วันที่ 5 กรกฎาคม 2562 ที่จังหวัดนครพนม
นายอภิชาติ วงษ์กาฬสินธุ์ จัดหางานจังหวัดนครพนม เปิดเผยว่า จากที่มีการประกาศใช้พระราชกำหนดการบริหารจัดการทำงานของคนต่างด้าว
พ.ศ.2560
ซึ่งเป็นกฎหมายที่ออกมาเพื่อจัดระเบียบและดูแลสภาพการจ้างงานของคนต่างด้าวในไทย
โดยเฉพาะแรงงานจากประเทศเพื่อนบ้านที่เข้ามาทำงานหลากหลายประเภท
ซึ่งมีการกำหนดบทลงโทษทั้งนายจ้างและแรงงานต่างด้าวที่กระทำผิดกฎหมายในเรื่องการจ้างงาน
โดยก่อนหน้านี้จังหวัดนครพนมได้มีการประชาสัมพันธ์สร้างการรับรู้และเข้าใจให้กับนายจ้าง
สถานประกอบการที่ต้องใช้แรงงานต่างด้าวให้มีการดำเนินการให้ถูกต้องตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด
รวมถึงมีการส่งชุดปฏิบัติการเฉพาะกิจตรวจสอบ ปราบปราม จับกุม
และดำเนินคดีคนต่างด้าวลักลอบทำงาน
โดยไม่ได้รับอนุญาตและการค้ามนุษย์จังหวัดนครพนมลงพื้นที่ตรวจสอบอยู่เสมอ
โดยเป็นการบูรณาการร่วมกันลงพื้นที่ตรวจสอบสถานประกอบการและนายจ้าง
เกี่ยวกับแรงงานต่างด้าวที่ลักลอบเข้ามาทำงานและค้ามนุษย์ในพื้นที่อำเภอศรีสงคราม ซึ่งชุดปฏิบัติการเฉพาะกิจในครั้งนี้ที่ประกอบด้วย
เจ้าหน้าที่จากสำนักงานจัดหางานจังหวัดนครพนม
กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในจังหวัดนครพนม ตำรวจตระเวนชายแดนที่ 236 และสำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดนครพนมได้ร่วมกันออกตรวจตั้งแต่เวลา
20.10 น. ของวันที่ 4 กรกฎาคม 2562 ปรากฎว่ามีการกระทำความผิดของนายจ้างและสถานประกอบการ
ประเภทกิจการจำหน่ายอาหารและเครื่องดื่ม 4 แห่ง โดยร้านแรกมีแรงงานต่างด้าว 3 ราย
ทำงานโดยไม่ได้รับอนุญาต 2 รายและทำงานนอกเหนือจากสิทธิ์ 1 ราย ร้านที่ 2
พบแรงงานต่างด้าวทำงานโดยไม่ได้รับอนุญาต 1 ราย ร้านที่ 3
พบแรงงานต่างด้าวทำงานโดยไม่ได้รับอนุญาต 5 ราย และร้านที่ 4
พบแรงงานต่างด้าวทำงานโดยไม่ได้รับอนุญาต 4 ราย รวมทั้งสิ้นมีแรงงานต่างด้าวกระทำผิด
13 ราย เจ้าหน้าที่จึงได้แจ้งการกระทำความผิดให้กับนายจ้างและแรงงานต่างด้าวทราบ พร้อมดำเนินการตามกฎหมาย
คือ แรงงานต่างด้าวทำงานโดยไม่มีใบอนุญาตทำงาน หรือทำงานนอกจากสิทธิที่ทำได้
มีโทษปรับตั้งแต่ 5,000-50,000 บาท
ส่วนนายจ้างรับคนต่างด้าวไม่มีใบอนุญาตทำงาน หรือให้คนต่างดาวทำงานนอกจากสิทธิที่ทำได้
โทษปรับตั้งแต่ 10,000-100,000 บาท
ต่อการจ้างคนต่างด้าว 1 คน

ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น