที่จะเกิดขึ้นกับผลผลิตทางการเกษตร เนื่องจากในช่วงนี้สภาพอากาศเปลี่ยนแปลงบ่อย เสี่ยงต่อการเกิดพายุฤดูร้อน

วันพฤหัสบดีที่ 25 เมษายน พ.ศ. 2562

จ.นครพนม ประกอบพิธีวางพวงมาลาเนื่องในวันคล้ายวันสวรรคตสมเด็จพระนเรศวรมหาราช


วันที่ 25 เมษายน 2562 ที่บริเวณศาลาประชาคมยงใจยุทธ ศาลากลางจังหวัดนครพนม นายสยาม ศิริมงคล ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม พร้อมด้วยนางวิไลวรรณ ไกรโสดา รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม นายรังสรรค์ คัมภิรานนท์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม นำคณะหัวหน้าส่วนราชการ ข้าราชการ ศาล ทหาร ตำรวจ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น สมาชิกเหล่ากาชาดจังหวัดนครพนม พนักงานรัฐวิสาหกิจ นักเรียน นักศึกษา พ่อค้า และประชาชนจังหวัดนครพนม ร่วมประกอบพิธีวางพวงมาลาถวายราชสักการะ จุดธูปเทียน เครื่องทองน้อย และกล่าวถวายราชสดุดี เบื้องหน้าพระบรมสาทิสลักษณ์สมเด็จพระนเรศวรมหาราช เนื่องในวันคล้ายวันสวรรคต

สมเด็จพระนเรศวรมหาราช หรือ สมเด็จพระสรรเพชญ์ที่ 2 มีพระนามเดิมว่า พระองค์ดำ เป็นพระราชโอรสในสมเด็จพระมหาธรรมราชาและพระวิสุทธิกษัตริย์ ทรงพระราชสมภพ ณ พระราชวังจันทน์ เมื่อปี พ.ศ.2098 ในขณะที่พระองค์ทรงพระเยาว์ พระเจ้าบุเรงนองกษัตริย์พม่าได้ยกทัพมาตีเมืองพิษณุโลก และทรงขอสมเด็จพระนเรศวรมหาราชไปเลี้ยงเป็นพระราชบุตรบุญธรรม เพื่อเป็นตัวประกันที่หงสาวดีจนพระชนมายุได้ 15 พรรษา พระองค์จึงได้เสด็จกลับกรุงศรีอยุธยาและในปี พ.ศ.2098 ได้รับโปรดเกล้าฯ ให้เป็นพระมหาอุปราชปกครองเมืองพิษณุโลก โดยพระองค์ได้ทรงกอบกู้อิสรภาพของชาติไทยจากการเสียกรุงให้กับพม่า และทรงหลั่งน้ำทักษิโณทกประกาศอิสรภาพ ณ เมืองแครง เมื่อ พ.ศ.2126 ซึ่งนับตั้งแต่นั้นมาแม้หงสาวดีจะเพียรพยายามส่งกองทัพเข้ามารบหลายครั้ง แต่ก็ถูกกองทัพกรุงศรีอยุธยาตีแตกพ่ายไปทุกครั้ง และเมื่อพระบิดาหรือสมเด็จพระมหาธรรมราชาเสด็จสวรรคต พระองค์ก็ทรงเสด็จขึ้นครองราชย์ เมื่อวันที่ 29 กรกฎาคม พ.ศ.2133 ซึ่งในขณะนั้นทรงมีพระชนมายุได้ 35 พรรษา ทรงแผ่อำนาจของราชอาณาจักรไทย ไปอย่างกว้างใหญ่ไพศาล ทรงเป็นพระมหากษัตริย์ที่ปกครองบ้านเมืองด้วยหลักทศพิธราชธรรม ทำให้ประชาชนอยู่เย็นเป็นสุขเสมอมา สิริรวมการครองราชสมบัติ 15 ปี และทรงเสด็จสวรรคตเมื่อวันที่ 25 เมษายน พ.ศ.2148 รวมพระชนมพรรษา 50 พรรษา และเพื่อเป็นการเผยแพร่เชิดชูพระเกียรติคุณ พระปรีชาสามารถของสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ตลอดจนเป็นการน้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ และแสดงออกถึงความจงรักภักดีต่อพระองค์ท่าน ที่ทรงประกอบพระราชกรณียกิจนานัปการ ทรงทำนุบำรุงบ้านเมืองให้เจริญรุ่งเรือง ทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคม ศิลปวัฒนธรรม ตลอดจนปกปักรักษาเอกราชของชาติไทย ดังนั้น คณะรัฐมนตรีจึงได้มีมติ เมื่อวันที่ 29 พฤศจิกายน 2548 กำหนดให้ทุกวันที่ 25 เมษายนของทุกปี เป็นวันคล้ายวันเสด็จสวรรคตสมเด็จพระนเรศวรมหาราช และจัดให้มีพิธีวางพวงมาลาถวายราชสักการะ

วันพุธที่ 24 เมษายน พ.ศ. 2562

ผู้ว่าฯนครพนม ส่งมอบสัญลักษณ์นกฟลามิงโก้ พร้อมขอบคุณผู้สนับสนุนการจัดงานสงกรานต์ 62


วันที่ 24 เมษายน 2562 ที่บริเวณหน้าศาลจังหวัดนครพนม 100 ปี (2461) ตรงข้ามลานตะวันเบิกฟ้า ริมฝั่งแม่น้ำโขง ถนนสุนทรวิจิตร เทศบาลเมืองนครพนม นายสยาม ศิริมงคล ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนมเป็นประธานการส่งมอบสัญลักษณ์นกฟลามิงโก้ พร้อมกล่าวขอบคุณผู้ที่ให้การสนับสนุนการจัดงานสงกรานต์ นครพนมรื่นรมย์บุญปีใหม่ไทย - ลาว 2562 ที่จังหวัดนครพนมได้จัดขึ้น ระหว่างวันที่ 12 - 15 เมษายน ที่ผ่านมา ซึ่งมีการแบ่งกิจกรรมออกเป็น 4 โซน เพื่อให้มีความเหมาะสมความต้องการของประชาชนและนักท่องเที่ยวทุกเพศทุกวัย

นายสยาม ศิริมงคล ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม เปิดเผยว่า ช่วงเทศกาลสงกรานต์เป็นอีกหนึ่งช่วงที่อยากให้ทุกคนได้มีความสุข โดยตนเองได้เดินทางมาปฏิบัติหน้าที่ที่จังหวัดนครพนมในช่วงเดือนตุลาคม ซึ่งผ่านการพิจารณางบประมาณไปแล้ว ทำให้ไม่มีงบประมาณในการจัดงานสงกรานต์ จึงเป็นที่มาของการบูรณางานจากภาคส่วนต่าง ๆ เข้าด้วยกัน เพื่อจัดงานสงกรานต์นครพนมรื่นรมย์ปีใหม่ไทย - ลาว 2562 และทางคณะกรรมการมองว่าจะมีการขอสนับสนุนจากผู้มีอุปการะคุณทุกท่าน แต่เพื่อเป็นการตอบแทนทุกคน จึงได้มีแนวคิดในการสร้างนกฟลามิงโก้ ที่เป็นสัตว์สากลอาศัยอยู่เป็นกลุ่มในแถบโซนร้อนขึ้นมา เพื่อเป็นสัญลักษณ์แสดงถึงความสามัคคีของชาวนครพนมเช่นเดียวกับนกฟลามิงโก้ และเสื้อเหลืองที่ทุกคนสามารถสวมใส่ เพื่อแสดงออกถึงความจงรักภักดีและเฉลิมพระเกียรติในช่วงพระราชพิธีอันเป็นมหามงคลยิ่ง ระหว่างเดือนเมษายน-กรกฎาคม 2562  

โดยคณะกรรมการได้นำเงินส่วนต่างทั้งหมดที่ได้มาจัดงานในครั้งนี้ ซึ่งเสียงตอบรับถือว่าเป็นที่น่าพอใจ เพราะสถานการณ์ไม่มีปัญหาอะไรที่รุนแรงเกินกว่าการแก้ไข ทั้งพี่น้องประชาชนตลอดจนนักท่องเที่ยวรู้สึกว่าได้รับความสุข ความสนุกสนาน ได้รับสิ่งดี ๆ กลับไป พ่อค้าแม่ค้าในพื้นที่ก็สามารถจำหน่ายสินค้าของตนเองได้  เชื่อว่ากิจกรรมดังกล่าวเป็นอีกหนึ่งช่วงเวลา ที่ทำให้จังหวัดนครพนมมีความคึกครื้น ถ้ามีการสืบสานต่อยอดก็จะทำให้เกิดการพัฒนาที่ยั่งยืนกับประชาชนและจังหวัดนครพนมมากขึ้นไปอีก

เกษตรกรปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์นครพนมได้เฮ หลังผู้ประกอบการรับซื้อผลผลิตราคาสูง

