วันเสาร์ที่ 30 พฤศจิกายน พ.ศ. 2562

นรข.เขต นครพนม สกัดยึดยาบ้าเกือบ 9 แสนเม็ด พร้อมไอซ์ 1,500 กรัมและผู้ต้องหา 1 ราย


วันที่ 30 พฤศจิกายน 2562 ที่กองบังคับการหน่วยเรือรักษาความสงบเรียบร้อยตามลำแม่น้ำโขงเขตนครพนม อำเภอธาตุพนม จังหวัดนครพนม  พลเรือตรี สมพงษ์ ศรอากาศ ผู้บัญชาการหน่วยเรือรักษาความสงบเรียบร้อยตามลำแม่น้ำโขงนครพนม มอบหมายให้ นาวาเอก ณัฐพงศ์ พรรณรายน์ ผู้บังคับการหน่วยเรือรักษาความสงบเรียบร้อยตามลำแม่น้ำโขงเขตนครพนม พร้อมด้วย นาวาโท สิทธิศักดิ์ สิทธิกุล ผู้บังคับหมู่เรือที่ 3 รักษาราชการหัวหน้าสถานีเรือมุกดาหาร พันเอก ยุทธนา มหาวัน รองผู้บังคับการกองบังคับการควบคุมที่ 1 กองกำลังสุรศักดิ์มนตรี กรมทหารราบที่ 3  พันเอก ตระกูล ไทยสมัคร ฝ่ายเสนาธิการประจำกองบัญชาการควบคุม ศูนย์อำนวยการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดชายแดนภาคตะวันออกเฉียงเหนือ กองทัพภาคที่ 2  พันตำรวจเอกชัชชัย วงศ์สุนะ รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดมุกดาหาร พันตำรวจเอกไพศาล ศักดิ์สุนทรศิริ รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดยโสธร ร่วมกับเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคง และชุดสืบสวนปฏิบัติการปราบปรามยาเสพติด แถลงข่าวการจับกุมผู้ต้องหา จำนวน 1 ราย เป็นชาวตำบลนาตาล อำเภอนาตาล จังหวัดอุบลราชธานี พร้อมของกลางยาบ้า จำนวน 874,000 เม็ด  และยาไอซ์ จำนวน 1,500 กรัม  รถยนต์เก๋ง ฮอนด้าซิตี้สีดำทะเบียน 6 กธ 4475 กทม.

หลังเจ้าหน้าที่หน่วยเรือรักษาความสงบเรียบร้อยตามลำแม่น้ำโขง สืบทราบว่าจะมีการลักลอบนำเข้ายาเสพติดจากประเทศเพื่อนบ้านเข้ามาในพื้นที่จังหวัดนครพนม เนื่องจากในช่วงนี้ระดับน้ำโขงลดลงทำให้สามารถลำเลียงได้ง่าย ประกอบกับใกล้เทศกาลปีใหม่ขบวนการค้ายาเสพติดจึงพยายามลักลอบลำเลียงยาเสพติดเข้ามาพักเพื่อรอการจำหน่าย โดยเจ้าหน้าที่หน่วยเรือรักษาความสงบเรียบร้อยตามลำแม่น้ำโขงได้มีการคุมเข้มลาดตระเวนตามแนวชายแดนในพื้นที่จังหวัดนครพนมให้มีความถี่เพิ่มมากขึ้น กระทั่งเวลา 16.00 น. ของวันที่ 29 พฤศจิกายน 2562 แหล่งข่าวได้แจ้งอีกครั้งว่าจะมีรถยนต์ลักลอบขนยาเสพติดขึ้นที่บริเวณบ้านนาสีนวน ตำบลนาสีนวน จังหวัดมุกดาหาร จึงได้ประสานหน่วยงานต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องเฝ้าสังเกตและติดตามอย่างต่อเนื่อง กระทั่งเห็นว่าเป็นพื้นที่ปลอดภัยและห่างไกลผู้คน เจ้าหน้าที่จึงได้แสดงตัวขอตรวจค้น เมื่อคนขับเห็นเจ้าหน้าที่ก็ได้ขับรถหลบหนีการจับกุมไปทางอำเภอเลิงนกทา จังหวัดยโสธร กระทั่งเห็นจวนตัวจึงได้หยุดรถยนต์และวิ่งหลบหนีไปในความมืดบริเวณบ้านด่าน ตำบลสามแยก แต่เจ้าหน้าที่สามารถจับกุมมาได้ 1 ราย และหลบหนีไปได้ 1 ราย โดยจากการตรวจสอบบนรถยนต์พบของกลางยาบ้า จำนวน 874,000 เม็ด และยาไอซ์ จำนวน 1,500 กรัม จึงได้ควบคุมตัวผู้ต้องหามาสอบสวนขยายผลการจับกุม เบื้องต้นผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า ได้รับการติดต่อจากเพื่อนร่วมแก๊งให้นั่งรถมาเป็นเพื่อนเพื่อนำยาบ้าไปส่งที่จังหวัดอุบลราชธานี โดยไม่รู้รายละเอียดอย่างอื่นและยอมรับว่าตนเองเสพยาบ้า ส่วนผู้ต้องหาที่หลบหนีไปได้ ตอนนี้เจ้าหน้าที่รู้ตัวแล้ว กำลังอยู่ระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐานออกหมายจับและติดตามตัวมาดำเนินคดีต่อไป

วันพฤหัสบดีที่ 28 พฤศจิกายน พ.ศ. 2562

จังหวัดนครพนม ประกอบพิธีเจริญพระพุทธมนต์ถวายพระพรชัยมงคล แด่สมเด็จพระบรมราชชนนีพันปีหลวง พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระบรมราชินี


วันนี้ 28 พฤศจิกายน 2562 ที่วัดพระธาตุพนมวรมหาวิหาร อำเภอธาตุพนม จังหวัดนครพนม  นายสยาม ศิริมงคล ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม เป็นประธานฝ่ายฆราวาสนำคณะหัวหน้าส่วนราชการ และพสกนิกรจังหวัดนครพนม ร่วมประกอบพิธีเจริญพระพุทธมนต์เฉลิมพระเกียรติและถวายพระพรชัยมงคลแด่สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าสุทิดา พัชรสุธาพิมลลักษณ พระบรมราชินี  เพื่อแสดงออกถึงความจงรักภักดี และน้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ โดยมีพระเทพวรมุนี เจ้าคณะจังหวัดนครพนม เจ้าอาวาสวัดพระธาตุพนมวรมหาวิหาร เป็นประธานฝ่ายสงฆ์

โดยในเวลา 16.00 น. ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม ได้เป็นประธานประกอบพิธีจุดธูปเทียนบูชาพระรัตนตรัย เปิดกรวยถวายราชสักการะเบื้องหน้าพระบรมฉายาลักษณ์พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าสุทิดา พัชรสุธาพิมลลักษณ พระบรมราชินี และเปิดกรวยถวายราชสักการะเบื้องหน้าบรมพระฉายาลักษณ์ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง   จากนั้นทุกคนร่วมกันอาราธนาศีล พระสงฆ์ให้ศีล เจ้าหน้าที่อาราธนาพระปริตร พระสงฆ์นำผู้ร่วมพิธีเจริญพระพุทธมนต์ถวายพระพรชัยมงคล จากนั้นทุกคนร่วมกันเจริญสมาธิภาวนา เป็นเวลา 99 วินาที และกรวดน้ำเพื่อถวายเป็นพระราชกุศล ก่อนที่ประธานในพิธีนำทุกคนกราบลาพระรัตนตรัย และถวายความเคารพลาเบื้องหน้าพระบรมฉายาลักษณ์ เป็นเสร็จพิธี

ทั้งนี้จังหวัดนครพนม ได้กำหนดประกอบพิธีเจริญพระพุทธมนต์เฉลิมพระเกียรติฯ ในครั้งต่อไป ในวันพฤหัสบดี ที่ 28 ธันวาคม 2562 ณ วัดมหาธาตุ อำเภอเมืองนครพนม จังหวัดนครพนม

พช.นครพนม จัดกระเช้า OTOP ฮักแพงแบ่งปัน ส่งมอบความรัก ความผูกพัน รับเทศกาลปีใหม่ 63

วันที่ 28 พฤศจิกายน 2562 ที่บริเวณศาลากลางจังหวัดนครพนม นายสามารถ โรจนวิเชียร พัฒนาการจังหวัดนครพนม เปิดเผยว่า ในโอกาสสำคัญต่าง ๆ การส่งมอบความสุขให้กับคนที่เรารักถือเป็นสิ่งที่มีความสำคัญยิ่ง และมีหลากหลายวิธี หนึ่งในนั้นก็คือการมอบของขวัญแทนความรู้สึก ซึ่งแต่ละคนก็จะมีวิธีการเลือกหาของขวัญที่แตกต่างกันออกไปเพื่อให้ถูกใจคนที่เราจะส่งมอบของขวัญให้มากที่สุด และในช่วงเทศกาลปีใหม่ 2563 ที่กำลังจะมาถึงในอีกไม่นานนี้ก็เป็นอีกห้วงเวลา ที่ประชาชนส่วนใหญ่นิยมหาของฝาก ของขวัญไปมอบให้กับคนที่เรารักหรือผู้ใหญ่ที่ให้ความเคารพนับถือ เพื่อแสดงความรู้สึกและกราบไหว้ขอพร ดังนั้นเพื่อเป็นการประชาสัมพันธ์สร้างการรับรู้ให้กับประชาชนตลอดจนนักท่องเที่ยวได้เห็นสินค้า OTOP ระดับพรีเมียมของจังหวัดนครพนม ที่มีอยู่อย่างหลากหลายในทุกอำเภอ และหันมาช่วยกันสนับสนุนเป็นการเพิ่มรายได้ให้กับประชาชน กลุ่มผู้ผลิตชุมชนและผู้ประกอบการ OTOP ในระดับท้องถิ่น เป็นการสร้างเศรษฐกิจฐานรากที่มั่นคงให้กับประเทศ สำนักงานพัฒนาชุมชนจังหวัดนครพนม จึงได้มีการนำสินค้าเหล่านี้มาจัดเป็นกระเช้าแสดงให้หัวหน้าส่วนราชการเห็น ในงานประชุมประจำเดือนของจังหวัดนครพนม และนำไปบอกต่อยังประชาชนและนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาเยือนในพื้นที่



สำหรับสินค้าที่นำมาจัดเป็นกระเช้า OTOP ฮักแพงแบ่งปัน ส่งมอบความรัก ความผูกพัน รับเทศกาลปีใหม่ 63 นั้น มีหลายหลายรูปแบบเพื่อให้เป็นที่ถูกอกถูกใจกับผู้ที่จะมาเลือกหาไปเป็นของฝากของขวัญสำหรับคนสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นสินค้าที่เป็นผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพ เช่น สบู่ถั่งเช่า สบู่กวาวเครือ สบู่สครับกาแฟ สบู่เหลวเห็ดเยื่อไผ่ สบู่เหลวข้าวหอมมะลิ สบู่เหลวคอลลาเจนรังไหม สบู่สมุนไพรออแกนิคดอกกันเกราและน้ำมันมะพร้าวสกัดบริสุทธิ์ หรือจะเป็นสินค้าประเภทเครื่องแต่งกายผ้าไทนคร ที่มีทั้งเป็นชิ้น อย่างผ้าคลุมไหล่ ผ้าสไบ และผ้าพันคอที่ถักทอด้วยฝีมืออันประณีตขึ้นรูปเป็นลวดลายที่สวยงาม รวมถึงการออกแบบตัดเป็นชุดสำเร็จรูปที่ทันสมัยที่ทุกเพศ ทุกวัยสามารถสวมใส่ไปได้ในทุกที่ ทุกกิจกรรม นอกจากนี้ยังมีสินค้าที่เป็นเครื่องประดับตกแต่ง เครื่องเรือน อาหารและเครื่องดื่มบรรจุภัณฑ์อีก ซึ่งทุกชิ้นล้วนมีความโดดเด่นเฉพาะตัวในเรื่องของเอกลักษณ์และอัตลักษณ์ของแต่ละชุมชน มีการพัฒนาต่อยอดให้มีความสวยงาม สะอาด ปลอดภัย และเหมาะที่จะเป็นของแทนใจทั้งผู้ให้และผู้รับ ที่สำคัญมีหลากหลายราคาให้เลือกหา โดยเริ่มต้นเพียง 100 บาทกับเนคไทผ้าทอมือ ทั้งนี้ผู้ที่สนใจสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมหรือสั่งจองได้ที่สำนักงานพัฒนาชุมชนจังหวัดนครพนม โทร 042 – 511525 ในวันเวลาราชการ

