วันเสาร์ที่ 28 ธันวาคม พ.ศ. 2562

รองผู้ว่าฯนครพนม นำทีมลงพื้นที่เยี่ยมจุดตรวจจุดบริการประชาชน ช่วงเทศกาลปีใหม่ 2563


วันที่ 28 ธันวาคม 2562 ที่จังหวัดนครพนม นายรังสรรค์ คัมภิรานนท์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม พร้อมด้วย  นางเยาวพา คัมภิรานนท์ รองนายกเหล่ากาชาดจังหวัดนครพนม นำคณะหัวหน้าส่วนราชการเจ้าหน้าที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ประกอบไปด้วย สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดนครพนม สำนักงานขนส่งจังหวัดนครพนม สำนักงานทางหลวงนครพนม สำนักงานแขวงทางหลวงชนบทนครพนม สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดนครพนม โรงพยาบาลนครพนม และสำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดนครพนม ลงพื้นที่อำเภอนาแกเพื่อตรวจเยี่ยมให้กำลังใจหน้าที่ผู้ปฏิบัติงาน ตามจุดตรวจจุดบริการประชาชน ช่วงเทศกาลปีใหม่ 2563 และสถานีขนส่งผู้โดยสารอำเภอธาตุพนม ที่จังหวัดนครพนมได้มีการบูรณาการหน่วยงานต่าง ๆ ทั้งหน่วยทหาร ตำรวจ ฝ่ายปกครอง ฝ่ายป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยสาธารณสุข องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น สถานศึกษา และอาสาสมัครต่าง ๆ  ในการอำนวยความสะดวกและให้บริการแก่พี่น้องประชาชน ตลอดจนนักท่องเที่ยวที่สัญจรไปมาในพื้นที่

นายรังสรรค์ คัมภิรานนท์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม เปิดเผยว่า ก่อนอื่นต้องขอขอบคุณเจ้าหน้าที่ทุกนายที่ได้เสียสละเวลาอันมีค่า ที่จะได้อยู่กับครอบครัวมาช่วยกันปฏิบัติหน้าที่ ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อสร้างความปลอดภัยให้กับพี่น้องประชาชนที่สัญจรไปมา โดยการลงพื้นที่ในครั้งนี้นอกจากจะเพื่อสร้างขวัญกำลังให้กับผู้ปฏิบัติงานทุกคนแล้ว ยังได้นำเอาน้ำดื่ม อาหารแห้ง ยาสามัญประจำบ้าน และเสื้อกั๊กจราจร มามอบให้เพื่อใช้ระหว่างปฏิบัติหน้าที่ด้วย รวมถึงเป็นการนำคณะหัวหน้าส่วนราชการลงพื้นที่จริง เพื่อรับรู้ รับทราบ ข้อมูลสถานการณ์ในการเดินทาง การให้บริการ สิ่งที่ผู้ปฏิบัติงานต้องการให้ทางจังหวัดสนับสนุนเพิ่มเติมในการปฏิบัติหน้าที่ ปัญหาของแต่ละพื้นที่ที่เกิดขึ้นในแต่ละวันและการแก้ไขปัญหาเบื้องต้น ก่อนที่ทุกฝ่ายจะนำข้อมูลที่ได้มาร่วมกันวางแผน กำหนดเป็นแนวทางและแก้ไขร่วมกัน เพื่อสร้างความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินให้กับพี่น้องประชาชนที่สัญจรไปมาในพื้นที่ ซึ่งนายสยาม ศิริมงคล ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม ได้มีการจัดตั้งทีมตรวจเยี่ยมให้กำลังใจในลักษณะนี้ทั้งสิ้น 5 ชุด ด้วยกัน เพื่อแยกย้ายกับลงพื้นที่ครอบคลุมทั้ง 12 อำเภอของจังหวัดนครพนม ทั้งนี้ได้มีการเน้นย้ำกับเจ้าหน้าที่ทุกนายทุกฝ่าย โดยขอให้ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความเข้มแข็ง เข้มงวด มีความสม่ำเสมอ เป็นไปด้วยความถูกต้องและเป็นธรรมกับทุกฝ่าย ถ้าพบเห็นปัญหาไม่ว่าเรื่องเล็กหรือเรื่องใหญ่ อย่าได้นิ่งนอนใจ ให้รีบรายงานผู้บังคับบัญชาที่สูงกว่าทันที เพื่อร่วมกันหาทางแก้ไข เพราะเรื่องเล็ก ๆ อาจจะกลายเป็นเรื่องใหญ่ได้ เช่น ถ้าพบว่าแสงสว่างบนเสาไฟฟ้าตามถนนไม่ติดเป็นบางจุด นั้นหมายถึงความสว่างของแสงไฟมีไม่เพียงพอ อาจส่งผลต่อการขับขี่ของผู้ใช้รถใช้ถนนที่นำมาซึ่งอุบัติเหตุได้ ที่สำคัญคือการดูแลลูกหลาน คนในครอบครัว และคนในชุมชนด้วยกันไม่ให้มีความประมาท เมื่อใช้รถใช้ถนนครั้งใดต้องมีความพร้อมทั้งร่างกาย และสติ ปฏิบัติตามกฎจราจรอย่างเคร่งครัด ไม่ขับรถขณะมึนเมา หรือถ้าพบเห็นผู้ใช้รถใช้ถนนมีอาการง่วง ก็ให้หยุดรถไว้อย่าให้คนขับฝืนขับต่อไปเพราะนั้นหมายถึงอันตรายทั้งต่อผู้ขับขี่และผู้ที่ใช้ถนนร่วมด้วย