วันที่ 24 เมษายน 2562 ที่บริเวณแปลงปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์นำร่อง หมู่ที่ 7 บ้านโพนป่าหว้าน ตำบลคำเตย อำเภอเมืองนครพนม จังหวัดนครพนม นายสยาม ศิริมงคล ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม นำคณะหัวหน้าส่วนราชการ เจ้าหน้าที่ในสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์จังหวัดนครพนมลงพื้นที่เก็บข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ช่วยเกษตรกร ภายใต้โครงการสานพลังประชารัฐเพื่อสนับสนุนการปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์หลังฤดูทำนา ที่สำนักงานเกษตรจังหวัดนครพนมร่วมกับภาคีเครือข่ายจัดขึ้น เพื่อสาธิตวิธีการเก็บเกี่ยวข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ให้กับเกษตรกรในพื้นที่ รวมถึงการสาธิตการไถกลบตอซังต้นข้าวโพดเพื่อเป็นการลดการเผาในพื้นที่ทั้งเป็นการบำรุงดินไปในตัวเป็นการลดค่าใช้จ่ายในฤดูกาลผลิตต่อไปด้วย นอกจากนี้ยังได้เชิญสหกรณ์การเกษตรและภาคเอกชน มาตั้งจุดรับซื้อผลผลิตจากเกษตรกรแบบถึงที่ด้วย เพื่อเป็นการยืนยันและสร้างความมั่นใจให้กับเกษตรกรที่เข้าร่วมโครงการ

นายเอนก รัตน์รองใต้ เกษตรจังหวัดนครพนม เปิดเผยว่า จากที่จังหวัดนครพนมได้มีการขับเคลื่อนโครงการสานพลังประชารัฐ เพื่อสนับสนุนการปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์หลังฤดูทำนา มาอย่างต่อเนื่อง เริ่มตั้งแต่การลงพื้นที่ของส่วนราชการในการสร้างการรับรู้ และประชาสัมพันธ์รับสมัครเกษตรกรที่สนใจเข้าร่วมโครงการ ซึ่งมีเกษตรกรที่สนใจเข้าร่วมโครงการทั้งสิ้น 11 อำเภอ รวม 186 ราย มีพื้นที่การปลูกประมาณ 958.50 ไร่ โดยก่อนลงมือปลูกทางสำนักงานเกษตรจังหวัดนครพนม ได้มีการลงพื้นที่ถ่ายทอดความรู้ ด้วยการจัดงานวันสาธิตการปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์หลังฤดูทำนาให้เกษตรกรในทุกอำเภอได้เห็นและนำไปปฏิบัติตาม เริ่มตั้งแต่การเตรียมดิน ขั้นตอน วิธีการปลูก รวมไปถึงการดูแลรักษาที่ถูกต้อง จากนั้นก็จะส่งทีมเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่ติดตามการเจริญเติบโตเป็นระยะๆ เพื่อให้คำแนะนำ ส่งผลให้ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ของเกษตรกรที่เข้าร่วมโครงการมีคุณภาพที่ดี โดยพื้นที่ปลูก 1 ไร่ คาดว่าจะสามารถเก็บเกี่ยวผลผลิตได้ประมาณ 1,082 กิโลกรัม และในวันนี้ที่มีการเก็บเกี่ยวกลุ่มเกษตรกรผู้เลี้ยงแพะในพื้นที่จังหวัดนครพนม ก็ได้เดินทางมารับซื้อผลผลิตทั้งหมดในราคากิโลกรัมละ 5 บาท ดังนั้นเกษตรกรจะมีรายได้ต่อไร่อยู่ที่ประมาณ 5,410 บาท

ด้านนางนงนุช มาเพ็ง เกษตรผู้ปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ เปิดเผยว่า ตนเองรู้สึกประทับใจกับโครงการนี้เป็นอย่างมาก ผลผลิตอยู่ในเกณฑ์ที่ดีแม้ของตนเองจะสมบูรณ์ไม่เต็มที่ แต่โครงการนั้นถือว่าดีเพราะมีตลาดรองรับ  วันนี้ยิ่งดีขึ้นไปอีกเพราะมีพ่อค้ามาให้ราคาที่สูงขึ้น โดยครั้งก่อนที่ตนเองขายนั้นจะได้ราคาเพียง 4 บาทเท่านั้น แต่มาวันนี้พ่อค้ามาให้ในราคา 5 บาท โดยส่วนตัวมองว่าการปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์นั้นดีกว่าการปลูกข้าวนาปรัง เพราะมันดูแลง่ายกว่า ทั้งไม่ต้องมาระวังในเรื่องของนกมากินผลผลิตเหมือนการปลูกข้าวนาปรัง

วันจันทร์ที่ 22 เมษายน พ.ศ. 2562

รองผู้ว่าฯนครพนม ลงพื้นที่ให้กำลังใจและมอบถุงยังชีพช่วยผู้ประสบวาตภัยอำเภอโพนสวรรค์


วันที่ 22 เมษายน 2562 ที่วัดโพนสว่าง บ้านหนองผักตบ ตำบลนาหัวบ่อ อำเภอโพนสวรรค์ จังหวัดนครพนม นางวิไลวรรณ ไกรโสดา รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม เป็นประธานนำคณะหัวหน้าส่วนราชการ  เหล่ากาชาดจังหวัดนครพนม จิตอาสาจังหวัดนครพนม และเจ้าหน้าที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องลงพื้นที่เยี่ยมให้กำลังใจและมอบถุงยังชีพให้ความช่วยเหลือผู้ประสบวาตภัย หลังประชาชนในพื้นที่อำเภอโพนสวรรค์ จำนวน 3 ตำบลได้รับผลกระทบจากพายุฤดูร้อน เมื่อวันที่ 21 เมษายน 2562  ตั้งแต่เวลาประมาณ 15.30 น. โดยมีพายุฝนสลับกับลมกรรโชกแรงยาวนานกว่า 2 ชั่วโมงจึงสงบลง ส่งผลให้บ้านเรือนประชาชนได้รับความเสียหาย จำนวน 56 หลังคาเรือน ประกอบไปด้วย ตำบลนาหัวบ่อ เสียหาย 52 หลัง ตำบลโพนจาน เสียหาย 3 หลัง และตำบลโพนสวรรค์ เสียหาย 1 หลัง

ซึ่งในเบื้องต้นทางอำเภอโพนสวรรค์ ได้ร่วมกับองค์การบริหารส่วนตำบล เร่งสำรวจความเสียหายพร้อมรายงานมายังจังหวัด และร่วมกับกำลังพลจากมณฑลทหารบกที่ 210  กำนัน ผู้ใหญ่บ้านและประชาชนจิตอาสาดำเนินการซ่อมแซมบ้านเรือนให้กับประชาชนในพื้นที่เพื่อบรรเทาความเดือดร้อน ขณะเดียวกันสถานีอุตุนิยมวิทยานครพนม ก็ได้มีการประกาศแจ้งเตือนประชาชนในการเฝ้าระวังอันตราย หลีกเลี่ยงการอยู่ในที่โล่งแจ้ง ใต้ต้นไม้ใหญ่ ป้ายโฆษณา และสิ่งปลูกสร้างที่ไม่แข็งแรง สำหรับเกษตรกรให้ระวังความเสียหายที่จะเกิดขึ้นกับผลผลิตทางการเกษตรในช่วงนี้อย่างต่อเนื่อง เนื่องจากจังหวัดนครพนมในช่วงวันที่ 22-25 เมษายน มีอากาศร้อนถึงร้อนจัดในหลายพื้นที่ โดยมีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 20 - 40 ของพื้นที่ และมีลมกรรโชกแรงกับมีลูกเห็บตกบางพื้นที่


ฝนตก อากาศร้อน ส่งผลดี ชาวบ้านนครพนม ออกหาของป่าขาย สร้างรายได้เสริมให้ครอบครัว


วันที่ 22 เมษายน 2562 ที่จังหวัดนครพนม ตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมา สภาพอากาศโดยทั่วไปในพื้นที่ยังคงแปรปรวน มีอุณหภูมิสูงประมาณ 40 องศาเซลเซียส ทั้งยังมีพายุฝนฤดูร้อนตกลงมาต่อเนื่อง ทำให้บ้านเรือนประชาชนได้รับเสียหายในหลายพื้นที่ ขณะเดียวกันก็ส่งผลดีต่อประชาชน ทำให้มีน้ำไว้ใช้ในการอุปโภค บริโภค ตลอดจนเพื่อการเกษตร และที่พลาดไม่ได้อีกอย่างก็คืออาหารป่า ที่มีการเจริญเติบโตและสร้างรายได้เสริมให้กับชาวบ้านในแต่ละชุมชนได้เป็นอย่างดี โดยในทุก ๆ เช้า ทุกคนจะนำเครื่องมือออกหาของป่าเพื่อมาจำหน่ายกัน ไม่ว่าจะเป็น ผักหวาน หน่อไม้ ดอกกระเจียว ข่าอ่อน และเห็ดนานาชนิด