วันอังคารที่ 26 พฤศจิกายน พ.ศ. 2562

จ.นครพนม สร้างพนักงานตรวจแรงงานและเครือข่าย ป้องกันและแก้ปัญหาการค้ามนุษย์ด้านแรงงาน


วันที่ 26 พฤศจิกายน 2562 ที่จังหวัดนครพนม นางวษมล มณีสุต สวัสดิการและคุ้มครองแรงงานจังหวัดนครพนม เปิดเผยว่า ปัญหาการค้ามนุษย์ ถือเป็นภัยคุกคามด้านความมั่นคงรูปแบบใหม่ เป็นประเด็นที่หลายประเทศทั่วโลกให้ความสำคัญเป็นอย่างยิ่ง เนื่องจากเป็นการกระทำที่ลดทอนศักดิ์ศรีและค่าความเป็นมนุษย์ อีกทั้งยังเป็นต้นเหตุนำไปสู่ปัญหาอื่น ๆ เช่น ปัญหาอาชญากรรม ยาเสพติด การลักลอบเข้าเมือง การค้าประเวณี และที่สำคัญในกฎหมายสิทธิมนุษย์ชนถือว่าการค้ามนุษย์เป็นอาชญากรรมระหว่างประเทศ ซึ่งปัจจุบันการค้ามนุษย์มีหลากหลายรูปแบบและมีแนวโน้มรุนแรงมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็น การบังคับค้าประเวณี การบังคับเพื่อธุรกิจทางเพศ การบังคับใช้แรงงาน การบังคับขอทาน และรัฐบาลได้ประกาศให้การแก้ไขปัญหาการค้ามนุษย์เป็นวาระแห่งชาติ โดยมุ่งหวังให้มีการขจัดปัญหาการค้ามนุษย์ให้หมดไป

โดยปัจจุบันสำนักงานสวัสดิการคุ้มครองแรงงานจังหวัดนครพนม มีพนักงานตรวจแรงงานเพียง 4 คนเท่านั้น ซึ่งมีไม่เพียงพอที่จะเข้าไปดูแลลูกจ้างในสถานประกอบกิจการที่มีอยู่ในพื้นที่กว่า 12,599 คน จากสถานประกอบการ 1,640 แห่ง ดังนั้นเพื่อให้ลูกจ้างทุกคนได้รับสิทธิประโยชน์ตามกฎหมาย ตลอดจนเป็นการป้องกันปัญหาการค้ามนุษย์ด้านแรงงาน แรงงานบังคับ และแรงงานขัดหนี้ สำนักงานสวัสดิการคุ้มครองแรงงานจังหวัดนครพนน จึงได้จัดการอบรมพนักงานตรวจแรงงานและเครือข่ายในจังหวัดนครพนม เพื่อเป็นการป้องกันและแก้ไขปัญหาการค้ามนุษย์ด้านแรงงานขึ้น ตามคำสั่งกระทรวงแรงงานที่ 33/2560 เรื่องแต่งตั้งพนักงานตรวจแรงงานตามพระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงาน พ.ศ. 2541 เพื่อให้มีเจ้าพนักงานตรวจแรงงานที่เพียงพอต่อการให้ความคุ้มครองดูแลลูกจ้าง ทั้งเป็นการบูรณาการงานร่วมกันระหว่างหน่วยงานราชการต่าง ๆที่เกี่ยวข้องในการป้องกันและแก้ปัญหาการค้ามนุษย์ด้านแรงงาน ซึ่งเป็นนโยบายสำคัญของรัฐบาลให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
โดยผู้เข้ารับการอบรมในครั้งนี้จะได้รับความรู้เกี่ยวกับ นโยบายการตรวจแรงงาน บทบาทหน้าที่และคุณสมบัติของพนักงานตรวจแรงงานการค้ามนุษย์ด้านแรงงาน แรงงานบังคับ แรงงานขัดหนี้ เทคนิคในการตรวจแรงงาน แนวทางการตรวจแรงงานเฉพาะด้าน แผนการตรวจแรงงาน ขั้นตอนในการตรวจแรงงาน การสอบข้อเท็จจริง การเก็บเอกสารพยานหลักฐานต่าง ๆ พระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงาน พ.ศ. 2541 และกฎหมายอื่นเพิ่มเติมที่เกี่ยวข้อง

วันจันทร์ที่ 25 พฤศจิกายน พ.ศ. 2562

จ.นครพนม ประกอบพิธีมอบเงินพระราชทานขวัญถุงกองทุนแม่ของแผ่นดิน ประจำปี 2562

วันที่ 25  พฤศจิกายน 2562 ที่บริเวณศาลาประชาคมยงใจยุทธ ศาลากลางจังหวัดนครพนม นายสยาม ศิริมงคล ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม เป็นประธานงานมหกรรมกองทุนแม่ของแผ่นดิน และประกอบพิธีมอบเงินพระราชทานขวัญถุงกองทุนแม่ของแผ่นดินประจำปี 2562 แก่หมู่บ้าน/ชุมชน ที่มีความเข้มแข็ง สามัคคีและได้ร่วมป้องกันยาเสพติดให้หมดไปจากชุมชนของตนเอง จำนวน 15 กองทุน พิธีมอบพระฉายาสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง แก่คณะกรรมการกองทุนแม่ของแผ่นดิน ประจำปี 2562 จำนวน 15 กองทุน และประกอบพิธีทอดผ้าป่ากองทุนแม่ของแผ่นดิน จำนวน 70,147 บาท เพื่อเป็นการระดมทุนต่อยอดเงินกองทุนแม่ของแผ่นดินของหมู่บ้าน/ชุมชน และเยี่ยมชมนิทรรศการผลงานกองทุนแม่ของแผ่นดินจังหวัดนครพนม และชมรมทูบีนัมเบอร์วัน

โดยกองทุนแม่ของแผ่นดิน มีจุดเริ่มต้นจากการที่สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ทรงเสด็จเยี่ยมราษฎรในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เมื่อวันที่ 25 พฤศจิกายน 2546 และได้พระราชทานพระราชทรัพย์ส่วนพระองค์ผ่านเลขาธิการ ป.ป.ส. โดยมีพระราชประสงค์ให้นำไปใช้สนับสนุนกิจกรรมของราษฎรที่ร่วมกันป้องกันยาเสพติดในหมู่บ้าน/ชุมชนของตนเอง และสำนักงาน ป.ป.ส. ได้นำพระราชทรัพย์ดังกล่าวมาสมทบกับงบประมาณของสำนักงานจัดตั้งเป็นกองทุนแม่ของแผ่นดิน ประกอบพิธีพระราชทานเงินกองทุนแม่ของแผ่นดิน ครั้งแรกในปี 2547 เป็นเงินประเดิมเริ่มต้นกองทุนละ 8,000 บาท และได้มีการดำเนินการมาอย่างต่อเนื่องจนถึงปัจจุบัน ซึ่งในปี 2562 ได้รับพระกรุณาธิคุณจากสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา นเรนทิราเทพยวดี กรมหลวงราชสาริณีสิริพัชร มหาวัชรราชธิดา เป็นประธานในการพระราชทานเงินพระราชทานขวัญถุงกองทุนแม่ของแผ่นดิน ประจำปี 2562 ในวันที่ 13 สิงหาคม 2562 ณ ศูนย์แสดงและจำหน่ายสินค้า อิมแพ็ค เมืองทองธานี และในโอกาสดังกล่าวนายสยาม ศิริมงคล ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม ได้เป็นผู้แทนหมู่บ้าน/ชุมชนกองทุนแม่ของแผ่นดินจังหวัดนครพนม เข้ารับประทานเงินพระราชทานขวัญถุงกองทุนแม่ของแผ่นดิน ประจำปี 2562 จำนวน 15 กองทุน

 และในวันนี้จังหวัดนครพนม โดยสำนักงานพัฒนาชุมชนจังหวัดนครพนม และคณะกรรมการเครือข่ายกองทุนแม่ของแผ่นดินจังหวัดนครพนม จึงได้จัดงานมหกรรมกองทุนแม่ของแผ่นดินและพิธีมอบเงินพระราชทานขวัญถุงกองทุนแม่ของแผ่นดินประจำปี 2562 ขึ้น เพื่อแสดงออกถึงความจงรักภักดีและซาบซึ้งในพระมหากรุณาธิคุณที่พระองค์ทรงห่วงใยในปัญหายาเสพติดของประชาชน ทั้งเป็นการกระตุ้นให้แกนนำหมู่บ้าน/ชุมชนกองทุนแม่ของแผ่นดิน เกิดความภาคภูมิใจ เกิดอุดมการณ์อันหนักแน่น ในการขับเคลื่อนกองทุนแม่ของแผ่นดินเพื่อสนองพระราชปณิธานแม่ของแผ่นดิน

วันศุกร์ที่ 22 พฤศจิกายน พ.ศ. 2562

จ.นครพนม บูรณาการหน่วยงานลงพื้นที่ให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยทางสังคมบ้านนาเขท่า


วันที่ 22 พฤศจิกายน 2562 ที่บ้านเลขที่ 49 บ้านนาเขท่า หมู่ที่ 3 ตำบลนาเข อำเภอบ้านแพง จังหวัดนครพนม นายสยาม ศิริมงคล ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม นำคณะหัวหน้าส่วนราชการ เหล่ากาชาดจังหวัดนครพนม เจ้าหน้าที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ตลอดจนผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ผู้นำชุมชนและภาคเอกชนลงพื้นที่ให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยทางสังคม ตามโครงการนครพนมอุดมสุข ไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง ซึ่งเป็นโครงการที่จังหวัดนครพนมบูรณาการหน่วยงานต่าง ๆ เพื่อร่วมกันตรวจสอบ พิจารณา ให้ความช่วยเหลือผู้ประสบปัญหาทางสังคมของจังหวัดนครพนม ให้มีขวัญกำลังใจในการดำเนินชีวิตและสามารถอยู่ในสังคมได้อย่างมีความสุข

สำหรับการช่วยเหลือในครั้งนี้เป็นการช่วยเหลือนายถวิล ภาโสม อายุ 50 ปี ซึ่งอาศัยอยู่กับเด็กหญิงจารุนิภา ภาโสม อายุ 9 ปี บุตรสาว โดยทั้งคู่เป็นผู้ประสบภัยทางสังคมที่ประชาชนในพื้นที่มีความเห็นตรงกันว่าควรได้รับความช่วยเหลือเนื่องจากมีฐานะยากจน อาศัยที่ดินของญาติสร้างเป็นบ้านพักอาศัย มีรายได้ไม่แน่นอนเพราะประกอบอาชีพรับจ้างทั่วไป เนื่องจากขาดทุนทรัพย์ในการสร้างอาชีพ ทำให้ชีวิตมีความไม่มั่นคง มีเครื่องอุปโภคบริโภคไม่เพียงพอต่อการดำรงชีวิต  ดังนั้นหน่วยงานต่าง ๆ จึงได้มีการบูรณาการให้ความช่วยเหลือเบื้องต้น ด้วยการกั้นห้องนอนแยกระหว่างพ่อกับลูกให้เป็นสัดส่วน ซ่อมแซมและปรับปรุงหลังคาและฝาผนังให้ใหม่ มอบเงินช่วยเหลือผู้ประสบภัยทางสังคมของกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ จำนวน 3,000 บาท มอบเครื่องอุปโภคบริโภคในการดำรงชีวิต มอบเมล็ดพันธุ์พืชผักสวนครัวเพื่อใช้ในการเพาะปลูกเป็นอาหาร มอบเครื่องตัดหญ้าเพื่อใช้ในการรับจ้างตัดหญ้าในหมู่บ้าน นอกจากนี้ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนมยังได้มอบหมายให้ทางองค์การบริหารส่วนตำบลนาเขประสานบ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดนครพนมเพื่อขอทุนการศึกษาให้กับบุตรสาวไว้ใช้ในการเรียนในอนาคต รวมถึงให้มีการประสานกับทางสถานีตำรวจภูธรบ้านแพงในการขอสนับสนุนงบประมาณเพิ่มเติมในการปรับปรุงบ้านส่วนอื่น ๆ ตามโครงการออมวันละบาทเพื่อมาเป็นค่าใช้จ่ายในการซื้ออุปกรณ์เครื่องมือต่าง ๆ ส่วนแรงงานที่จะเข้ามาปรับปรุงบ้านได้ขอแรงจากประชาชนจิตอาสาและแรงงานจากโครงการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนด้านอาชีพของหน่วยงานในสังกัดกระทรวงแรงงานจังหวัดนครพนม

วันพฤหัสบดีที่ 21 พฤศจิกายน พ.ศ. 2562

รองผู้ว่านครพนม นำทีมลงพื้นที่ตรวจข้อเท็จจริงการดำเนินงานแก้ปัญหาภัยแล้ง หลังชาวบ้านร้องให้ตรวจสอบโครงการ


วันที่ 21 พฤศจิกายน 2562 ที่จังหวัดนครพนม นายสยาม ศิริมงคล ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม มอบหมายให้นายรังสรรค์ คัมภิรานนท์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม พร้อมด้วย ผู้อำนวยการกลุ่มงานศูนย์ดำรงธรรม ประชาสัมพันธ์จังหวัดนครพนม นายอำเภอเรณูนคร ผู้นำชุมชน และสื่อมวลชน ลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริงเบื้องต้น หลังมีชาวบ้านร้องเรียนการดำเนินโครงการแก้ไขและบรรเทาปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนในพื้นที่อันเนื่องมาจากปัญหาภัยแล้งและอุทกภัยในตำบลหนองย่างชิ้น อำเภอเรณูนคร จำนวน 2 โครงการ คือ โครงการขุดลอกหนองผักไหม บ้านหัวขัวใต้ หมู่ 1 และโครงการขุดลอกหนองท่ม บ้านนาคอย หมู่ที่ 5 โดยมีช่างผู้ควบคุมงานตัวแทนบริษัทรับเหมาคอยชี้แจง และตัวแทนประชาชนในพื้นที่ร่วมรับฟัง

นายรังสรรค์ คัมภิรานนท์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม เปิดเผยว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทางผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนมและทางจังหวัดไม่ได้นิ่งนอนใจ ได้มีการตั้งคณะกรรมการส่วนต่าง ๆ ขึ้นมาดำเนินการลงพื้นที่ตรวจสอบรายละเอียดโครงการทั้งหมดอีกครั้ง เพื่อให้เป็นไปด้วยความถูกต้อง โปร่งใส เกิดความคุ้มค่าและเกิดประโยชน์สูงสุดต่อพี่น้องประชาชน โดยคณะกรรมการจะเข้าไปดูตั้งแต่ ก่อนทำ ระหว่างทำและหลังดำเนินการแล้วเสร็จทุกโครงการ นอกจากนี้ผู้ว่าราชการยังได้สั่งการให้นายอำเภอทุกคน ลงพื้นที่ดูความคืบหน้าการดำเนินโครงการด้วยตนเองและให้รายงานกลับพร้อมรูปถ่ายอย่างต่อเนื่องเป็นระยะ ๆ เพราะเกรงว่าจะเกิดการไม่เข้าใจผิดของประชาชนเกี่ยวกับขั้นตอนการดำเนินงานต่าง ๆ หรืออาจจะมีความไม่ชอบมาพากลต่าง ๆ เกิดขึ้น ในส่วนของการร้องเรียนเข้ามานั้นก็ต้องขอบคุณชาวบ้านในพื้นที่ ที่คอยเป็นหูเป็นตาช่วยทางราชการอีกแรง มีการสะท้อนภาพการทำงานเข้ามาด้วยความเป็นห่วง เพื่อให้งานที่ได้ออกมาดีที่สุด เป็นไปตามวัตถุประสงค์ของโครงการและเจตนารมณ์ของรัฐบาลที่ต้องการแก้ไขและบรรเทาปัญหาความเดือดร้อนของประชาชน เกี่ยวกับภัยแล้งและน้ำท่วม ซึ่งทางจังหวัดยินดีและพร้อมออกมาตรวจสอบให้เสมอและทุกโครงการ  

สำหรับผลการตรวจสอบข้อเท็จจริง เบื้องต้นทั้ง 2 โครงการเป็นการขุดลอกหนอง ซึ่งช่างผู้ควบคุมงานที่เป็นตัวแทนบริษัทรับเหมาได้ชี้แจงว่าการดำเนินงานขณะนี้สามารถทำได้เพียง 15% เท่านั้น เนื่องจากต้องรอการเก็บเกี่ยวผลผลิตข้าวของประชาชนในพื้นที่ก่อน จากนั้นจึงจะสูบน้ำออกจากหนองและขุดลอกได้ ที่เห็นเป็นเพียงการปรับพื้นที่เพื่อให้เครื่องจักรสามารถเข้าทำงานได้โดยสะดวกเท่านั้น ยังไม่มีการส่งมอบงานแต่อย่างใด โดยทั้ง 2 โครงการจะสิ้นสุดสัญญาจ้างในวันที่ 17 มกราคม 2563 ในส่วนเอกสารการจ้างนั้นก็เป็นไปตามระเบียบกระทรวงการคลัง คืองบประมาณต่ำกว่า 500,000 บาท สามารถใช้วิธีการจ้างแบบเฉพาะเจาะจงได้ มีนายอำเภอเป็นผู้เซ็นต์เอกสารจัดจ้าง โดยพิจารณาจากคุณสมบัติผู้รับเหมามีศักยภาพสามารถดำเนินงานได้ และไม่มีประวัติการทิ้งงาน ซึ่งเข้าใจว่านายอำเภอมีการคัดเลือกผู้รับจ้างที่ดีที่สุดแล้ว ขั้นตอนต่าง ๆ มีการผ่านการประชาคมของหมู่บ้าน มีการเสนอคณะกรรมการเพื่อคัดกรองในระดับอำเภอและระดับจังหวัด ก่อนที่จะมีการพิจารณาอนุมัติและสั่งจ้าง

จิตอาสาพระราชทาน 904 วปร. นครพนม ร่วมบำเพ็ญประโยชน์ทำความสะอาด ออกหน่วยแพทย์พระราชทานเคลื่อนที่และอบรมขยายผลสู่ผู้ต้องขัง


วันที่ 21 พฤศจิกายน 2562 ที่เรือนจำกลางจังหวัดนครพนม อำเภอเมืองนครพนม จังหวัดนครพนม นางวิไลวรรณ ไกรโสดา รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม เป็นประธานนำคณะจิตอาสาพระราชทาน 904 วปร. ซึ่งประกอบไปด้วย หัวหน้าส่วนราชการ ศาล ทหาร ตำรวจ ข้าราชการพลเรือน นักเรียน นักศึกษา และประชาชน ร่วมกันบำเพ็ญสาธารณประโยชน์ ด้วยการร่วมกันทำความสะอาดสถานที่เยี่ยมญาติภายในเรือนจำกลางจังหวัดนครพนม ตัดตกแต่งต้นไม้ กิ่งไม้  ปรับปรุงภูมิทัศน์และทำความสะอาดบริเวณรอบนอกเรือนจำกลางนครพนม

 จากนั้นได้นำหน่วยแพทย์พระราชทานเคลื่อนที่เข้าให้บริการแก่ผู้ต้องขังภายในเรือนจำทั้งการตรวจสุขภาพเบื้องต้น การให้คำปรึกษาด้านสุขภาพ การทำทันตกรรม และเปิดอบรมขยายผลแก่ผู้ต้องขัง จำนวน 500 ราย ในหัวข้อสถาบันพระมหากษัตริย์กับประเทศไทย เพื่อปลูกฝังให้ผู้ต้องขังในเรือนจำได้สำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระวชิระเกล้าเจ้าอยู่หัว ที่พระองค์ทรงเล็งเห็นถึงสวัสดิภาพของผู้ต้องขังในเรือนจำและญาติ ที่ควรได้รับการดูแลในเรื่องสภาพแวดล้อมภายในและภายนอกเรือนจำ การพยาบาลรักษาสุขภาพของผู้ต้องขังแม้จะได้รับโทษทางอาญาที่ได้กระทำแล้ว สมควรได้รับการช่วยเหลือและปฏิบัติด้วยความเห็นอกเห็นใจ พร้อมทั้งเป็นการปลูกจิตสำนึกในการรักสถาบันหลักของชาติ ได้แก่ ชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์
โดยหลังจากนี้ทางเรือนจำกลางจังหวัดนครพนมจะมีการจัดกิจกรรม big cleaning ในทุกวันที่ 3 ของเดือน และทางกรมราชทัณฑ์ ก็ได้มีโครงการราชทัณฑ์ปันสุข ทำความ ดี ด้วยหัวใจ ซึ่งเป็นโครงการที่พระบาทสมเด็จพระวชิระเกล้าเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าสุทิดา พัชรสุธาพิมลลักษณ พระบรมราชินี ทรงเป็นองค์ประธานที่ปรึกษาโครงการ มีสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา นเรนทิราเทพยวดี กรมหลวงราชสาริณีสิริพัชร มหาวัชรราชธิดา เป็นองค์ประธานกรรมการ และมีทุกภาคส่วนราชการเข้ามาร่วมกันดูแลสุขภาพให้แก่ผู้ต้องขัง ซึ่งส่วนหนึ่งจะไม่เกี่ยวกับพระราชบัญญัติกรมราชทัณฑ์ เพื่อให้ผู้ป่วยเข้าถึงการรักษาพยาบาลอย่างเท่าเทียมตามหลักมนุษยธรรม เมื่อพ้นโทษไปแล้วจะได้มีสุขภาพสมบูรณ์ทั้งกายและจิตใจ สามารถประกอบอาชีพสุจริตได้อย่างมีคุณภาพ

วันพุธที่ 20 พฤศจิกายน พ.ศ. 2562

จังหวัดนครพนม นำหน่วยเคลื่อนที่ออกให้บริการประชาชนอำเภอบ้านแพง


วันที่ 20 พฤศจิกายน 2562 ที่โรงเรียนบ้านนาเข ตำบลนาเข อำเภอบ้านแพง จังหวัดนครพนม นายสยาม ศิริมงคล ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม พร้อมด้วยคณะหัวหน้าส่วนราชการ เหล่ากาชาดจังหวัดนครพนม และเจ้าหน้าที่หน่วยงานต่าง ๆ นำโครงการจังหวัดเคลื่อนที่แบบบูรณาการ หน่วยบำบัดทุกข์บำรุงสุข สร้างรอยยิ้มให้ประชาชน และหน่วยแพทย์เคลื่อนที่ พอ.สว. จังหวัดนครพนม ออกให้บริการประชาชนแบบครบวงจรในจุดเดียว เพิ่มการเข้าถึงหน่วยงานราชการทุกภาคส่วน



โดยกิจกรรมในครั้งนี้ประกอบไปด้วย การร่วมกันกล่าวถวายสัตย์ปฏิญาณตนแสดงเจตนารมณ์ปกป้องสถาบันสำคัญของชาติ และการประกาศเจตนารมณ์รวมพลังแผ่นดินเอาชนะยาเสพติด จากนั้นเป็นการแนะนำส่วนราชการต่าง ๆ ให้กับประชาชนได้รู้จักเพื่อให้ประชาชนสามารถเข้ารับบริการได้อย่างถูกต้องตามความต้องการ โดยในโอกาสนี้ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม ยังได้นำเอานโยบายของรัฐบาลและแนวทางในการดำเนินการให้ความช่วยเหลือในด้านต่าง ๆ ไปชี้แจงให้ประชาชนได้รับรู้รับทราบ ตอบข้อซักถามที่ประชาชนสงสัยรวมถึงรวบรวมข้อมูลปัญหาต่าง ๆ ที่ไม่สามารถแก้ไขได้จากการออกหน่วยเคลื่อนที่ในครั้งนี้ กลับมาประชุมหารือกับส่วนราชการที่เกี่ยวข้องเพื่อเร่งหาทางให้ความช่วยเหลือต่อไป จากนั้นได้มอบพันธุ์ปลาแก่ผู้นำชุมชนเพื่อนำไปปล่อยตามแหล่งน้ำของชุมชน จำนวน 50,000 ตัว มอบทุนการศึกษาของกองทุนพัฒนาเด็กชนบทในพระราชูปถัมภ์สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี จำนวน 7 ทุน มอนเงินสงเคราะห์ผู้ยากไร้ จำนวน 10 ราย และมอบถุงยังชีพเหล่ากาชาดจังหวัดนครพนม จำนวน 60 ชุด ก่อนที่ทุกคนจะไปใช้บริการหน่วยเคลื่อนที่ต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น การให้บริการของหน่วยแพทย์เคลื่อนที่ พอ.สว. จังหวัดนครพนม ที่ได้นำเอาเครื่องมือ อุปกรณ์ ตลอดจนทีมแพทย์มาให้บริการตรวจสุขภาพเบื้องต้น การให้คำปรึกษาปัญหาสุขภาพและการทำทันตกรรม การนวดแผนไทย การถ่ายทอดองค์ความรู้ของหน่วยราชการต่าง ๆ ทั้งด้านการเกษตร ประมง ปศุสัตว์ ที่ดิน เทคโนโลยีสมัยใหม่ การทำบัญชีรายรับ-รายจ่าย การเลือกใช้พลังงาน การป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย การให้คำปรึกษาคำแนะนำด้านการลงทุน กฎหมาย การสร้างบ้าน การทำบัตรประชาชน การฝากเงินออม การทำประกันสังคม การทำประกันภัย การสมัครเข้าร่วมโครงการชิมช๊อปใช้ เฟส 3  การรับเรื่องราวร้องทุกข์ร้องเรียน การแจกพันธุ์ต้นไม้ การขึ้นทะเบียนและทำหมันสัตว์ การให้บริการซ่อมรถจักรยานยนต์และเครื่องใช้ไฟฟ้า การออกร้านจำหน่ายสินค้าราคาถูก สินค้าทางการเกษตร และสินค้า OTOP รวมถึงการถ่ายทอดวิชาชีพ เพื่อให้ประชาชนได้เรียนรู้และนำไปสร้างเป็นอาชีพและรายได้เลี้ยงครอบครัวต่อไป