 โดยเห็ดที่ได้รับความนิยมมากเป็นพิเศษในช่วงนี้ คือ เห็ดเผาะ เนื่องจากมีคุณค่าทางโภชนาการ  ทั้งช่วยบำรุงร่างกายให้แข็งแรงง ป้องกันอาการช้ำใน ป้องกันโรควัณโรค ช่วยยับยั้งการเกิดของเซลล์มะเร็ง ลดอาการบวมหรืออักเสบ แก้ร้อนใน และที่สำคัญมีรสชาติที่อร่อย เวลาเคี้ยวจะมีความมัน กรอบ และเกิดเสียงดังเผาะเสมอ ซึ่งหลายคนจะนิยมรับประทานกับผักจิ้มน้ำพริก หรือนำไปทำเมนูต่าง ๆ เช่น แกงใส่กับหน่อไม้ ผักหวาน หรือนำไปผัดกับพริกแกง หรือห่อหมกเห็ดเผาะ ซึ่งราคาตกอยู่ที่กิโลกรัมละ 800 – 1,000 บาท รองลงมาคือ ไข่มดแดง ที่ราคาอยู่ที่กิโลกรัมละ 700 -800 บาท นอกจากนี้ยังมีวัตถุดิบที่จะนำไปปรุงเป็นเมนูอาหาร ที่ชาวอีสานชื่นชอบอีกหลากหลายชนิด ไม่ว่าจะเป็น อึ่งอ่าง  กบ เขียด  ปูนา แมงแคง จักจั่น ส่งผลให้ชาวบ้านออกหาของป่ามาจำหน่ายกันอย่างคึกคัก

วันอาทิตย์ที่ 21 เมษายน พ.ศ. 2562

ปจ.นครพนม นำคณะเจ้าหน้าที่มอบถุงยังชีพให้การช่วยเหลือผู้ประสบวาตภัยในพื้นที่


วันที่ 21 เมษายน 2562 ที่จังหวัดนครพนม นายสยาม ศิริมงคล ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม มอบหมายให้นายนิติพัฒน์ ลีลาเลิศแล้ว ปลัดจังหวัดนครพนม พร้อมด้วยเหล่ากาชาดจังหวัดนครพนม ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดนครพนมและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องลงพื้นที่เยี่ยมให้กำลังใจและมอบถุงยังชีพให้ความช่วยเหลือผู้ประสบวาตภัย หลังเกิดพายุฝนและลมกรรโชกแรงในหลายพื้นที่ของจังหวัดนครพนม เมื่อช่วงเย็นและช่วงดึกของวันที่ 19 เมษายนที่ผ่านมา ทำให้มีบ้านเรือนประชาชนเสียหายจำนวนมาก

เบื้องต้นจากการสำรวจมี 3 อำเภอ ประกอบไปด้วย อำเภอเมืองนครพนม ในตำบลท่าค้อ บ้านเรือนเสียหาย 16 หลัง  ยุ้งข้าว 1 หลัง สถานีสูบน้ำด้วยไฟฟ้าบ้านหนองจันทร์เสียหายบางส่วนและวัดได้รับความเสียหายบางส่วน จำนวน 2 วัด ส่วนอำเภอธาตุพนม บ้านเรือนเสียหายจำนวน 86 หลังคาเรือน ศาลาวัด 1 หลัง เตาบ่มใบยา 4 หลัง โดยเสียหายหนัก จำนวน 5 หลังคาเรือน ที่เหลือเป็นเสียหายบางส่วนในตำบลโพนแพง ตำบลดอนนางหงส์  ตำบลนาถ่อน และในพื้นที่อำเภอปลาปาก ตำบลหนองฮี ตำบลปลาปาก ตำบลหนองเทาใหญ่ และตำบลโคกสว่าง บ้านเรือนเสียหาย 58 หลังคาเรือน อาคารเรียนเสียหายบางส่วน 1 หลัง และวัดได้รับความเสียหายบางส่วน จำนวน 2 วัด ทั้งนี้หน่วยงานต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น กำลังพลจากมณฑลทหารบกที่ 210  หน่วยเรือรักษาความสงบเรียบร้อยตามลำแม่น้ำโขง กองกำลังตำรวจตระเวนชายแดนที่ 235 กำนัน ผู้ใหญ่บ้านและประชาชนจิตอาสา ได้บูรณาการกันเร่งซ่อมแซมบ้านเรือนให้กับผู้ประสบวาตภัย โดยมีวัสดุอุปกรณ์ในการซ่อมแซม จากทางองค์การบริหารส่วนตำบลในพื้นที่ให้การสนับสนุนช่วยเหลือในเบื้องต้น

จ.นครพนม เจ้าหน้าที่เร่งให้การช่วยเหลือ หลังเกิดเหตุพายุฤดูร้อนพัดบ้านเรือนประชาชนเสียหายกว่า 145 หลังคาเรือน

 วันนี้ 20 เมษายน 2562 ที่จังหวัดนครพนม หลังสภาพอากาศแปรปรวนและร้อนอบอ้าว อุณหภูมิเฉลี่ยตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมาสูงเกือบ 40 องศาเซลเซียส ส่งผลให้เกิดพายุฝนและลมกรรโชกแรงในหลายพื้นที่ ทำให้บ้านเรือนประชาชนได้รับความเสียหายแทบจะรายวัน ล่าสุดเมื่อช่วงดึกของวันที่ 19 เมษายน 2562 ที่ผ่านมาก็ได้เกิดเหตุ โดยพบว่ามีบ้านเรือนประชาชนได้รับความเสียหาย เบื้องต้นจากการสำรวจในพื้นที่อำเภอธาตุพนม ตำบลโพนแพง ตำบลดอนนางหงส์ ตำบลนาถ่อน เสียหายจำนวน 86 หลังคาเรือน ศาลาวัด 1 หลัง เตาบ่มใบยา 4 หลัง โดยเสียหายหนัก จำนวน 5 หลังคาเรือน ที่เหลือเป็นเสียหายบางส่วน ส่วนพื้นที่อำเภอปลาปาก ในตำบลวังยาง ตำบลหนองฮี ตำบลปลาปาก ตำบลหนองเทาใหญ่ ตำบลโคกสว่างนั้น ได้รับความเสียหาย 59 หลังคาเรือน แบ่งเป็นเสียหายหนัก 5 หลัง อาคารเรียน 1 หลัง ที่เหลือเป็นเสียหายบางส่วน 

          ทั้งนี้นายสยาม ศิริมงคล ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม ได้สั่งการให้สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดนครพนม บูรณาการงานงานร่วมกับทางอำเภอ ตลอดจนองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ในการเร่งสำรวจข้อมูลความเสียหายทั้งหมด รวมถึงการลงพื้นที่ให้กำลังใจและให้ความช่วยเหลือตามระเบียบราชการ ร่วมกับกำลังพลจากมณฑลทหารบกที่ 210 หน่วยเรือรักษาความสงบเรียบร้อยตามลำแม่น้ำโขง กองกำลังตำรวจตระเวนชายแดนที่ 235 กำนันผู้ใหญ่บ้าน ประชาชนจิตอาสาและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ในการซ่อมแซมบ้านเรือนประชาชนที่ได้รับความเสียหาย 

วันศุกร์ที่ 19 เมษายน พ.ศ. 2562

มทบ.210 จัดงานวันคล้ายวันสถาปนาค่ายพระยอดเมืองขวาง ครบรอบปีที่ 46

วันที่ 19 เมษายน 2562 ที่ค่ายพระยอดเมืองขวาง มณฑลทหารบกที่ 210 ตำบลกุรุคุ อำเภอเมือง จังหวัดนครพนม พลตรี ปราโมทย์ นาคจันทึก ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 210 เป็นประธานนำคณะหัวหน้าส่วนราชการ  ข้าราชการ ข้าราชการบำนาญและครอบครัว ตลอดจนผู้ที่พักอาศัยอยู่ในค่ายพระยอดเมืองขวาง และลูกหลานที่เป็นเชื้อสายของพระยอดเมืองขวางที่เดินทางมาจากจังหวัดนครสรรค์และจังหวัดมหาสารคาม ประกอบพิธีบวงสรวงศาลปู่พระยอดเมืองขวาง สักการะพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ วางพวงมาลาสักการะอนุสาวรีย์พระยอดเมืองขวางเพื่อความเป็นสิริมงคล ก่อนที่จะร่วมกันทำบุญตักบาตรพระสงฆ์ เพื่ออุทิศกุศลแด่พระยอดเมืองขวางและเหล่าทหารกล้าผู้วายชน ที่ได้เสียสละเพื่อชาติบ้านเมือง เนื่องในวันคล้ายวันสถาปนา มณฑลทหารบกที่ 210 ครบรอบปีที่ 46

สำหรับค่ายพระยอดเมืองขวางนั้น เดิมชื่อว่า ค่ายนาโพธิ์ แต่ด้วยเหตุการณ์ประหลาดที่เกิดขึ้น คือมีฟ้าผ่าลงมาตรงกลางป้ายที่เขียนว่าค่ายนาโพธิ์ เป็นเหตุให้ป้ายแยกออกเป็น 2 ซีก แม้ทำป้ายมาเปลี่ยนใหม่ก็เกิดเหตุเช่นเดิมอีก พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 จึงทรงพระราชทานนามใหม่ว่า ค่ายพระยอดเมืองขวาง ซึ่งหลังจากนั้นก็ได้มีนายทหารยศพลเอก ได้ฝันเห็นชายใส่ชุดไทยเหมือนคนในรัชกาลที่ 5 มีดาบ มีกระบี่ ใส่หมวกบานอันใหญ่มาเข้าฝัน ขอให้ตั้งศาลให้ด้วยเนื่องจากวิญญาณไม่มีที่อยู่เป็นหลักแหล่ง ต้องเร่ร่อนไปมาระหว่างสาธารณะรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาวและค่ายพระยอดเมืองขวาง ทั้งขอให้อัญเชิญดวงวิญญาณมาด้วย จึงกลายเป็นที่มาของศาลปู่พระยอดเมืองขวาง ที่เหล่าทหารในสังกัดค่ายพระยอดเมืองขวาง ตลอดจนประชาชนที่อยู่รอบค่ายให้ความเคารพนับถือ และมักจะมากราบไหว้ขอพรอยู่เสมอๆ

ส่วนพระยอดเมืองขวางนั้น เป็นข้าราชการในรัฐบาลของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 ได้รับแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งเจ้าเมืองชายพระราชอาณาเขต คือ เมืองคำม่วน และได้ปฏิบัติภารกิจด้วยความรักชาติ ทำการป้องกันอธิปไตยดินแดนไทย จนเป็นเหตุให้คนของชาติผู้ถูกรุกรานถึงแก่ความตาย รัฐบาลของชาตินั้นจึงได้กล่าวฟ้องร้อง และเรียกร้องให้เอาตัวพระยอดเมืองขวางขึ้นศาล เพื่อพิจารณาความผิดและลงโทษคดี ซึ่งเนื้อแท้เป็นคดีอาญาฆ่าคนและทำร้ายร่างกายบาดเจ็บสาหัสธรรมดา แต่ตอนหลังได้กลายเป็นคดีความระหว่างประเทศ นอกจากจะพิจารณาคดีในศาลแล้ว ยังต้องมีการเจรจาทางการทูตระหว่างรัฐบาลไทยกับรัฐบาลฝรั่งเศส จนเป็นเหตุให้พระยอดเมืองขวางถูกพิจารณาลงโทษในที่สุด 

วันพฤหัสบดีที่ 18 เมษายน พ.ศ. 2562

จ.นครพนม ปิดศูนย์ปฏิบัติการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงสงกรานต์ พร้อมสร้างแผนขับเคลื่อนทั้งระยะสั้นและระยะยาว


วันที่ 18 เมษายน 2562 ที่ห้องประชุมพระธาตุนคร ชั้น 3 ศาลากลางจังหวัดนครพนม นายสยาม ศิริมงคล ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม มอบหมายให้นายรังสรรค์ คัมภิรานนท์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม เป็นประธานการประชุมและปิดศูนย์ปฏิบัติการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลสงกรานต์ 2562 ซึ่งในห้วง 7 วันอันตราย จังหวัดนครพนมมีการดำเนินงานการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนในด้านต่าง ๆ โดยเฉพาะการเข้มในการใช้มาตรการทางกฎหมาย มีการเรียกตรวจมากถึง 191,698 คัน ซึ่งพบผู้กระทำความผิด 22,982 ราย โดยในพื้นที่มีการเกิดอุบัติเหตุทั้งสิ้น 12 ครั้ง มีผู้เสียชีวิต 6 ราย ผู้บาดเจ็บ 8 ราย ทั้งนี้มี 5 อำเภอไม่เกิดอุบัติเหตุเลย ประกอบไปด้วย อำเภอนาหว้า ศรีสงคราม ท่าอุเทน นาทมและอำเภอวังยาง

นายรังสรรค์ คัมภิรานนท์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม  เปิดเผยว่า ตลอด 7 วันที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่ได้มีการบูรณาการงานกันอย่างเต็มที่เพื่อป้องกันและลดอุบัติเหตุ ซึ่งจากข้อสังเกตของการเกิดอุบัติเหตุในช่วงสงกรานต์ 2562 นี้ ผู้ที่เสียชีวิตทั้งหมด เป็นผู้ขับขี่รถจักยานยนต์ที่ไม่ได้สวมหมวกนิรภัย และอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นอยู่บนถนนสายรอง นอกจากนี้คณะกรรมการยังพบว่ารถส่วนใหญ่ที่มีการเรียกตรวจไม่มีการทำประกันภัยและต่อภาษีทำให้เมื่อเกิดอุบัติเหตุ ไม่ได้รับการคุ้มครอง ดังนั้นหลังจากนี้จังหวัดนครพนม จึงได้มีการเตรียมแผนการป้องกันและลดอุบัติเหตุทั้งในระยะสั้นและระยะยาว ซึ่งจะมีตั้งแต่การรณรงค์ปลูกจิตสำนึกให้ทุกคนมีการปฏิบัติตามกฎจราจร มีการขับขี่ที่ปลอดภัย มีความเข้าใจและให้ความสำคัญกับการทำประกันภัย มีการอบรมเจ้าหน้าที่ประจำด่านชุมชนซึ่งเป็นด่านแรกที่ประชาชนต้องเจอทั้งในด้านการปฏิบัติหน้าที่และการให้ความช่วยเหลือประชาชนเมื่อประสบเหตุ  นอกจากนี้ยังจะมีการใช้มาตรการทางกฎหมายที่เข้มงวดมากยิ่งขึ้น มีการนำผลการดูแลประชาชนเพื่อลดอุบัติเหตุมาเป็นเกณฑ์คะแนนประเมินกำนัน ผู้ใหญ่บ้านเพื่อมอบครุฑทองคำด้วย สำหรับเครื่องมือและอุปกรณ์ในการปฏิบัติหน้าที่ ก็เตรียมเสนอของบประมาณสนับสนุนจากองค์การบริหารส่วนจังหวัดนครพนมในการจัดซื้อเครื่องตรวจจับความเร็วเพื่อนำมาบูรณางานร่วมกันในการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนน ขณะที่ถนนที่เป็นจุดเสี่ยง จุดอันตราย ก็เตรียมวางแผนปรับปรุงให้ดียิ่งขึ้น

นครพนม อบรมผู้กำกับลูกเสือสามัญรุ่นใหญ่ สร้างต้นแบบลูกเสือในสถานศึกษา


วันที่ 18 เมษายน 2562 ที่ค่ายลูกเสือหนองญาติ อำเภอเมือง จังหวัดนครพนม นางวิไลวรรณ ไกรโสดา รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม เป็นประธานเปิดการฝึกอบรมผู้กำกับลูกเสือสามัญรุ่นใหญ่ ขั้นความรู้ชั้นสูง รุ่นที่ 1/2562 ที่สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 22 จึงได้ร่วมกับสโมสรลูกเสือริมฝั่งโขงนครพนมจัดขึ้นเพื่อถ่ายทอดองค์ความรู้ให้กับผู้กำกับลูกเสือสามัญรุ่นใหญ่ ให้มีความรู้ความเข้าใจ ในจุดหมาย วัตถุประสงค์และวิธีการ ในการฝึกอบรมเยาวชนแบบใหม่ ตามแนวทางของสำนักงานลูกเสือโลก บรรลุวัตถุประสงค์และอุดมการณ์ของคณะลูกเสือแห่งชาติ ทั้งสามารถวางแผนการฝึกอบรมลูกเสือตามแนวทางการฝึกอบรมแบบใหม่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ สามารถเป็นต้นแบบ และนำไปพัฒนางานด้านลูกเสือในสถานศึกษาที่ตนเองสังกัดได้

จากที่กระทรวงศึกษาธิการ ได้มีนโยบายพัฒนากิจการลูกเสือ ให้ลูกเสือมีคุณธรรม จริยธรรม มีวินัยและความเป็นระเบียบเรียบร้อย มีความจงรักภักดีต่อชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ศรัทธาเลื่อมใสในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข โดยให้สถานศึกษานำภารกิจดังกล่าวไปจัดกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พ.ศ. 2551 โดยมุ่งเน้นให้พัฒนาเต็มศักยภาพ ตั้งแต่วัยเด็กถึงวัยผู้ใหญ่ รวมถึงสามารถนำเอาความรู้ ประสบการณ์ มาพัฒนาตนเอง องค์กรและสังคม ให้เกิดประสิทธิภาพ โดยกิจกรรมลูกเสือเป็นอีกหนึ่งกิจกรรมที่จะมาพัฒนาเยาวชนให้เป็นพลเมืองที่ดี มีความรับผิดชอบ ช่วยสร้างสรรค์สังคม ให้มีความเจริญก้าวหน้า ซึ่งผู้กำกับลูกเสือและรองผู้กำกับลูกเสือในสถานศึกษา จึงเป็นผู้ที่มีบทบาทสำคัญอย่างมาก ด้วยเป็นผู้ที่ทำหน้าที่ฝึกอบรมลูกเสือให้เป็นไปตามเป้าหมาย และนโยบายที่กำหนด  นอกจากนี้สำนักงานกระทรวงศึกษาธิการขั้นพื้นฐาน ได้กำหนดมาตรการและแนวทางยกระดับคุณภาพการเรียนการสอน และจัดกิจกรรมลูกเสือในสถานศึกษา โดยผู้บริหารสถานศึกษา รองผู้บริหารสถานศึกษาทุกคนต้องผ่านการฝึกอบรมบุคลากรทางการลูกเสือ ขั้นความรู้ชั้นสูง ได้รับเครื่องหมายวูดแบดจ์ และส่งเสริมให้ครูรวมถึงบุคลากรทางการศึกษา ผ่านการฝึกอบรมและมีวุฒิทางลูกเสือ โดยกิจกรรมในครั้งนี้ผู้ที่เข้ารับการอบรมทั้ง 73 คน จะได้รับความรู้แบบเข้าค่ายพักแรมในด้านต่าง ๆ ผ่านฐานการเรียนรู้ 3 ฐานใหญ่ 10 ฐานย่อย เพื่อเรียนรู้และพัฒนาทักษะในด้านต่าง ๆ ระหว่างวันที่ 18 - 24 เมษายน 2562