วันอังคารที่ 19 พฤศจิกายน พ.ศ. 2562

ตัวแทนเยาวชนจาก 20 จังหวัดภาคอีสาน ร่วมชิงชัย 40 ชนิดกีฬาในมรุกขนครเกมส์ เพื่อคว้าตั๋วแข่งกีฬาเยาวชนครั้งที่ 36


วันที่ 19 พฤศจิกายน 2562 ที่สนามกีฬากลางจังหวัดนครพนม อำเภอเมือง จังหวัดนครพนม ซึ่งเป็นสถานที่จัดการแข่งขันกีฬาเยาวชนแห่งชาติ ครั้งที่ 36 รอบคัดเลือกตัวแทนภาค 3 "มรุกขนครเกมส์" บรรยากาศเป็นไปด้วยความคึกคักของคณะตัวแทนนักกีฬาและคณะเจ้าหน้าที่ จากจังหวัดต่าง ๆ ทั่วภาคตะวันออกเฉียงเหนือ รวม 20 จังหวัด ประกอบไปด้วย จังหวัดกาฬสินธุ์, ขอนแก่น, ชัยภูมิ, นครราชสีมา, บึงกาฬ, บุรีรัมย์, มหาสารคาม, มุกดาหาร, ร้อยเอ็ด, เลย, ศรีสะเกษ, สกลนคร, สุรินทร์, หนองคาย, หนองบัวลำภู, อุดรธานี, อุบลราชธานี, อำนาจเจริญ และจังหวัดนครพนม ที่เดินทางมาเข้าร่วมการแข่งขัน โดยทุกคนต่างมุ่งมั่นกับการแข่งขันเพื่อที่จะเป็นตัวแทนภาค 3 เข้าร่วมการแข่งขันกีฬาเยาวชนแห่งชาติ ครั้งที่ 36 ช้างขาวเกมส์ ที่จะมีขึ้นในวันที่ 19 - 29 มีนาคม 2563

โดยในเวลา 15.00 น. นายสยาม ศิริมงคล ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม ได้เดินทางมาเป็นประธานเปิดการแข่งขัน สำหรับการแข่งขันมรุกขนครเกมส์ในครั้งนี้เกิดขึ้นจากที่รัฐบาลได้เล็งเห็นถึงความสำคัญของเยาวชน ซึ่งเป็นทรัพยากรมนุษย์และเป็นกำลังสำคัญในการพัฒนาประเทศชาติ โดยได้มีมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 25 กันยายน 2527 อนุมัติให้มีการแข่งขันกีฬาเยาวชนแห่งชาติเป็นประจำทุกปี เพื่อส่งเสริมการกีฬาของชาติให้ขยายไปทั่วประเทศ ทั้งเป็นการปลูกฝังให้เยาวชนมีน้ำใจเป็นนักกีฬา มีระเบียบวินัย มีสุขภาพพลานามัยที่สมบูรณ์ และเป็นการสร้างนักกีฬาทีมชาติเพื่อเป็นตัวแทนของประเทศเข้าแข่งขันกีฬาต่าง ๆ ต่อไปในอนาคต ดังนั้นการกีฬาแห่งประเทศไทยและจังหวัดในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จึงได้มอบหมายให้จังหวัดนครพนมเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันมรุกขนครเกมส์ขึ้น ระหว่างวันที่ 19 – 29 พฤศจิกายน 2562 ภายใต้สัญลักษณ์การแข่งขัน ม้าพลาหก เพื่อเฟ้นหาตัวแทนภาค 3 เข้าร่วมการแข่งขันกีฬาเยาวชนแห่งชาติ ครั้งที่ 36 ประกอบไปด้วย 40 ชนิดกีฬา เช่น วอลเล่ย์บอล ว่ายน้ำ กาบัดดี้ เครื่องบินเล็ก คาราเต้ - โด คริกเก็ต จักรยานประเภทต่าง ๆ ชักกะเย่อ ซอฟท์บอล ซอฟท์เทนนิส ตะกร้อ เทควันโด เทนนิส เทเบิลเทนนิส เนตบอล บริดจ์ บาสเกตบอล แบดมินตัน เปตอง ปันจักสีลัต เพาะกาย ฟุตบอล มวยปล้ำ มวยสากลสมัครเล่น ยกน้ำหนัก ยูโด ยูยิตสู รักบี้ฟุตบอล ลีลาศ เรือพาย วอลเลย์บอล ฟุตบอล สนุกเกอร์ แฮนด์บอล หมากล้อมและอื่น ๆ  ทั้งนี้ในส่วนของสนามกีฬาจังหวัดนครพนมนั้น จะมีการแข่งขันกีฬาทั้งสิ้น 33 ชนิดกีฬา ในส่วนที่เหลือจะกระจายไปแข่งขันในจังหวัดอื่น ๆ โดยมีตัวแทนนักกีฬาและเจ้าหน้าที่เข้าร่วมการแข่งขันในครั้งนี้ทั้งสิ้น 10,132 คน

วันเสาร์ที่ 16 พฤศจิกายน พ.ศ. 2562

ผบ.ทร.ท้าทดสอบความแข็งแกร่ง กับการแข่งขันไตรกีฬานาวีเฉลิมพระเกียรติ ซีซั่น 2 ประเดิมสนามแรกที่นครพนม


วันที่ 16 พฤศจิกายน 2562 ที่บริเวณลานพญาศรีสัตตนาคราช อำเภอเมืองนครพนม จังหวัดนครพนม พลเรือเอก ลือชัย รุดดิษฐ์ ผู้บัญชาการทหารเรือ พร้อมด้วย พลเรือเอก ชาติชาย ศรีวรขาน ผู้ช่วยผู้บัญชาการทหารเรือ ประธานกรรมการจัดหารายได้ พลเรือเอก วศินสรรพ์ จันทวรินทร์ ประธานกรรมการบริหารสวัสดิการกีฬากองทัพเรือ ประธานกรรมการอำนวยการแข่งขันไตรกีฬานาวีเฉลิมพระเกียรติ พลเรือตรี สมพลษ์ ศรอากาศ ผู้บัญชาการหน่วยเรือรักษาความสงบเรียบร้อยตามลำแม่น้ำโขง นายสยาม ศิริมงคล ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม นายนิวัต เจียวิริยบุญญา นายกเทศมนตรีเมืองนครพนม พลเรือเอก ชุมศักดิ์ นาควิจิตร ผู้บัญชาการกองทัพเรือยุทธการ พลเรือโท รณรงค์ สิทธินันทน์ ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน พลเรือตรี อุทัย ชีวะสุทธิ ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการต่อสู้อากาศยานและรักษาฝั่ง และผู้สนับสนุนการแข่งขัน ร่วมแถลงข่าวการแข่งขันไตรกีฬานาวีเฉลิมพระเกียรติ ซีซั่น 2  “มรรควิถีคนกล้า ด้วยรักและศรัทธา ล่องธาราสู่มหาชลธี เดอะซีรีย์”ที่กองทัพเรือจะจัดการแข่งขันพร้อมเปิดตัวสนามแข่งขัน 4 สนาม

พลเรือเอก ลือชัย รุดดิษฐ์ ผู้บัญชาการทหารเรือ เปิดเผยว่า จากความสำเร็จในการแข่งขันไตรกีฬานาวีเฉลิมพระเกียรติ เดอะซีรีย์ จากผืนทะเลสู่ภูผา จากฟากฟ้าสู่มหานที ครั้งที่ผ่านมา ได้กลายเป็นประวัติศาสตร์หน้าใหม่ของวงการไตรกีฬาประเทศไทยและระดับโลก ด้วยการแข่งขันไตรกีฬา 5 สนามภายในระยะเวลา 1 ปี ซึ่งได้รับความสนใจอย่างมากจากนักไตรกีฬาชาวไทยและชาวต่างชาติกว่า 10,000 คนจาก 15 ประเทศทั่วโลก กับการแข่งขันที่ยิ่งใหญ่ ท้าทาย และเส้นทางการแข่งขันที่มีทัศนียภาพสวยงามทุกสนาม สะท้อนให้เห็นถึงเอกลักษณ์อันโดดเด่นของแต่ละพื้นที่ได้เป็นอย่างดี มีมาตรฐานการจัดการแข่งขันทุกอย่างเป็นระบบ ใช้หลักกติกาสากล ที่คำนึงถึงความปลอดภัยเป็นสำคัญ สร้างความประทับใจให้กับผู้แข่งขันเป็นอย่างมาก ทั้งเป็นการช่วยส่งเสริมการท่องเที่ยวภายในประเทศ เกิดการกระตุ้นเศรษฐกิจในพื้นที่วงเงินกว่า 250 ล้านบาท 

โดยในปีนี้กองทัพเรือเตรียมจัดการแข่งขันอีกครั้งแบ่งออกเป็น 4 สนาม ที่มีความโดเด่นแตกต่างกัน โดยเริ่มสนามแรกที่แม่น้ำโขงจังหวัดนครพนมกับรายการ “ถิ่นน้ำสองสี เหล่าราชนาวีเทิดจักรีวงศ์” ซึ่งจะมีการแข่งขันในวันเสาร์ที่ 14 ธันวาคม 2562  ส่วนสนามที่ 2 จะจัดที่ชะวากทะเล จังหวัดระนอง กับรายการ “อาทิตย์อัสดงริมแผ่นดินทอง เหล่าประชาและนาวีแซ่ซ้องพระเกียรติคุณ” สนามที่ 3 จัดที่หาดทรายรี จังหวัดชุมพรกับรายการ “พระมหากรุณาธิคุณดุจบิดามารดร เหล่านาวีถวายพระพรชัย และปิดท้ายที่หาดเตยงาม จังหวัดชลบุรี กับรายการ “ทหารเรือไทย เทิดไท้องค์มหาราชามหาราชินีชั่วนิรันด์ จึงขอท้าทายและเชิญทุกท่านมาประลองความแข็งแกร่งกับการแข่งขันไตรกีฬาในครั้งนี้ ซึ่งผู้ที่สนใจสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมและสมัครเข้าร่วมการแข่งขันได้ทาง เฟสบุ๊คแฟนเพจ ไตรกีฬานาวีเฉลิมพระเกียรติ

วันศุกร์ที่ 15 พฤศจิกายน พ.ศ. 2562

ผู้ว่าฯ นครพนม นำส่วนราชการและภาคเอกชนลงแขกเกี่ยวข้าวนาแปลงใหญ่ สืบสานประเพณีลดต้นทุนการผลิตช่วยเกษตรกรที่ อ.เรณูนคร


วันที่ 15 พฤศจิกายน 2562 ที่บริเวณนาแปลงใหญ่ หมู่ที่ 7 บ้านหนองแต้ ตำบลนาขาม อำเภอเรณูนคร จังหวัดนครพนม นายสยาม ศิริมงคล ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม เป็นประธานนำคณะหัวหน้าส่วนราชการ เจ้าหน้าที่ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ผู้นำชุมชนและประชาชนในพื้นที่ ร่วมกันลงแขกเกี่ยวข้าวช่วยเกษตรกรนาแปลงใหญ่ สร้างต้นแบบลดต้นทุนการผลิตและสืบสานประเพณีชาวนาไทย ในการแสดงให้เห็นถึงความมีน้ำใจ การช่วยเหลือซึ่งกันและกัน ทั้งยังสร้างความสมัครสมานสามัคคีในหมู่บ้านชุมชน ที่นับวันจะหาดูได้ยากในสภาพปัจจุบัน และเป็นการส่งเสริม สนับสนุนและให้กำลังใจแก่เกษตรกรในพื้นที่จังหวัดนครพนมเกิดการรวมกลุ่มกันผลิตและจำหน่ายสินค้าเกษตรที่มีคุณภาพ ได้มาตรฐาน ภายใต้แผนงานที่เป็นระบบโดยมีหน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชนคอยส่งเสริมสนับสนุน

โดยตั้งแต่ปี  2559 จังหวัดนครพนมได้มีการขับเคลื่อนการส่งเสริมการเกษตรแบบแปลงใหญ่มาอย่างต่อเนื่อง จนทำให้ปัจจุบันมีเกษตรกร 5,059 ราย รวมกลุ่มเป็นเกษตรแปลงใหญ่ จำนวน 65 แปลง มีชนิดสินค้าเกษตร จำนวน 13 ชนิด บนเนื้อที่รวมกว่า 52,825 ไร่ ซึ่งในพื้นที่ตำบลนาขาม อำเภอเรณูนคร มีเกษตรกรที่รวมกลุ่มกันในรูปแบบเกษตรแปลงใหญ่ผลิตสินค้าเกษตรอยู่ 2 ชนิด ในแปลงเดียวกัน คือ เมื่อถึงช่วงฤดูฝนเกษตรกรจะร่วมกันทำการเพาะปลูกข้าวแบบอินทรีย์ และเมื่อเก็บเกี่ยวผลผลิตข้าวเสร็จ ก็จะร่วมกันเตรียมพื้นที่สำหรับการเลี้ยงลูกอ๊อดเพื่อจำหน่ายแทน และที่ผ่านมาเกษตรกรมีการพัฒนาและปรับตัวอย่างต่อเนื่อง มีการนำเอาองค์ความรู้ใหม่ที่ได้รับจากหน่วยงานต่าง ๆ มาปรับปรุงพัฒนาสินค้าของกลุ่มทั้ง 2 ชนิดจนประสบผลสำเร็จ ได้รับการรับรองมาตรฐาน GAP และมาตรฐานอินทรีย์ ทำให้มีตลาดรองรับที่แน่นอน และกลุ่มเกษตรกรมีรายได้มีอาชีพที่มั่นคงตลอดทั้งปี

สำหรับกิจกรรมในครั้งนี้นอกจากจะมีการลงแขกเกี่ยวข้าวแล้ว หน่วยงานในสังกัดสำนักงานเกษตรจังหวัดนครพนมและภาคีเครือข่ายยังได้มีการนำเอาเครื่องมือ อุปกรณ์ต่าง ๆ ลงพื้นที่สาธิตการใช้รถเกี่ยวนวดข้าว เพื่อให้เกษตรกรได้เห็นและนำเอาเทคโนโลยี นวัตกรรมสมัยเข้ามาใช้ในการเก็บเกี่ยวเป็นการเพิ่มผลผลิตให้มีคุณภาพมากยิ่งขึ้น การสาธิตวิธีการสุ่มเก็บเกี่ยวผลผลิตข้าว 10 รวงในพื้นที่ 4x4 เมตร เพื่อนำมาคำนวณหาค่าเฉลี่ยปริมาณผลผลิตทั้งหมดของแปลงนา การสาธิตการไถกลบตอซังข้าวเพื่อปรับปรุงบำรุงดิน เพิ่มผลผลิตข้าวในปีถัดไป ทั้งยังช่วยลดมลภาวะโลกร้อนและภาวะฝุ่นละอองในอากาศ PM 2.5 รวมถึงการจัดนิทรรศการถ่ายทอดความรู้เกี่ยวกับการเกษตรในด้านต่าง ๆ เพื่อให้ผู้ที่มาร่วมงานได้เรียนรู้อีกด้วย

จ.นครพนม เตรียมใช้แอป Gprov สร้างความโปร่งใสในการบริหารจัดการงบประมาณโครงการ


วันที่ 15 พฤศจิกายน 2562 ที่จังหวัดนครพนม นางวิไลวรรณ ไกรโสดา รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม เปิดเผยว่า จากที่จังหวัดนครพนมได้มีการประชุมหารือร่วมกับสำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิศาสตร์สนเทศ (องค์การมหาชน) ในการจัดทำข้อมูลภูมิสารสนเทศของจังหวัดนครพนมเพื่อเผยแพร่ข้อมูลข่าวสารในการดำเนินโครงการ งบประมาณต่าง ๆ ของจังหวัดให้ประชาชนรับรู้และสามารถเข้ามาตรวจสอบได้ เป็นการสร้างความโปร่งใสในระบบการปฏิบัติงานของหน่วยงานราชการในจังหวัด จึงกลายเป็นที่มาของแอปพลิเคชั่น ที่ชื่อว่า Gprov ซึ่งประชาชนทั่วไปจะสามารถเข้ามาดูและใช้งานได้ทางเว็บไซต์และแอพพลิเคชั่นบนมือถือ ทั้งระบบ iOs และ  Andoid

โดยภายในแอปพลิเคชั่นจะมีรายละเอียดโครงการต่าง ๆ ที่หน่วยงานได้รับการจัดสรรงบประมาณจากจังหวัดไปดำเนินการทั้งหมด โดยแบ่งเป็นหมวดหมู่เพื่อให้มีความสะดวกสำหรับผู้ใช้งาน ไม่ว่าจะเป็นข้อมูลเกี่ยวกับโครงการ รายการแจ้งเหตุ ข้อมูลแผนที่และอื่นๆ ช่องค้นหาโครงการแบบระบุเงื่อนไข รายชื่อหน่วยงานภายในจังหวัด ตำแหน่งปัจจุบันของผู้ใช้งาน พิกัดภูมิศาสตร์จุดแสดงตำแหน่งที่ตั้งโครงการ และเมื่อเข้าไปในหัวข้อใหญ่แล้วจะมีการแยกย่อยรายละเอียดต่าง ๆ เพิ่มเติมอีก ที่สำคัญคือผู้ใช้งานสามารถแชร์ข้อมูลข่าวสารผ่านทาง แอปพลิเคชั่นอื่นๆ ได้ รวมทั้งสามารถแจ้งเหตุการณ์ต่างๆ ในกรณีที่พบปัญหา ข้อสงสัย หรือต้องการแสดงข้อคิดเห็นเกี่ยวกับโครงการได้พร้อมกับแนบรูปภาพ พิกัด ซึ่งหลังจากผู้ใช้งานทำการแจ้งแล้วเจ้าหน้าที่ดูแลระบบจะดำเนินการตรวจสอบความถูกต้องของการแจ้งเหตุ จากนั้นจะอนุมัติการแจ้งเหตุขึ้นระบบเพื่อให้ผู้ใช้งานได้ติดตามความคืบหน้าหากมีการเคลื่อนไหวใด ๆ ภายในโครงการ ทั้งนี้แอปพลิเคชั่นดังกล่าวกำลังอยู่ระหว่างการพัฒนาเพื่อให้ทุกคนสามารถใช้ได้ และในวันนี้สำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิศาสตร์สนเทศ (องค์การมหาชน) ได้มีการส่งเจ้าหน้าที่มาทำการฝึกอบรมให้กับส่วนราชการต่าง ๆ เพื่อให้เข้าใจระบบการทำงานของ แอปพลิเคชั่น Gprov ก่อนที่จะเปิดให้ประชาชนทั่วไปเข้าใช้งานต่อไปในอนาคต

นครพนม เสริมศักยภาพบุคลากรทางการศึกษาพัฒนาทักษะนักเรียนยากจนที่ไม่ได้เรียนต่อหลังจบภาคบังคับ


วันที่ 15 พฤศจิกายน 2562 ที่ศาลาประชาคมยงใจยุทธ ศาลากลางจังหวัดนครพนม นางวิไลวรรณ ไกรโสดา รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม เป็นประธานเปิดการประชุมชี้แจงผู้อำนวยการโรงเรียนและครูแนะแนวตามโครงการเพิ่มศักยภาพด้านอาชีพแก่นักเรียนครอบครัวยากจนที่ไม่ได้เรียนต่อหลังจบการศึกษาภาคบังคับ ที่สำนักงานพัฒนาฝีมือแรงงานจังหวัดนครพนม ร่วมกับสำนักงานจัดหางานจังหวัดนครพนม สำนักงานศึกษาธิการจังหวัดนครพนม สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดนครพนม สำนักงานสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานจังหวัดนครพนม และหอการค้าจังหวัดนครพนมจัดขึ้น เพื่อเสริมศักยภาพให้บุคคลากรทางการศึกษาในการพัฒนาทักษะและเพิ่มศักยภาพให้นักเรียนมีความสามารถเหมาะสมกับการประกอบอาชีพและสอดคล้องกับความต้องการของตลาดแรงงานในปัจจุบัน ทั้งเป็นการสร้างเครือข่ายการดำเนินงานร่วมกัน และสามารถใช้ข้อมูลข่าวสารด้านอาชีพ เกิดการแลกเปลี่ยนเรียนรู้เชื่อมโยงข้อมูลที่เป็นประโยชน์และทันสมัยร่วมกัน

ซึ่งจากข้อมูลของหน่วยงานที่รับผิดชอบในการจัดการศึกษาภาคบังคับพบว่าในแต่ละปีการศึกษามีนักเรียนที่จบการศึกษาภาคบังคับแล้วไม่ได้เรียนต่อเนื่องจากครอบครัวมีฐานะยากจนและมีความจำเป็นต้องเข้าสู่ตลาดแรงงาน ในฐานะแรงงานไร้ฝีมือ เพื่อหารายได้ช่วยเหลือครอบครัวเป็นจำนวนมาก โดยในปีการศึกษา 2561 ทั่วประเทศมีจำนวนมากถึง 147,644 คน ดังนั้นเพื่อสร้างให้นักเรียนของจังหวัดนครพนมที่จบการศึกษาภาคบังคับแล้วไม่ได้เรียนต่อเนื่องจากครอบครัวมีฐานะยากจนสามารถเข้าสู่ตลาดแรงงานได้อย่างเหมาะสมจังหวัดนครพนมจึงได้มีการบูรณาการของหน่วยงานต่าง ๆ จัดการประชุมชี้แจงดังกล่าวขึ้น ซึ่งผู้ที่ร่วมกิจกรรมในครั้งนี้จะได้ทราบถึงความเป็นมาโครงการเพิ่มทักษะด้านอาชีพแก่นักเรียนครอบครัวยากจนที่ไม่ได้ศึกษาต่อหลังจบการศึกษาภาคบังคับ โครงการเตรียมความพร้อมแก่กำลังแรงงาน ข้อมูลตลาดแรงงานและอาชีพ การวัดบุคลิกภาพเพื่อการศึกษาต่อ ข้อมูลสถานการณ์ตลาดแรงงานเพื่อรองรับเขตพื้นที่เศรษฐกิจพิเศษนครพนม ขั้นตอนการสำรวจ การรวบรวม การสรุปและจำแนกข้อมูลนักเรียนกลุ่มเป้าหมาย วิธีการกรอกแบบสอบถามและแบบสำรวจสรุปผล การให้การสนับสนุนเงินสงเคราะห์ครอบครัวผู้มีรายได้น้อยและไร้ที่พึ่ง เงินสงเคราะห์กองทุนคุ้มครองเด็กเงินทุนเพื่อการประกอบอาชีพหรือเงินสงเคราะห์แก่นักเรียนกลุ่มเป้าหมาย รวมถึงสิทธิประโยชน์ต่างๆ ของลูกจ้างเมื่อเข้าทำงานและกฎหมายแรงงานที่ควรรู้

วันพฤหัสบดีที่ 14 พฤศจิกายน พ.ศ. 2562

นครพนม KICK OFF ให้บริการฉีดวัคซีนป้องกันโรคหัดในกลุ่มเด็ก อายุ 1-12 ปี

วันที่ 14 พฤศจิกายน 2562 ที่ห้องประชุมแสงสิงแก้ว โรงเรียนอนุบาลนครพนม อำเภอเมือง จังหวัดนครพนม นายแพทย์จิณณพิภัทร ชูปัญญา นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดนครพนม มอบหมายนางแสงอุษา ทัศคร นักวิชาการสาธารณสุขชำนาญการพิเศษ รองนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดนครพนม (ด้านส่งเสริมพัฒนา) ร่วมกับ คณะเจ้าหน้าที่จากกลุ่มงานเวชกรรมสังคม โรงพยาบาลนครพนม และศูนย์สุขภาพชุมชน เทศบาลเมืองนครพนม ให้ความรู้และให้บริการฉีดวัคซีนป้องกันโรคหัด/ หัดเยอรมัน แก่เด็กเล็ก อายุ 1-12 ปี ในพื้นที่ตามแผนเร่งรัดการกำจัดโรคหัดของประเทศไทยพร้อมกันทั่วประเทศ