วันพุธที่ 17 เมษายน พ.ศ. 2562

จิตอาสานครพนม ร่วมกับเจ้าหน้าที่ ซ่อมบ้านช่วยผู้ประสบวาตภัย


วันที่ 17 เมษายน 2562 ที่จังหวัดนครพนม คณะจิตอาสาจังหวัดนครพนม ร่วมกับ กำลังพลจากมณฑลทหารบกที่ 210 เจ้าหน้าที่ฝ่ายป้องกันของอำเภอ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ตลอดจนเจ้าหน้าที่ขององค์การบริหารส่วนตำบลในพื้นที่ ร่วมกันซ่อมแซมบ้านเรือนให้กับผู้ประสบวาตภัยในพื้นที่ หลังเกิดพายุฝน และลมกรรโชกแรง เมื่อวันที่ 16 เมษายน 2562 เวลาประมาณ 01.00 – 02.30 น. ส่งผลให้บ้านเรือนประชาชน ตลอดจนสถานที่ราชการในหลายพื้นที่ได้รับความเสียหาย โดยจากการสำรวจเบื้องต้นพบว่ามีบ้านเรือนประชาชน ใน 3 อำเภอ ได้รับความเสียหาย กว่า 120 หลังคาเรือน  ประกอบไปด้วย อำเภอนาทม 37 หลังคาเรือน ศาลาวัดสิมมะโน ตำบลนาทมเสียหายบางส่วน อำเภอนาหว้า 28 หลังคาเรือน และอำเภอบ้านแพง 55 หลังคาเรือน อาคารเรียนโรงเรียนบ้านท่าลาด ตำบลบ้านแพง เสียหายบางส่วน

ขณะเดียวกันด้วยความห่วงใยประชาชนในพื้นที่ที่เกิดวาตภัย นายสยาม ศิริมงคล ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม ก็ได้มอบหมายให้นางวิไลวรรณ ไกรโสดา รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม ร่วมกับเหล่ากาชาดจังหวัดนครพนม ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดนครพนม พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดนครพนม และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นลงพื้นที่เยี่ยม เพื่อสร้างขวัญกำลังใจและให้ความช่วยเหลือเบื้องต้นเพื่อบรรเทาความเดือดร้อน

วันอังคารที่ 16 เมษายน พ.ศ. 2562

ผู้ว่าฯนครพนม นำคณะจิตอาสาและเจ้าหน้าที่ บริการและส่งประชาชนเดินทางกลับ


วันที่ 16 เมษายน 2562 ที่บริเวณสถานีขนส่งจังหวัดนครพนม อำเภอเมืองนครพนม จังหวัดนครพนม บรรยากาศการเดินทางกลับของประชาชน ตลอดจนนักท่องเที่ยว ที่ได้เดินทางมาเยือนจังหวัดนครพนมเป็นไปอย่างต่อเนื่องไม่ขาดสาย โดยในวันนี้ทางสำนักงานขนส่งจังหวัดนครพนม ได้มีการคาดการว่าจะมีปริมาณประชาชนมาใช้บริการรถโดยสารสาธารณะจะมากกว่าวันปกติ ดังนั้นเพื่อให้รถโดยสารมีเพียงพอต่อความต้องการของประชาชน จึงได้จัดเที่ยวรถโดยสารเพิ่มเติมอีกจำนวน 17 เที่ยว ทำให้ตลอดทั้งวันจะมีเที่ยวรถทั้งสิ้น 31 เที่ยว

ส่วนด้านมาตรฐานความปลอดภัยนั้นหน่วยงานต่าง ๆ ได้บูรณางานร่วมกัน ตั้งแต่ รถโดยสารทุกคันที่จะให้บริการจะต้องมีการติดระบบ GPS ทุกคัน เพื่อให้สามารถตรวจสอบและติดตามรถจนถึงที่หมายอย่างปลอดภัย รวมถึงมีการตรวจสมรรถภาพของรถทุกคัน ไม่ว่าจะเป็นการตรวจเช็คลมยาง สภาพยาง สภาพโดยรอบตัวรถ ไฟเตือน ไฟฉุกเฉิน สภาพเบาะนั่ง สายรัดนิรภัย ประตูนิรภัย อุปกรณ์ป้องกันและระงับเหตุฉุกเฉินภายในรถ เช่น อุปกรณ์ดับเพลิง ค้อนทุบกระจก ประตูฉุกเฉิน ที่เมื่อเกิดเหตุสามารถนำเครื่องมือเหล่านี้มาใช้ได้ทันที รวมถึงการตรวจความพร้อมของพนักงานขับรถโดยสารสาธารณะ ที่จะต้องมีปริมาณแอลกอฮอล์เป็นศูนย์ ไม่มีสารเสพติดในร่างกาย มีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรงสมบูรณ์ เพื่อเป็นการสร้างความมั่นใจให้กับประชาชนที่จะมาใช้บริการรถโดยสารสาธารณะ ว่าจะได้รับความปลอดภัยตลอดการเดินทาง

ขณะเดียวกัน นายสยาม ศิริมงคล ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม ก็ได้นำคณะจิตอาสา พร้อมด้วยคณะกรรมการศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนนจังหวัดนครพนม มาให้บริการประชาชนระหว่างนั่งรอรถออกจากสถานี ไม่ว่าจะเป็นการพูดคุย สอบถามการเกี่ยวกับการเดินทาง การให้คำแนะนำในส่วนต่าง ๆ รวมถึงการแจกผ้าเย็นคลายร้อนและน้ำดื่ม โดยในโอกาสนี้ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนมยังได้แจ้งเตือนไปยังประชาชนที่มาใช้บริการรถโดยสารสาธารณะด้วยว่า ทางเจ้าหน้าที่ได้มีการตรวจความพร้อมของรถ และผู้ขับขี่อย่างดีแล้ว เมื่อทุกคนขึ้นรถก็อย่าลืมใช้เข็มขัดนิรภัยด้วย เพราะถ้ามีเหตุฉุกเฉินจะเป็นเครื่องมือในการป้องกันตนเองได้เป็นอย่างดี รวมถึงหากพบเห็นพฤติกรรมที่อาจก่อให้เกิดอันตราย หรือถูกเอารัดเอาเปรียบ สามารถร้องเรียนได้ที่สายด่วน 1584 ตลอดเวลา จะมีเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่ตรวจสอบและหากพบการกระทำผิดจริง จะมีการลงโทษตามกฎหมายทันที ส่วนผู้ที่ใช้รถใช้ถนนก็ขอให้เพิ่มความระมัดระวังและปฏิบัติตามกฎจราจรด้วย ถ้าเหนื่อยล้าก็ขอให้หยุดพักตามจุดตรวจ จุดบริการที่หน่วยงานราชการจัดไว้รองรับ หรือตามปั๊มน้ำมันที่มีอยู่ตลอดเส้นทางก็ได้เช่นเดียวกัน ยอมเสียเวลาสักนิด เพื่อชีวิตและความปลอดภัยของทุกคน

วันจันทร์ที่ 15 เมษายน พ.ศ. 2562

บรรยากาศนักท่องเที่ยวออกทำบุญ กราบไหว้ขอพร รอยพระพุทธบาทสองพันปีกลางลำน้ำโขง ที่นครพนม

วันที่ 15 เมษายน 2562 ที่จังหวัดนครพนม บรรยากาศการท่องเที่ยวช่วงเทศกาลสงกรานต์โค้งสุดท้าย  พบว่าประชาชนและนักท่องเที่ยวส่วนใหญ่มีการเล่นน้ำสงกรานต์น้อยกว่าทุกวันที่ผ่านมา แต่จะเลือกเดินทางไปท่องเที่ยวและทำบุญตามสถานที่สำคัญต่าง ๆ ในพื้นที่มากกว่า และหนึ่งในนั้นคือบริเวณวัดบ้านเวินพระบาท ตำบลเวินพระบาท  อำเภอท่าอุเทน ซึ่งทางองค์การบริหารส่วนตำบลเวินพระบาท ร่วมกับทางวัด ได้มีการสร้างสะพานแบบทุ่นลอยน้ำเพื่ออำนวยความสะดวกให้ประชาชนตลอดจนนักท่องเที่ยว ทั้งชาวไทย ชาวลาว ได้ลงไปทำบุญ กราบไหว้ ขอพร รอยพระพุทธบาทศักดิ์สิทธิ์กลางลำน้ำโขง ที่ทุกคนให้ความเคารพ ศรัทธา ซึ่งชาวบ้านเรียกว่า รอยพระพุทธบาทเวินปลา ที่มีอายุราว 2,000 ปี ซึ่งในช่วงฤดูแล้งของทุกปี หลังระดับน้ำในแม่น้ำโขงลด รอยพระพุทธบาทจะโผล่พ้นเหนือน้ำขึ้นมาให้ทุกคนได้เห็นและกราบไหว้ โดยในรอบ 1 ปีจะมีเพียงครั้งเดียวเท่านั้น แม้ในปีนี้ที่ระดับน้ำจะสูงกว่าทุกปี แต่ก็ยังสามารถมองเห็นรอยพระพุทธบาทกลางลำน้ำโขงได้อยู่