จากสถานการณ์โรคหัดในปัจจุบัน พบว่ามีการระบาดในทุกภูมิภาคของโลก โดยมีรายงานผู้ป่วยทั่วไปสูงถึง 423,963 ราย โดยเฉพาะในปี 2562 พบผู้ป่วยโรคหัดทั่วโลกเพิ่มขึ้นเกือบ 3 เท่า เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว โดยในปี 2562 ประเทศไทยมีรายงานผู้ป่วยสงสัยโรคหัด จำนวน 7,470 ราย มีผลยืนยันทางห้องปฏิบัติการ จำนวน 2,861 ราย ผู้เสียชีวิต 24 ราย ซึ่งเกือบทั้งหมดเป็นเด็กที่ไม่เคยได้รับวัคซีนป้องกันโรคหัดมาก่อน ทั้งนี้ในส่วนของจังหวัดนครพนม มีผู้ป่วยที่ยืนยันทางห้องปฏิบัติการ จำนวน 9 ราย แต่ไม่พบผู้เสียชีวิต ซึ่งที่ผ่านมาหน่วยงานที่รับผิดชอบ ได้ดำเนินการให้บริการวัคซีนแก่เด็ก 1-12 ปี ได้ร้อยละ 51.32 ซึ่งต่ำกว่าเป้าหมายที่กำหนดคือร้อยละ 95  ดังนั้นเพื่อเป็นการเร่งรัดการกำจัดโรคหัดและเพิ่มภูมิคุ้มกันในกลุ่มเสี่ยงในจังหวัดนครพนมให้เป็นไปตามเป้าหมาย สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดนครพนมจึงได้ร่วมกับโรงพยาบาลนครพนมและเทศบาลเมืองนครพนม ในฐานะเป็นหน่วยงานกำกับติดตามงานสร้างเสริมภูมิคุ้มกันโรค จัดกิจกรรม KICK OFF ให้วัคซีนป้องกันโรคหัดในกลุ่มเด็กอายุ 7-12 ปี ขึ้นในวันนี้ โดยหลังจากนี้จะมีการ KICK OFF ให้บริการฉีดวัคซีนป้องกันโรคหัดในกลุ่มเด็ก อายุ 1- 6 ปี อีกครั้ง

จ.นครพนม จัดงานวันพระบิดาแห่งฝนหลวง เพื่อน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร


วันที่ 14 พฤศจิกายน 2562 ที่บริเวณศาลาประชาคมยงใจยุทธ ศาลากลางจังหวัดนครพนม นายสยาม ศิริมงคล ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม นำคณะหัวหน้าส่วนราชการ ศาล ทหาร ตำรวจ เจ้าหน้าที่หน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น นักเรียน นักศึกษา และประชาชนจังหวัดนครพนม ร่วมประกอบพิธีวางพานพุ่มดอกไม้สดถวายแด่พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร เนื่องในวันพระบิดาแห่งฝนหลวง ประจำปี 2562 เพื่อน้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระองค์ท่านที่ทรงตรากตรำพระวรกายในการทรงงานเพื่อยกระดับคุณภาพชีวิต บำบัดทุกข์ บำรุงสุขของราษฎรผู้ยากไร้ ด้อยโอกาสทั่วทุกภาคของประเทศให้มีความเป็นอยู่ดีขึ้น

โดยเมื่อวันที่ 20 สิงหาคม 2545 คณะรัฐมนตรีได้มีมติกำหนดให้วันที่ 14 พฤศจิกายนของทุกปี เป็นวันพระบิดาแห่งฝนหลวง เพื่อให้ประชาชนคนไทยและมวลมนุษยชาติ ได้น้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณอันหาที่สุดมิได้ของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ในฐานะองค์พระบิดาแห่งฝนหลวง เนื่องด้วยเมื่อวันที่ 14 พฤศจิกายน 2498 เป็นวันที่พระองค์ท่านและสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ทรงเสด็จเยี่ยมราษฎรในพื้นที่ทุรกันดารภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ทรงทอดพระเนตรเห็นความทุกข์ยากของพสกนิกรจากปัญหาการขาดแคลนน้ำ และทรงทอดพระเนตรเห็นเมฆบนฟ้าลอยผ่าน ณ เวลานั้น พระองค์จึงทรงตั้งพระราชหฤทัย ที่จะแปรเมฆเหล่านั้นให้เป็นเม็ดฝนเพื่อมาแก้ไขปัญหาการขาดแคลนน้ำให้กับราษฎร โดยพระองค์ท่านทรงมุ่งมั่นทุ่มเทพระสติปัญญา พระวรกาย และสละพระราชทรัพย์ส่วนพระองค์ ทำการศึกษาวิจัย พัฒนาจนประสบความสำเร็จเป็นเทคโนโลยีการทำฝนเทียมที่มีประสิทธิภาพ  ก่อกำเนิดเป็นโครงการพระราชดำริฝนหลวงขึ้นมาตราบจนทุกวันนี้ โดยโครงการพระราชดำริฝนหลวงได้สร้างคุณูปการ ทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคม สิ่งแวดล้อม และความมั่นคงด้านทรัพยากรน้ำให้แก่ประเทศไทย ที่สำคัญเทคโนโลยีฝนหลวงยังเป็นที่ยอมรับจากทั่วโลก ได้รับการจดสิทธิบัตรในพระปรมาภิไธยทั้งในประเทศและต่างประเทศ และหลายๆ ประเทศก็ได้ขอพระราชทานพระบรมราชานุญาต เพื่อนำเทคนิคและวิธีการที่ทรงคิดค้นขึ้นมาไปปรับใช้ในการแก้ไขปัญหาความแห้งแล้งในประเทศของตัวเอง

วันพุธที่ 13 พฤศจิกายน พ.ศ. 2562

ตำรวจภูธรภาค 4 บูรณาการร่วมกองทัพภาคที่ 2 กำลังพลจากจังหวัดนครพนม จับกุมผู้ต้องหา 5 รายพร้อมของกลางยาบ้า 5 ล้านเม็ด


วันที่ 13 พฤศจิกายน 2562 ที่บริเวณกองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครพนม อำเภอเมือง จังหวัดนครพนม พลตำรวจโท เจริญวิทย์ ศรีวนิชย์ ผู้บัญชาการตำรวจภูธร ภาค 4 พร้อมด้วยนายสยาม ศิริมงคล ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม พลตรีประสิทธิ์ ทิศาวงศ์ ผู้บัญชาการกองบัญชาการควบคุมศูนย์ปฏิบัติการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดกองทัพภาคที่ 2 ผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดชายแดนภาคตะวันออกเฉียงเหนือ  พันเอก บุญสิน พาดกลาง  ผู้บังคับการกองกำลังกองกำลังสุรศักดิ์มนตรี พลตรีสามารถ  จินตสมิทธิ์  ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 210 พลเรือตรี สมพงษ์ ศรอากาศ ผู้บัญชาการหน่วยเรือรักษาความสงบเรียบร้อยตามลำแม่น้ำโขง พลตำรวจตรีธนชาติ รอดคลองตัน ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครพนมและกำลังพลจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมแถลงข่าวการจับกุมผู้ต้องหาจำนวน 5 รายพร้อมของกลางยาบ้า 5 ล้านเม็ดรถยนต์ยี่ห้อ isuzu รุ่น MU X สีเทา หมายเลขทะเบียน 4 กค - 7927 กรุงเทพฯ รถยนต์ยี่ห้อ toyota รุ่น revo สีเทา หมายเลขทะเบียน ก - 5548 สุราษฎร์ธานีฯ (ป้ายแดง) พร้อมโทรศัพท์มือถือจำนวน 8 เครื่อง ที่สามารถจับกุมได้เมื่อวันที่ 12 พฤศจิกายน 2562 ที่ตำบลหาดแพง อำเภอศรีสงคราม จังหวัดนครพนม

 พลตำรวจโท เจริญวิทย์ ศรีวนิชย์ ผู้บัญชาการตำรวจภูธร ภาค 4 เปิดเผยว่า การจับกุมในครั้งนี้ ได้ผู้ต้องหาจำนวน 5 ราย รถยนต์ 2 คัน โดยคันแรกบรรทุกยาบ้า 5 ล้านเม็ด ผู้ต้องหา 2 รายขณะที่คันที่ 2 เป็นรถควบคุมสั่งการ ได้ผู้ต้องหา 3 ราย สำหรับพฤติกรรมของผู้ต้องหานั้น จะมีการนำยาบ้าไปส่งเป็นช่วง ๆ รับต่อกันไปโดยแต่ละช่วงนั้นจะไม่รู้จักกันเลย จะสั่งการผ่านทางโทรศัพท์มือถือเท่านั้น ซึ่งยาบ้าล๊อตนี้ถ้าหลุดเข้าไปถึงเขตปริมณฑลหรือโซนภาคใต้ได้ จะมีมูลค่าประมาณ 500 ล้านบาท ซึ่งผู้ต้องหา 2 ใน 5 รับสารภาพว่าได้ทำมาแล้วหลายครั้งด้วยกัน ครั้งล่าสุดเมื่อวันที่ 24 ตุลาคม 2562 จำนวน 3 ล้าน 9 แสนเม็ด ถูกจับกุมได้ที่จังหวัดสระบุรีแต่ตัวผู้ต้องหาสามารถหลบหนีได้จึงได้ย้อนกลับมาทำอีกครั้งในวันที่ 12 พฤศจิกายน 2562 จนถูกเจ้าหน้าที่จับกุมได้ในครั้งนี้ ทั้งนี้ตลอดเวลาที่ผ่านมาหน่วยงานความมั่นคงได้มีการประสานงานกันอยู่เสมอ ไม่ว่าจะเป็นผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครพนม ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 210 กองกำลังสุรศักดิ์มนตรีหน่วยเรือรักษาความสงบเรียบร้อยตามลำแม่น้ำโขง รวมถึงหน่วยทหารพราน และกองบังคับการสืบสวนตำรวจภูธรภาค 4  ที่สำคัญที่ขาดไม่ได้คือผู้อำนวยการภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ซึ่งทุกฝ่ายล้วนมีส่วนสำคัญในการจับกุมในครั้งนี้และหลาย ๆ ครั้งที่ผ่านมา สำหรับการสืบสวนสอบสวนในขณะนี้กำลังอยู่ระหว่างการขยายผลว่ามีส่วนเชื่อมโยงกับกลุ่มขบวนการที่สามารถจับได้ในครั้งก่อนหน้าหรือไม่อย่างไร

นครพนมเปิดเวทีรับฟังความคิดเห็นประชาชนโครงการวางและจัดทำผังเมืองรวมเขตเศรษฐกิจพิเศษนครพนม


วันที่ 13 พฤศจิกายน 2562 ที่ศูนย์ประชุมหนองบึกสหกรณ์ออมทรัพย์ครูนครพนม อำเภอเมืองนครพนม จังหวัดนครพนม นายรังสรรค์ คัมภิรานนท์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม เป็นประธานเปิดการประชุมรับฟังข้อคิดเห็นของประชาชน ตามโครงการวางและจัดทำผังเมืองรวมเขตเศรษฐกิจพิเศษนครพนม ที่ผู้แทนกรมโยธาธิการและผังเมืองจัดขึ้น เพื่อนำเสนอบทบาทและวิสัยทัศน์การพัฒนาการจัดทำผังแนวคิด ผังนโยบายการพัฒนาพื้นที่ ข้อกำหนดและมาตรการผังเมือง รวมถึงโครงการพัฒนาพื้นที่ในเขตเศรษฐกิจพิเศษนครพนม เพื่อใช้เป็นแนวทางในการขับเคลื่อนการพัฒนาไปสู่การปฏิบัติที่เป็นรูปธรรมและมีประสิทธิภาพ เป็นไปตามหลักธรรมาภิบาล และเป็นการอำนวยความสะดวกในการแสดงความคิดเห็นของประชาชน เกี่ยวกับการออกแบบและการจัดวางผังเมืองตามนโยบาย ที่รัฐบาลได้ให้ความสำคัญของการกระจายความเจริญสู่ภูมิภาคและพัฒนาพื้นที่ชุมชนชายแดนเพื่อยกระดับรายได้และคุณภาพชีวิตของประชาชน ด้วยการจัดตั้งเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษนครพนมขึ้น เพื่อให้มีบทบาทเป็นเมืองการค้าชายแดน เป็นประตูเศรษฐกิจ เป็นศูนย์กลางการขนส่งและโลจิสติกส์ ที่เชื่อมโยงสู่ประเทศเพื่อนบ้านและจีนตอนใต้ รวมถึงมีการพัฒนาการท่องเที่ยวทางวัฒนธรรมและธรรมชาติให้มีความโดดเด่น รองรับการพัฒนาอุตสาหกรรม โดยข้อคิดเห็น ข้อเสนอแนะที่ได้รับจากการประชุมในครั้งนี้ จะมีการประมวลผลและนำไปปรับปรุงให้สอดคล้องกับผังเมืองรวมเขตเศรษฐกิจพิเศษต่อไป