สำหรับรอยพระพุทธบาทเวินปลานั้น จากหลักฐานทางประวัติศาสตร์ ที่ถูกบันทึกไว้ในหนังสือใบลาน ตำนานพระอุรังคธาตุ สมัยสร้างพระธาตุพนมรุ่นแรก หรือกว่า 2,500 ปี มาแล้ว ได้ระบุไว้ว่า ครั้งหลังสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสรู้ และทรงเดินทางมาเผยแพร่พระธรรมในชมภูทวีป ล่องมาตามลำแม่น้ำโขง ก็ได้มีเหล่าพญานาคใต้เมืองบาดาลและพญาปลาปากคำที่เลื่อมใสในพระพุทธศาสนา ได้แปลงกลายและนิมนต์พระองค์ลงไปแสดงธรรมใต้บาดาล และก่อนที่พระองค์จะเสด็จขึ้นมาโลกมนุษย์ เหล่าพญานาคและพญาปลาปากคำ ได้ร้องขอสิ่งศักดิ์สิทธิ์แทนพระองค์ไว้กราบไหว้บูชา พระพุทธเจ้าจึงได้ประทับรอยพระบาทไว้บนโขดหินและปรากฏมาจนถึงทุกวันนี้

วันอาทิตย์ที่ 14 เมษายน พ.ศ. 2562

บรรยากาศการเล่นน้ำสงกรานต์นครพนม คึกคัก แบ่งโซนเอาใจทุกวัย

วันที่ 14 เมษายน 2562  ที่จังหวัดนครพนม บรรยากาศการเล่นน้ำสงกรานต์ในช่วงกลางวันค่อนข้างจะซบเซา เนื่องด้วยสภาพอากาศที่ร้อนจัด และมีพายุฝนแทบทุกวันทำให้ถนนเล่นน้ำสายหลัก คือถนนข้าวปุ้น ที่อยู่เลียบริมฝั่งแม่น้ำโขง ในเขตเทศบาลเมืองนครพนมไม่คึกคักเหมือนปีที่ผ่านมา แต่เมื่ออากาศเริ่มเย็นสบายในช่วงบ่ายก็เริ่มมีประชาชนและนักท่องเที่ยวทยอยออกมาเล่นน้ำสงกรานต์กันเรื่อย ๆ กระทั่งเย็นบรรยากาศก็เต็มไปด้วยผู้คนที่ออกมาสนุกกันอย่างเต็มที่ โดยในปีนี้นายสยาม ศิริมงคล ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม ได้มีการบูรณางานทั้งภาครัฐและภาคเอกชน จัดกิจกรรมไว้รองรับ 4 โซนด้วยกัน ประกอบไปด้วย โซนที่ 1 จะเป็นแบบศิลปวัฒนธรรม  ประเพณี และวิถีชีวิตของคนนครพนมที่ให้ทุกคนได้มาสัมผัสและเรียนรู้ ส่วนโซนที่ 2 จะเป็นการจัดจำหน่ายสินค้า อาหารที่ขึ้นชื่อของจังหวัดนครพนม รวมถึงการเปิดบุฟเฟ่ต์ทุเรียนและสุดยอดผลไม้ไทย 10 ชนิดที่เป็น 40 นาทีทองของผู้ที่ชื่นชอบผลไม้เพราะคิดในราคา 259 บาท ขณะที่โซนที่ 3 เป็นโซนสนุกสนาน ที่จัดให้เล่นน้ำสงกรานต์ แบบปลอดภัย ไร้แอลกอฮอล์ ลามกและอนาจาร รวมถึงถ่ายรูปเช็คอินกับฝูงนกฟามิงโก้กว่า 2,000 ตัว ส่วนโซนที่ 4  จะเป็นการแข่งขันกอล์ฟชายหาด ฟุตบอลชายหาด วอลเลย์บอลชายหาด และกีฬาทางน้ำ

ซึ่งแต่ละโซนก็จะได้รับความสนใจจากประชาชนตลอดจนนักท่องเที่ยวแตกต่างกันออกไปตามวัยและความชื่นชอบ โดยโซนที่ได้รับความสนใจมากสุดคงหนีไม่พ้นโซนที่ 3 เพราะเป็นโซนที่ทุกคนได้เล่นน้ำอย่างสนุกสนานและปลอดภัย พร้อมกับดนตรีแดนซ์ มันๆ ที่เอาใจสายย่อ ชอบเต้นแนว Electronic Dance Music (EDM) ภายใต้อุโมงน้ำ และปาร์ตี้โฟม ซึ่งจะปล่อยให้ทุกคนเข้าไปสนุกสนานเป็นรอบ ๆ  โดยโซนที่ 3 เป็นโซนที่มีมาตรการเข้มงวดมากที่สุด มีกำลังเจ้าหน้าที่ ทั้งฝ่ายตำรวจ ทหารและฝ่ายปกครองดูแลอย่างใกล้ชิด เพื่อดูแลและสร้างความปลอดภัยให้ทุกคน มีการตรวจคัดกรองบุคคลที่จะเข้าไปเล่นน้ำ ทั้งมีการห้ามพกพาแป้ง ห้ามดื่มสุรา และห้ามนำสุราเข้าไปในเขตพื้นที่ รวมถึงห้ามมีพฤติกรรมไม่เหมาะสม เชิงลามกอนาจาร และห้ามทะเลาะวิวาท โดยทุกวันจะหยุดเล่นน้ำที่เวลา 21.00 น. 

รองผู้ว่าฯนครพนม ลงพื้นที่ให้กำลังใจและช่วยเหลือผู้ประสบวาตภัยอำเภอศรีสงคราม พร้อมฝากเตือนอุบัติเหตุช่วงสงกรานต์


วันที่ 14 เมษายน 2562 ที่อำเภอศรีสงคราม จังหวัดนครพนม นายสยาม ศิริมงคล ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม มอบหมายให้ นายรังสรรค์ คัมภิรานนท์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม พร้อมด้วย  นางเยาวพา คัมภิรานนท์ รองนายกเหล่ากาชาดจังหวัดนครพนม นายนิติพัฒน์ ลีลาเลิศแล้ว ปลัดจังหวัดนครพนม ผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง ลงพื้นที่เยี่ยมเพื่อสร้างขวัญกำลังใจและให้ความช่วยเหลือราษฎรผู้ประสบวาตภัย จากเหตุฝนตก ลมกระโชกแรง เมื่อวันที่ 13 เมษายน 2562 เวลาประมาณ 14.00 - 16.00 น. และในวันนี้ที่เกิดเหตุในช่วงเช้า ส่งผลให้บ้านเรือนประชาชนในพื้นที่ตำบลนาคำ อำเภอศรีสงครามเสียหาย เบื้องต้นจากการสำรวจ 34 หลังคาเรือน

โดยในโอกาสนี้นอกจากรองผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม จะสอบถามถึงความเป็นอยู่ พูดคุยและสร้างขวัญกำลังใจให้กับประชาชน รวมถึงชี้แจงแนวทาง ขั้นตอนการปฏิบัติในการช่วยเหลือด้านต่าง ๆ ตั้งแต่เกิดภัย ที่จะมีหน่วยงานในพื้นที่เข้ามาช่วยเหลือเบื้องต้นก่อน และหลังจากนี้ที่หน่วยงานอื่น ๆ จะดำเนินการให้ความช่วยเหลือตามขั้นตอนและระเบียบราชการแล้ว  ยังได้ถือโอกาสอวยพรเนื่องในวันสงกรานต์หรือวันขึ้นปีใหม่ไทยด้วย โดยขอให้หลังจากนี้ทุกคนประสบเจอแต่สิ่งดี ๆ คิดอะไรก็ขอให้สมหวัง ร่ำรวยเงินทองและความสุข ทั้งยังได้ฝากข้อห่วงใยเกี่ยวกับการใช้รถใช้ถนนในช่วงเทศกาลสงกรานต์ด้วย เพราะจากการดำเนินงานในการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนของจังหวัดนครพนม พบว่าอุบัติเหตุส่วนใหญ่เกิดในชุมชนที่เป็นเส้นทางรอง ซึ่งพฤติกรรมที่พบคือการเมาแล้วขับ จึงอยากให้ทุกคนมาร่วมกันเฝ้าระวังเพื่อไม่ให้เกิดการสูญเสียมากไปกว่านี้ ด้วยการห้ามไม่ให้คนในครอบครัวและชุมชนที่ดื่มออกไปใช้รถใช้ถนน ทั้งนี้ในส่วนของทางราชการเองก็ได้มอบหมายให้นายอำเภอแต่ละอำเภอ กำชับด่านชุมชนในการใช้มาตรการทางสังคม ทั้งการพูดคุย การตรวจ x-ray บุคคลสุ่มเสี่ยง และเชิญตัวไว้ก่อน เพื่อป้องกันไม่ให้บุคคลที่มีพฤติการณ์เมาแล้วขับออกมาใช้พาหนะบนท้องถนนเช่นเดียวกัน

วันเสาร์ที่ 13 เมษายน พ.ศ. 2562

รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม ลงพื้นที่ติดตามให้กำลังใจและแก้ปัญหา หลังพายุพัดเต้นท์จุดตรวจ จุดบริการเสียหาย


วันที่ 13 เมษายน 2562 ที่อำเภอเมืองจังหวัดนครพนม นายรังสรรค์ คัมภิรานนท์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม พร้อมด้วยนายเอกราช มณีกรรณ์ นายอำเภอเมืองนครพนม ลงพื้นที่ติดตามการแก้ปัญหาจุดตรวจ จุดบริการประชาชนช่วงเทศกาลสงกรานต์ 2562 และให้กำลังใจผู้ปฏิบัติงาน หลังเมื่อเวลา 15.30 น. ได้เกิดพายุฤดูร้อนในเขตพื้นที่อำเภอเมือง มีฝนและลมกรรโชกแรงกว่า 1 ชั่วโมง จนเต้นท์จุดตรวจ จุดบริการ บริเวณหน้าสำนักงานหมวดทางหลวงนครพนม ทางหลวงหมายเลข 22 (นครพนม-สกลนคร) บ้านดอนยานาง ตำบลหนองญาติ ที่ทางหน่วยงานราชการบูรณาการหน่วยงานต่างๆ มาเปิดให้บริการประชาชนเสียหายทั้งหมด

 นายรังสรรค์ คัมภิรานนท์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม เปิดเผยว่า หลังทราบข่าวด้วยความห่วงใยเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานและประชาชนที่สัญจรไปมาในพื้นที่ในช่วงวันสงกรานต์นี้ ที่มีทั้งประชาชนในพื้นที่และนักท่องเที่ยวจำนวนมาก ซึ่งหากไม่มีจุดตรวจ จุดบริการเพื่ออำนวยความสะดวกอาจส่งผลให้เกิดการสูญเสียในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนได้ ดังนั้น นายสยาม ศิริมงคล ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม จึงได้มอบหมายให้ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด ทั้งเป็นการสร้างขวัญกำลังให้กับเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานด้วย โดยในเบื้องต้นได้มอบหมายให้นายอำเภอเมืองนครพนม ประสานหาเต้นท์ที่พักจากทางองค์การบริหารส่วนตำบลที่อยู่ใกล้เคียงมาทำการติดตั้งให้ใหม่ ตอนนี้เจ้าหน้าที่กำลังเดินทางไปนำเต้นท์มาติดตั้งใหม่ ซึ่งคาดว่าคงใช้เวลาไม่นานมากนักก็
จะสามารถเปิดให้บริการได้เช่นเดิม ส่วนเครื่องมืออุปกรณ์ที่ชำรุด เสียหายนั้น มีไม่มากสามารถซ่อมบำรุงได้ รวมถึงทางหน่วยงานยังมีเครื่องมือสำรองอยู่ จึงสามารถนำออกมาใช้ทดแทนส่วนที่ชำรุดได้ตามปกติ สำหรับบ้านเรือนของประชาชนนั้น เบื้องต้นพบว่ามีบ้านเรือนราษฎรในพื้นที่อำเภอเมืองนครพนมได้รับความเสียหายบางส่วน จำนวน
3 หลังคาเรือน และกำลังอยู่ระหว่างการสำรวจเพิ่มเติม พร้อมให้ความช่วยเหลือ ซ่อมแซมของเจ้าหน้าที่อยู่

ชาวนครพนมและนักท่องเที่ยว ร่วมสืบสานประเพณีทำบุญตักบาตร รดน้ำขอพรผู้สูงอายุเนื่องในวันขึ้นปีใหม่ไทย


วันที่ 13 เมษายน 2562 ที่บริเวณลานพญาศรีสัตตนาคราช เทศบาลเมืองนครพนม จังหวัดนครพนม นายสยาม ศิริมงคล ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม พร้อมด้วยนางวิไลวรรณ ไกรโสดา รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม นายรังสรรค์ คัมภิรานนท์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม นำคณะหัวหน้าส่วนราชการ เจ้าหน้าที่ ตลอดจนประชาชนและนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาเที่ยวจังหวัดนครพนม ร่วมสืบสานประเพณีอันดีงามในวันขึ้นปีใหม่ไทยด้วยการประกอบพิธีทำบุญตักบาตร รับฟังพระธรรมเทศนา สรงน้ำพระธาตุประจำวันเกิด และรดน้ำผู้สูงอายุเพื่อขอพรเนื่องในวันสงกรานต์ประจำปี 2562

สงกรานต์ เป็นคำในภาษาสันสกฤต ที่หมายถึง การเคลื่อนย้าย โดยเป็นการอุปมาถึงการเคลื่อนย้ายการประทับในจักรราศี หรือการเคลื่อนเข้าสู่ปีใหม่ตามความเชื่อของไทย และบางประเทศในแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยประเพณีสงกรานต์นั้น มีสืบทอดกันมาตั้งแต่โบราณ เดิมทีวันสงกรานต์จะมีการคำนวณทางดาราศาสตร์ ตามปฏิทินของไทย แต่ในปัจจุบันได้มีการกำหนดวันที่แน่นอน คือวันที่ 13 – 15 เมษายน ซึ่งพิธีสงกรานต์นั้นจะใช้ น้ำเป็นสัญลักษณ์หลักในการทำกิจกรรมต่าง ๆ  โดยในช่วงวันสงกรานต์นั้นประชาชนมักจะร่วมกันทำบุญตักบาตร เพื่อสร้างบุญกุศลให้กับตนเองและครอบครัว ทั้งยังเป็นการอุทิศส่วนกุศลให้แก่ญาติและผู้ที่ล่วงลับไปแล้ว ร่วมกัน การก่อเจดีย์ทราย ที่เป็นคติความเชื่อเกี่ยวกับเวรกรรมในพระพุทธศาสนา ที่ว่าการก่อพระเจดีย์ทรายถวายวัดเป็นการนำเอาเศษดินทรายที่ติดเท้าออกจากวัดไปกลับมาคืนให้วัดในรูปพระเจดีย์ทราย ทั้งยังเป็นการถวายพุทธบูชาให้เป็นกุศลอานิสงส์ และเป็นกุศโลบายของคนในอดีตเพื่อให้ทุกคนในชุมชนได้มีการรวมกัน เพื่อร่วมกันจัดงานประเพณีรื่นเริง เป็นการสังสรรค์ สร้างความรักความสามัคคีของคนในชุมชนอีกด้วย

นอกจากนั้นก็ยังมีการสรงน้ำพระ ที่เป็นการรดน้ำพระพุทธรูปที่บ้านและที่วัด ซึ่งในบางที่ก็จะมีการจัดให้สรงน้ำพระสงฆ์เพิ่มเติม การบังสุกุลอัฐิเถ้ากระดูกของญาติผู้ใหญ่ที่ได้ล่วงลับไปแล้ว เพื่อไม่ให้ทุกคนลืมคุณความดีของบรรพชน การรดน้ำขอขมาในสิ่งที่ได้ล่วงเกินและขอพรจากผู้อาวุโส ครู อาจารย์ ผู้สูงอายุ ผู้ที่ให้ความเคารพนับถือ และการอวยพรปีใหม่ให้แก่กันและกันในการเริ่มต้นสิ่งใหม่ๆ ในวันปีใหม่ไทย โดยมีน้ำเป็นสื่อเชื่อมโยงสายใยแห่งความรักและความผูกพัน การปล่อยนกปล่อยปลาเพื่อล้างบาปที่เราได้ทำไว้ เป็นการสะเดาะเคราะห์ร้ายให้กลายเป็นดี มีแต่ความสุข ความสบายในวันขึ้นปีใหม่



ผู้ว่าฯนครพนม ลงพื้นที่เยี่ยมจุดตรวจ จุดบริการประชาชนช่วงเทศกาลสงกรานต์ 2562


วันที่ 13 เมษายน 2562 ที่จังหวัดนครพนม นายสยาม ศิริมงคล ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมให้กำลังใจหน้าที่ผู้ปฏิบัติงาน ตามจุดตรวจ จุดบริการประชาชนช่วงเทศกาลสงกรานต์ 2562 ซึ่งจังหวัดนครพนมได้มีการบูรณางานร่วมกัน ทั้งฝ่ายทหาร ตำรวจ ฝ่ายปกครอง ฝ่ายป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยสาธารณสุข องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น สถานศึกษา และอาสาสมัครต่าง ๆ  ในการอำนวยความสะดวกและให้บริการแก่พี่น้องประชาชนตลอดจนนักท่องเที่ยวที่สัญจรไปมาในช่วงเทศกาลสงกรานต์ 2562