โดยในที่ประชุมได้มีการเสนอให้แก้ไขร่างผังเมืองรวมเขตเศรษฐกิจพิเศษนครพนมและการใช้ประโยชน์ที่ดินในเขตเทศบาลเมือง ประกอบไปด้วย ที่ดินประเภท ย.1 ที่กำหนดให้เป็นที่ดินประเภทที่อยู่อาศัยหนาแน่นน้อย ประเภท ย.2 เพื่อรองรับการขยายตัวของการอยู่อาศัยที่มีสภาพแวดล้อมดี ประเภท ย.3 เพื่อส่งเสริมสภาพแวดล้อมของการอยู่อาศัยที่มีกิจกรรมหลากหลาย ประเภท ย.4 ที่กำหนดไว้เป็นที่ดินประเภทที่อยู่อาศัยหนาแน่นปานกลาง ประเภท พ.1 เพื่อการดำรงรักษาย่านศูนย์กลางของชุมชนดั้งเดิมและรองรับการขยายตัวของด้านพาณิชยกรรมที่มีความหลากหลาย รวมทั้งส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ ประเภท พ.2 เป็นประเภทที่ดินเพื่อรองรับการขยายตัวของศูนย์กลางของชุมชนและแรงงานใหม่ๆ ส่งเสริมการเป็นศูนย์กลางทางธุรกิจการค้าการบริการและนันทนาการ ที่ก่อให้เกิดความสมดุลระหว่างที่อยู่อาศัยและแรงงานของประชาชนที่อยู่บริเวณเดียวกัน ประเภท พ.3 เพื่อให้ใช้ประโยชน์เป็นศูนย์กลางพาณิชยกรรมชายแดนและระหว่างประเทศรองรับการพัฒนาพื้นที่เศรษฐกิจพิเศษเพื่อการประกอบกิจการทางการค้าการท่องเที่ยวการบริการระหว่างประเทศ นอกจากนี้ยังมีที่ดินประเภท อ. 2 ที่กำหนดให้เป็นที่ดินประเภทอุตสาหกรรมเฉพาะกิจ และที่ดินประเภท ก.2 เป็นที่ดินประเภทชนบทและเกษตรกรรมให้ใช้ประโยชน์เพื่อเกษตรกรรม

วันอังคารที่ 12 พฤศจิกายน พ.ศ. 2562

จ.นครพนม ประชุมด่วนซักซ้อมทำความเข้าใจแก้ปัญหาภัยแล้ง


วันที่ 12 พฤศจิกายน 2562 ที่ห้องประชุมพระธาตุนคร ศาลากลางจังหวัดนครพนม(หลังใหม่) นายสยาม ศิริมงคล ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม มอบหมายให้นางวิไลวรรณ ไกรโสดา รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม เป็นประธานการประชุมด่วน เพื่อซักซ้อมทำความเข้าใจในการดำเนินการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉินให้เป็นไปตามระเบียบและหลักเกณฑ์การให้ความช่วยเหลือ หลังได้รับรายงานจากทางอำเภอว่ามีประชาชนเริ่มได้รับความเดือดร้อนมีน้ำไม่เพียงพอ ประกอบกับทางสถานีอุตุนิยมวิทยาจังหวัดนครพนม รายงานสถานการณ์ปริมาณน้ำฝนในพื้นที่จังหวัดนครพนม ไม่มีฝนตกในพื้นที่หรือมีตกบ้างแต่ก็มีปริมาณน้อย ตั้งแต่ช่วงกลางเดือนกันยายน 2562 เป็นต้นมา เป็นเหตุให้หลายพื้นที่จังหวัดนครพนมเริ่มประสบความแห้งแล้ง และขาดแคลนน้ำเพื่อการอุปโภค บริโภค รวมถึงพื้นที่การเกษตรเริ่มได้รับความเสียหาย

นางวิไลวรรณ ไกรโสดา รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม เปิดเผยว่าในการประกาศให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉินนั้นมีการประกาศอยู่ 2 ส่วนใหญ่ ๆ  คือการประกาศเขตพื้นที่ประสบสาธารณภัย เพื่อให้ส่วนราชการ หน่วยงาน องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นและภาคเอกชน ดำเนินการช่วยเหลือตามอำนาจหน้าที่ ภายใต้ พ.ร.บ. พ.ศ. 2550 และการประกาศเขตการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน เพื่อใช้จ่ายเงินทดรองราชการ ซึ่งในความเป็นจริง ณ ปัจจุบันมีความคาบเกี่ยวกันในเรื่องของเวลา ระหว่างภัยของอุทกภัยและภัยแล้ง ซึ่งการดำเนินงานอาจจะกลายเป็นพื้นที่ทับซ้อนได้ ดังนั้นเพื่อซักซ้อมทำความเข้าใจในการดำเนินงานให้กับทุกคน ให้สามารถปฏิบัติงานได้อย่างถูกต้อง เป็นไปตามระเบียบ ข้อบังคับ หลักเกณฑ์และอำนาจหน้าที่ โดยมีข้อมูลจากทุกฝ่ายมายืนยันตามหลักความเป็นจริง ที่สำคัญคือสามารถให้การช่วยเหลือพี่น้องประชาชนในพื้นที่ได้อย่างรวดเร็วและทันท่วงที จึงได้เชิญคณะหัวหน้าส่วนราชการ ตลอดจนเจ้าหน้าที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งหมดร่วมประชุมด่วนในครั้งนี้

สำหรับข้อมูลเบื้องต้นที่ได้รับรายงาน ณ วันที่ 8 พฤศจิกายน 2562 มีพื้นที่ 3 อำเภอ ที่เริ่มได้รับผลกระทบ ประกอบไปด้วย อำเภอปลาปาก อำเภอศรีสงคราม อำเภอโพนสวรรค์ โดยมีพื้นที่การเกษตรที่คาดว่าจะได้รับความเสียหายทั้งสิ้น 7,764 ไร่ ขณะที่รายงานปริมาณน้ำฝนในจังหวัดนครพนมของโครงการชลประทานนครพนม สำนักงานชลประทานที่ 7 ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม - 11 พฤศจิกายน 2562 มีปริมาณน้ำฝนตกสะสมน้อยกว่าปีที่ผ่านมา 350.5 มิลลิเมตร โดยมีปริมาณน้ำในการบริหารจัดการ ณ ปัจจุบัน 45.23 ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็น 90.23 ของความจุรวม ทั้งนี้ในพื้นที่เขตโครงการชลประทาน มีการเพาะปลูกข้าวนาปรัง 1,354 ไร่ พืชไร่ 2,230 ไร่ พืชผัก 572 ไร่ โดยมีการเตรียมแผนการรับมือกับภัยแล้ง ทั้งการเตรียมเครื่องสูบน้ำและรถบรรทุกน้ำไว้คอยช่วยเหลือเกษตรกร

วันจันทร์ที่ 11 พฤศจิกายน พ.ศ. 2562

ชาวนครพนมหันออกกำลังกายมากขึ้นหลังอากาศเปลี่ยน ขณะที่ สสจ.นครพนมแนะการดูแลสุขภาพเลี่ยงการเจ็บป่วย


วันที่ 11 พฤศจิกายน 2562 ที่อำเภอเมือง จังหวัดนครพนม สภาพอากาศเริ่มหนาวเย็น โดยจากรายงานของสถานีอุตุนิยมวิทยาจังหวัดนครพนม พบว่าอุณหภูมิต่ำสุดของคืนที่ผ่านมาอยู่ที่ 18.3 องศาเซลเซียล ทำให้ประชาชนในจังหวัดนครพนมเริ่มที่จะหาเสื้อกันหนาวมาสวมใส่เพื่อป้องกันความหนาวเย็น ขณะเดียวกันจำนวนของผู้ที่มาออกกำลังกายริมฝั่งแม่น้ำโขง ตลอดจนตามสนามกีฬาต่าง ๆ ก็เพิ่มมากขึ้นเช่นเดียวกัน เพราะต้องการรักษาสุขภาพร่างกายให้แข็งแรงและสร้างความอบอุ่นให้กับร่างกาย โดยกิจกรรมที่แต่ละคนเลือกก็แตกต่างกันไปตามความถนัด เช่น ผู้สูงวัยก็มักจะเลือกการออกกำลังกายด้วยการเดิน และการรำไทเก็ก ขณะที่คนวัยหนุ่มสาว และเด็กจะเลือกการออกกำลังด้วยการวิ่ง การปั่นจักรยาน การเต้นแอโรบิค การออกกำลังด้วยเครื่องออกกำลังกาย และการเล่นกีฬาชนิดต่าง ๆ ขณะเดียวกันทางสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดนครพนม ก็ได้มีการแจ้งเตือนไปยังประชาชนด้วยความห่วงใยในการปฏิบัติตัวในช่วงที่อากาศเริ่มเปลี่ยนแปลงเช่นนี้

โดยนายแพทย์ธราพงษ์  กัปโก นายแพทย์เชี่ยวชาญด้านเวชกรรมป้องกัน รองนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดนครพนม เปิดเผยว่า ในช่วงนี้ที่อากาศเริ่มเปลี่ยนแปลงเข้าสู่ฤดูหนาว ทำให้เชื้อโรคบางชนิดสามารถแพร่กระจายได้ง่ายกว่าฤดูอื่น ๆ ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชนในพื้นที่ ดังนั้นจึงอยากแนะนำและฝากถึงทุกคนในการดูแลตนเองและครอบครัวให้มีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรงและปราศจากโรคและภัยสุขภาพที่มักพบบ่อยในช่วงนี้ ที่ประกอบไปด้วย โรคหัด ที่จะมีอาการไข้ 3-4 วัน มีผื่นขึ้นตามตัว โดยโรคนี้สามารถป้องกันได้ด้วยการฉีดวัคซีน ต่อมาคือโรคปอดบวมและไข้หวัดใหญ่ ซึ่งอาการเริ่มต้นจะคล้ายคลึงกัน คือมีอาการไข้ ไอ อาจจะมีน้ำมูกและปวดเมื่อยตามตัว ส่วนโรคปอดอักเสบนั้นจะมีอาการหอบร่วมด้วย ทั้งนี้ทั้งนั้นทั้งสองโรคสามารถป้องกันได้ด้วยการรักษาสุขภาพให้ร่างกายแข็งแรง ทำให้ร่างกายอบอุ่นอยู่เสมอ หลีกเลี่ยงการสัมผัสสารคัดหลั่งจากผู้ที่ป่วยอยู่ก่อนแล้ว สำหรับผู้ที่ป่วยก็แนะนำให้ใส่หน้ากาก ล้างมือและดื่มน้ำบ่อย ๆ รวมถึงรีบไปพบแพทย์เพื่อรับการรักษา  โรคต่อมาคือโรคอุจจาระร่วงเฉียบพลัน ซึ่งวิธีป้องกัน จำง่าย ๆ คือ กินร้อนช้อนกลางล้างมือ สำหรับเด็กเล็กในช่วงนี้มักจะพบ คือโรคมือ เท้า ปาก ซึ่งเด็กจะมีอาการไข้สูง หรือบางรายอาจจะมีไข้ต่ำ มีผื่นขึ้นเป็นจุดแดง ๆ ที่ฝ่ามือ ฝ่าเท้า บางรายอาจจะรวมถึงในปากด้วย ซึ่งอาการเหล่านี้จะส่งผลให้เด็กรับประทานอาหารได้น้อยลง ผู้ปกครองควรจะให้เด็กหยุดเรียน เพื่อแยกไม่ให้เด็กสัมผัสคลุกคลีกับเด็กอื่น ๆ ป้องกันการแพร่กระจายเชื้อโรค ทั้งนี้พยายามให้เด็กดื่มน้ำบ่อย ๆ และควรนำเด็กมาพบแพทย์เพื่อทำการรักษา นอกจากนี้ยังมีภัยสุขภาพที่อาจจะส่งผลกับสภาพอากาศที่หนาวเย็น ซึ่งกลุ่มที่ต้องระวังเป็นพิเศษคือ กลุ่มผู้สูงอายุ เด็ก และผู้ที่มีโรคประจำตัวที่ต้องทานยาอยู่เสมอ โดยวิธีป้องกันคือการทำให้ร่างกายอบอุ่นอยู่เสมอ  ที่สำคัญคือในช่วงเช้า ๆ จะพบว่ามีหมอกค่อนข้างเยอะ ก็ฝากพี่น้องประชาชนในการเพิ่มความระมัดระวังในการขับขี่ยานพาหนะด้วย เพราะทัศนวิสัยเช่นนี้อาจก่อให้เกิดอุบัติเหตุได้ง่าย

วันเสาร์ที่ 9 พฤศจิกายน พ.ศ. 2562

อดีตอธิบดีกรมสามัญศึกษานำคณะมอบเครื่องช็อคหัวใจอัตโนมัติ เพิ่มมาตรฐานความปลอดภัยท่าอากาศยานจังหวัดนครพนม