โดยในโอกาสนี้ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม ยังได้ถือโอกาสกล่าวขอบคุณเจ้าหน้าที่ทุกนายที่ได้เสียสละเวลาอันมีค่าที่จะได้อยู่กับครอบครัว มาช่วยกันปฏิบัติหน้าที่ ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อสร้างความปลอดภัยให้กับประชาชน ทั้งได้มีการสอบถามสถานการณ์ในการเดินทาง การให้บริการและปัญหาที่เกิดขึ้นในแต่ละวัน รวมถึง แนวทางในการแก้ไข และสิ่งที่ต้องการให้ทางจังหวัดสนับสนุนในการปฏิบัติหน้าที่เพิ่มเติม โดยได้มีการเน้นย้ำในเรื่องของการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ทุกนาย ขอให้มีความเข้มงวดอย่างสม่ำเสมอและเป็นไปด้วยความถูกต้อง เป็นธรรมกับทุกฝ่ายด้วย ก่อนที่จะมอบเครื่องดื่มชูกำลัง อาหารแห้ง และยาสามัญประจำบ้านให้กับตัวแทนจุดตรวจ จุดบริการ ไว้ใช้ร่วมกันเป็นการสร้างขวัญและกำลังใจให้กับผู้ปฏิบัติงาน

วันศุกร์ที่ 12 เมษายน พ.ศ. 2562

ผู้ว่าฯนครพนม นำทีมสร้างขวัญกำลังและให้ความช่วยเหลือผู้ประสบวาตภัยอำเภอธาตุพนม


วันที่ 12 เมษายน 2562 ที่จังหวัดนครพนม นายสยาม ศิริมงคล ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม นำคณะหัวหน้าส่วนราชการ เหล่ากาชาดจังหวัดนครพนม ผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และเจ้าหน้าที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องลงพื้นที่ เยี่ยมสร้างขวัญกำลังใจและให้ความช่วยเหลือผู้ประสบวาตภัยในพื้นที่อำเภอธาตุพนม หลังได้รับผลกระทบจากการเกิดพายุฤดูร้อน เมื่อเวลา 13.30 น. วันที่ 11 เมษายนที่ผ่านมา โดยข้อมูลเบื้องต้นจากการสำรวจพบว่ามีบ้านเรือนประชาชนเสียหาย 90 หลังคาเรือน อาคารเรียนเสียหาย 1 หลัง คอกเลี้ยงสัตว์ 2 หลัง ประกอบไปด้วย ตำบลน้ำก่ำ 61 หลังคาเรือน อาคารเรียนโรงเรียนบ้านทู้  1 หลัง คอกเลี้ยงสัตว์ 1 หลัง ตำบลธาตุพนมเสียหาย 2 หลังคาเรือน ตำบลฝั่งแดงเสียหาย 5 หลังคาเรือน คอกเลี้ยงสัตว์ 1 หลัง และตำบลนาถ่อนเสียหาย 10 หลังคาเรือน

โดยในโอกาสนี้ นายสยาม ศิริมงคล ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม ได้กล่าวกับผู้ประสบวาตภัยว่า เมื่อทราบข่าวการเกิดพายุฝน ลมกรรโชกแรงขึ้นในพื้นที่และมีบ้านเรือนประชาชนเสียหายจำนวนมาก ด้วยความห่วงใยทุกคนจึงได้นำส่วนราชการต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องลงพื้นที่ให้การช่วยเหลือในเบื้องต้นก่อน ซึ่งข้อมูลผู้ประสบวาตภัยในครั้งนี้อาจจะยังไม่ครบถ้วน เพราะยังอยู่ระหว่างการสำรวจของเจ้าหน้าที่ อย่างไรก็ดีทุกคนที่ประสบภัยในครั้งนี้ ยังสามารถแจ้งข้อมูลเพิ่มเติมผ่านทางกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน เพื่อประสานขอความช่วยเหลือจากทางราชการได้ตามขั้นตอนปกติ เพราะขณะนี้ทางจังหวัดยังอยู่ระหว่างการสำรวจข้อมูลผู้ประสบภัยทั้งหมด ก่อนที่จะประกาศเป็นเขตภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน เพื่อให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องสามารถเบิกจ่ายงบประมาณ มาให้การช่วยเหลือ ปรับปรุง ซ่อมแซมบ้านเรือน ให้กับประชาชนตามระเบียบราชการ และขอให้ทุกคนมีกำลังใจที่เข้มแข็ง พบเจอแต่สิ่งดี ๆ หลังจากนี้

ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนมนำสื่อประเดิมบุฟเฟ่ต์ทุเรียนและสุดยอดผลไม้ไทย 10 ชนิดในงานเทศกาลสงกรานต์


วันที่ 12 เมษายน 2562 ที่บริเวณลานกินลมชมวิว ถนนสุนทรวิจิตร ริมฝั่งแม่น้ำโขง เทศบาลเมืองนครพนม อำเภอเมือง จังหวัดนครพนม นายสยาม ศิริมงคล ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนมเป็นประธานเปิดกิจกรรมบุฟเฟ่ต์ทุเรียนและสุดยอดผลไม้ไทย 10 ชนิด ภายในงาน สงกรานต์นครพนมรื่นรมย์บุญปีใหม่ไทย - ลาว  2562 ที่จังหวัดนครพนมจัดขึ้น ระหว่างวันที่ 12-15 เมษายน เพื่อส่งเสริม สืบสาน อนุรักษ์ประเพณีวัฒนธรรมและกระตุ้นเศรษฐกิจรวมถึงการท่องเที่ยวของจังหวัดนครพนม โดยเป็นการบูรณาการความร่วมมือ ระหว่างภาครัฐ ภาคเอกชนและประชาชนในพื้นที่ โดยในโอกาสนี้ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนมได้ถือโอกาสขอบคุณสื่อมวลชนที่ได้ร่วมกันประชาสัมพันธ์งานในส่วนต่าง ๆ ของจังหวัด เพื่อสร้างการรับรู้ให้กับประชาชน ด้วยการมอบบัตรรับประทานบุฟเฟ่ต์ทุเรียนและสุดยอดผลไม้ไทย 10 ชนิด ในราคา 259 บาท/ 40 นาทีให้กับทุกคนที่มาร่วมงานในวันนี้ ได้รับประทานแบบเต็มอิ่มที่เลือกทานตามความชอบของแต่ละคนเป็นการประเดิมการเปิดงาน นอกจากนี้พลตำรวจเอก อดุลย์ แสงสิงแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ซึ่งเป็นลูกหลานชาวนครพนมก็ได้ถือโอกาสนี้เดินทางมาร่วมงาน และมอบเงินสนับสนุนกิจกรรมดี ๆ ที่จังหวัดนครพนมจัดขึ้นเช่นเดียวกัน

สำหรับงานสงกรานต์นครพนมรื่นรมย์บุญปีใหม่ไทย-ลาว 2562 ที่จังหวัดนครพนมจัดขึ้นในครั้งนี้มีกิจกรรมอย่างมากมายหลากหลายรูปแบบเพื่อให้ประชาชนตลอดจนนักท่องเที่ยวทุกช่วงวัยได้มาสนุกสนาน โดยแบ่งกิจกรรมออกเป็น 4 โซนด้วยกัน ประกอบไปด้วย โซนที่ 1 รื่นรมย์บุญปีใหม่ไทย ที่จะมีกิจกรรมไหว้พระธาตุประจำวันเกิด กิจกรรมสรงน้ำพระ ประกวดแข่งขันกินข้าวปุ้นสูตรเด็ด 7 ย่านน้ำ ประกวดส้มตำซิ่งชิงสากทองคำ ประกวดเทพีสงกรานต์ ประกวดหนูน้อยนครพนม ตลาดโบราณ ชมวิถีชีวิตและชมกระบวนแห่สุดอลังการคาร์นิวัล 8 ชนเผ่า 2 เชื้อชาติ รำวงย้อนยุค เต้นบาสโลป โซนที่ 2 รื่นรมย์ ชม ชิม ช้อป แชะ แชร์ จะเป็นการแสดงพื้นบ้านอาหารพื้นถิ่น ปลาแม่น้ำโขง โคขุนปิ้งย่าง การจำหน่ายสินค้าผลิตภัณฑ์ชุมชน แตงโมไร้เมล็ด สับปะรดหวาน ลิ้นจี่นพ.1 นครพนม และบุฟเฟ่ต์ทุเรียนและสุดยอดผลไม้ไทย 10 ชนิด โซนที่ 3 Pink Summer นครพนม 62 จะเป็นโซนความบันเทิง สนุกสนานกับดนตรีแดนซ์ แนว EDM แบบปลอดภัยไร้แอลกอฮอล์ กิจกรรมปาร์ตี้โฟม อุโมงค์น้ำ และถ่ายรูปเช็คอินกับฝูงนกฟามิงโก้กว่า 2,000 ตัว ส่วนสุดท้ายโซนที่ 4 Mekong Summer Beach จะเป็นการแข่งขันกอล์ฟชายหาด ฟุตบอลชายหาด วอลเลย์บอลชายหาด และกีฬาทางน้ำ