วันที่ 9 พฤศจิกายน 2562 ที่อาคารท่าอากาศยานจังหวัดนครพนม นายกว้าง รอบคอบ อดีตอธิบดีกรมสามัญศึกษาและคณะเดินทางมามอบเครื่องช็อคหัวใจอัตโนมัติ ( Automated  External Defibrillator : AED ) พร้อมชุดฝึกการปฐมพยาบาลให้กับท่าอากาศยานจังหวัดนครพนม เพื่อใช้ในการช่วยเหลือผู้โดยสารและบุคคลทั่วไปในยามฉุกเฉินที่ประสบภาวะหัวใจหยุดเต้นกระทันหัน เป็นการเพิ่มมาตรฐานความปลอดภัยให้กับผู้โดยสารที่มาใช้บริการสายการบิน โดยมีนายสมชัย นำโชคประเสริฐ นักวิชาการขนส่งชำนาญการ หัวหน้าฝ่ายกลุ่มความปลอดภัย ท่าอากาศยานจังหวัดนครพนมเป็นตัวแทนรับมอบ และมีคณะผู้บริหารสถานศึกษา ครู ลูกเสือเนตรนารีในสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 22 ตลอดจนผู้โดยสารท่าอากาศยานจังหวัดนครพนมร่วมเป็นสักขีพยาน

นายกว้าง รอบคอบ อดีตอธิบดีกรมสามัญศึกษา เปิดเผยว่า ปัญหาอาการหัวใจเต้นผิดจังหวะเป็นสิ่งที่อาจเกิดขึ้นได้ทุกที่ทุกเวลาและหากผู้ป่วยมีอาการในสถานที่ที่ไม่ใช่บ้านหรือโรงพยาบาล การช่วยเหลืออาจเกิดขึ้นไม่ทันท่วงทีและเป็นอันตรายถึงชีวิตได้ ซึ่งในทุกวันนี้ตนเองและคณะเห็นว่าที่จังหวัดนครพนมมีผู้มาใช้บริการสายการบินเป็นจำนวนมากเพราะมีความสะดวกสบายและอาจเกิดเหตุการณ์ไม่คาดคิดขึ้นได้ ดังนั้นจึงอยากให้ในที่สาธารณะเช่นท่าอากาศยานจังหวัดนครพนมมีเครื่อง AED เพิ่มมากขึ้นกว่าที่เป็นอยู่ จึงได้ร่วมกันจัดหามาสนับสนุนเพื่อเพิ่มศักยภาพและมาตรฐานความปลอดภัยในที่สาธารณะแห่งนี้ขึ้นไปอีก ด้วยเครื่อง AED มีความสำคัญมากสามารถลดการสูญเสียได้เป็นอย่างดี เป็นอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ขนาดเล็ก เคลื่อนย้ายได้อย่างสะดวก โดยเครื่องสามารถวินิจฉัยภาวะหัวใจเต้นผิดจังหวะของผู้ป่วยได้โดยอัตโนมัติ ทั้งยังให้การรักษาด้วยการช็อคไฟฟ้ากระตุกหัวใจที่เต้นผิดจังหวะให้กลับมาเต้นใหม่ในจังหวะที่ถูกต้องโดยผู้ให้การช่วยเหลือไม่จำเป็นต้องมีความรู้ในการใช้เครื่องมาก่อน ซึ่งคนทั่วไปก็สามารถใช้งานได้เพียงทำตามคำแนะนำของเครื่องที่จะมีการประเมินสถานการณ์ของผู้ป่วยให้โดยอัตโนมัติและช่วยกระตุ้นการทำงานของหัวใจได้ในทันที  ซึ่งในวันนี้ก็ต้องขอขอบคุณทีมแพทย์ฉุกเฉิน 1669 ของโรงพยาบาลนครพนมด้วย ที่ได้เดินทางมาเป็นวิทยากรถ่ายทอดความรู้เกี่ยวกับขั้นตอนการปฐมพยาบาลและแสดงการใช้เครื่อง AED ให้ผู้โดยสารในท่าอากาศยานจังหวัดนครพนมได้ชมโดยมีทีมลูกเสือเนตรนารีของโรงเรียนนครพนมวิทยาคมร่วมแสดงและเรียนรู้วิธีการใช้เครื่องไปพร้อมกับทุกคน

วันศุกร์ที่ 8 พฤศจิกายน พ.ศ. 2562

คณะส่วนล่วงหน้าลงพื้นที่จังหวัดนครพนม ตรวจพื้นที่และประชุมเตรียมการรับเสด็จ ฯ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี


วันที่ 8 พฤศจิกายน 2562 ที่มหาวิทยาลัยนครพนม อำเภอเมือง จังหวัดนครพนม พลอากาศตรี วินัย พุ่มไพจิตร ราชองครักษ์ในพระองค์ 904/905 เป็นหัวหน้าคณะนำส่วนล่วงหน้าลงพื้นที่ซักซ้อมการปฏิบัติ และตรวจติดตามการเตรียมการรับเสด็จในโอกาสที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินแทนพระองค์มาพระราชทานปริญญาบัตรแก่ผู้สำเร็จการศึกษา จากมหาวิทยาลัยนครพนม ประจำปีการศึกษา 2561 - 2562 จำนวน 1,280 คน ณ อาคารศรีโคตรบูรณ์ มหาวิทยาลัยนครพนม ในวันพุธที่ 11 ธันวาคม 2562 โดยมีนายสยาม ศิริมงคล ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม พร้อมด้วยคณะหัวหน้าส่วนราชการหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมให้การต้อนรับและร่วมประชุม เพื่อให้การดำเนินงานเป็นไปด้วยความเรียบร้อย และสมพระเกียรติอย่างสูงสุด

ทั้งนี้ในที่ประชุมได้แจ้งกำหนดการเสด็จพระราชดำเนิน สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี คำสั่งแต่งตั้งกรรมการอำนวยการและคณะทำงานเตรียมการรับเสด็จฯ การมอบภารกิจในการเตรียมการรับเสด็จฯ ทั้งคณะทำงานฝ่ายสถานที่ คณะทำงานด้านพิธีการ คณะทำงานด้านการรักษาความปลอดภัยและการจรจร คณะทำงานด้านไฟฟ้าและไฟส่องสว่าง คณะทำงานด้านการปฐมพยาบาล คณะทำงานด้านการประชาสัมพันธ์ คณะทำงานการประดับธงและตกแต่งเส้นทางเสด็จฯ คณะทำงานด้านการจัดขบวนรถยนต์พระที่นั่งและขบวนรถยนต์ส่วนล่วงหน้า รวมทั้งเรื่องอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง

ชาวบ้านนาโพธิ์ นครพนม สืบสานประเพณีชาวพุทธ ถ่ายทอดวัฒนธรรมและอาหารพื้นถิ่นสู่ลูกหลาน

วันที่ 8 พฤศจิกายน 2562 ที่วัดบ้านนาโพธิ์ ตำบลนาโพธิ์ อำเภอเมือง จังหวัดนครพนม นายรังสรรค์ คัมภิรานนท์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม เป็นประธานงานบุญกฐินถิ่นอีสาน เทศกาลอาหารพื้นถิ่น ศิลปินพื้นบ้านสืบสานวัฒนธรรมชุมชนคนบ้านนาโพธิ์ ที่คณะผู้นำท้องถิ่น ผู้นำชุมชนและประชาชนในหมู่บ้านร่วมกันจัดขึ้นเพื่อให้ทุกคนได้ร่วมกันทำบุญกฐินสามัคคีทอดถวายแด่พระสงฆ์ผู้จำพรรษาครบถ้วนไตรมาสที่วัดบ้านนาโพธิ์ ไปพร้อมกับการเรียนรู้ขนบธรรมเนียมประเพณีที่ดีงามต่าง ๆ ของชุมชนเพื่อถ่ายทอดสู่ชนรุ่นหลัง  

นายรังสรรค์ คัมภิรานนท์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม เปิดเผยว่า ชุมชนบ้านนาโพธิ์ถือเป็นอีกหนึ่งต้นแบบของคนนครพนมที่อยู่บนรากฐานของความเรียบง่ายและความสามัคคี มีน้ำหนึ่งใจเดียวกันโดยมีวัดเป็นศูนย์กลางในการหลอมรวมจิตใจของทุกคนเข้าด้วยกัน ซึ่งงานกฐินสามัคคีในครั้งนี้ ถือเป็นเรื่องดีที่ควรเป็นแบบอย่างให้อีกหลายชุมชนได้ทำตาม เพราะนอกจากจะเป็นการสืบสานประเพณีที่ดีงามของชาวพุทธให้คงอยู่สืบไปแล้ว ยังสามารถถ่ายทอดภูมิปัญญา ศิลปวัฒนธรรม วิถีชีวิตให้กับลูกหลานอยู่กันอย่างพอเพียง ที่มีความสามัคคี พร้อมให้โอกาสและพร้อมพัฒนาชุมชนไปพร้อม ๆ กันได้อย่างดีเยี่ยมแม้แต่ละคนจะมีต้นทุนชีวิตที่ต่างกัน เพราะกฐินสามัคคีในครั้งนี้มีเจ้าภาพมากถึง 120 ราย ทำให้กลายเป็นกองกฐินสามัคคีขนาดใหญ่ ที่พร้อมในทุก ๆ ด้าน เพราะทุกคนในชุมชนต่าง แต่มีจุดหมายเดียวกันคือต้องการทำบุญเพื่ออุทิศส่วนกุศลหาบรรพบุรุษที่ล่วงลับไปแล้ว โดยแต่จะมีการนำเอาผ้าไตร สิ่งของเครื่องใช้ เครื่องอัฐบริขาร จตุปัจจัย อาหาร ผลไม้และสิ่งของอื่น ๆ ที่ตนเองมีมาร่วมในงาน หรือบางคนไม่ทีทุนทรัพย์ก็ใช้กำลังกาย กำลังใจเข้าช่วยในการจัดเตรียมสิ่งต่าง ๆ ตามความถนัดของตนเอง

 ขณะที่ช่วงเย็นถ้าเราไปตามงานกฐินทั่วไปก็จะเห็นการแสดงต่าง ๆ เพื่อสร้างความรื่นเริง ของที่นี่ก็มีเช่นเดียวกันแต่จะเป็นการแสดงของผู้สูงอายุเพื่อถ่ายทอดศิลปวัฒนธรรมที่ดีงามให้คงอยู่กับบุตรหลานไม่ว่าจะเป็นการรำขันหมากเบงเพื่อบูชากองกฐิน การแสดงดนตรีหมอลำจากโรงเรียนผู้สูงอายุของชุมชน ขณะที่อีกหนึ่งสีสันต์ก็คงหนีไม่พ้นอาหารพื้นบ้าน อาหารพื้นถิ่น ที่แต่ละครอบครัวนำมาตั้งซุ้ม เพื่อแจกจ่ายให้ผู้ที่มาร่วมงานได้เลือกรับประทานตามความชอบที่มีความหลากหลายทั้งอาหารคาว อาหารหวาน ที่ต้องบอกว่าแค่เดินชิมทุกซุ้มก็อิ่มไปหลายวัน ที่สำคัญชาวบ้านนาโพธิ์ยังเป็นต้นแบบหมู่บ้านที่มีการบริหารจัดการชุมชนที่แตกต่างจากที่อื่น จนได้รับรางวัลชนะเลิศระดับประเทศ ในการประกวดนวัตกรรมประชาธิปไตยเชิงคุณภาพจากสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร เพราะมีสภาในการบริหารจัดการ มีสภาผู้เฒ่าเป็นสภาสูงสุด ทำหน้าที่ถ่ายทอดองค์ความรู้ ศิลปวัฒนธรรม ประเพณีที่ดีงาม ให้คำปรึกษา คำแนะนำในด้านต่าง ๆ แก่คนในชุมชน รองลงมาคือสภากรรมการหมู่บ้าน ทำหน้าที่ในการบริหารพัฒนาหมู่บ้าน/ชุมชน ตามมาด้วยสภาอาสาพัฒนาชุมชน ซึ่งเป็นสภาที่เปิดให้ผู้ที่มีจิตอาสาทุกสาขาอาชีพมาร่วมกันดูแลและทำกิจกรรมพัฒนาชุมชนให้มีความเจริญรุ่งเรือง และสุดท้ายคือสภาที่จะมาเป็นกำลังสำคัญในการพัฒนาชุมชนต่อไปในอนาคต โดยจะมีบทบาทและมีส่วนร่วมในทุกกิจกรรมที่เกิดขึ้นในชุมชน คือสภาเด็กและเยาวชนหมู่บ้าน