นักท่องเที่ยวแห่ร่วมงาน Winter festival 2020 นครพนม คึกคัก

วันที่ 28 ธันวาคม 2562 ในช่วงค่ำของวันที่ผ่านมา ที่บริเวณหอนาฬิกาเวียดนามอนุสรณ์และริมเขื่อนแม่น้ำโขง เทศบาลเมืองนครพนม จังหวัดนครพนม บรรยากาศเป็นไปด้วยความคึกคักของประชาชนและนักท่องเที่ยว ที่เดินทางมาร่วมงาน Winter Festival 2020 ตอนสายลมแห่งรักริมโขง กันอย่างเนืองแน่น โดยกิจกรรมต่าง ๆ ได้เริ่มขึ้นในเวลา 18.09 น. เมื่อนายสยาม ศิริมงคล ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม ได้นำคณะหัวหน้าส่วนราชการ หน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชนและประชาชนที่ได้ร่วมกันบูรณาการจัดงานดังกล่าวขึ้นเป็นปีที่ 2 หลังมีเสียงเรียกร้องจากประชาชนและนักท่องเที่ยว ที่เคยเดินทางมาสัมผัสกับวัฒนธรรมวิถีชีวิตแบบสโลว์ไลฟ์ของคนนครพนม ท่ามกลางอากาศที่บริสุทธิ์ และความงดงามของธรรมชาติเมื่อปีที่ผ่านมา

โดยในปีนี้คณะผู้จัดงานได้แบ่งกิจกรรมออกเป็น 3 โซนใหญ่ ๆ ประกอบไปด้วยโซน Colorful of love ที่ เป็นการเนรมิตอุโมงค์ไฟให้มีความยาวมากกว่าปีที่ผ่านมา จากเดิม 300 เมตรเป็น 400 เมตร เพื่อรองรับประชาชนและนักท่องเที่ยวที่มากยิ่งขึ้น โดยเป็นการสร้างอยู่บนทางจักยานที่ตั้งอยู่ริมเขื่อนแม่น้ำโขง ทำให้ผู้ที่มาเดินอุโมงค์ไฟแห่งนี้ ได้สัมผัสกับความงดงามของแสงไฟและบรรยากาศชิว ๆ ที่มีลมเย็นสบายท่ามกลางอุณหภูมิประมาณ 20 องศาเซลเซียส และเมื่อเดินลอดอุโมงค์ไฟขึ้นมาที่ลานจักรยานก็จะพบกับอุโมงค์ดาว ซึ่งเป็นสถานที่ให้ทุกคนได้ถ่ายรูปเช็คอินความงดงามอีกแห่ง นอกจากนี้ยังจะพบกับกิจกรรมสาธิตต่าง ๆ เช่น การโชว์ผสมเครื่องดื่มค็อกเทล การสาธิตการชงชาเวียดนาม การนวดแผนโบราณ และเมื่อเก็บภาพบรรยากาศสวยๆ เสร็จแล้ว ก็มาต่อด้วยโซน Love from farms ซึ่งเป็นโซนที่นำเอาสินค้าเกษตรปลอดภัย ได้มาตรฐาน ทั้งด้านพืช ปศุสัตว์ และประมง มาจัดจำหน่ายและแปรรูปเป็นเมนูอาหารต่าง ๆ กว่า 40 ร้าน ให้ทุกคนได้หารับประทานพร้อมกับการรับฟังการแสดงดนตรีจากศิลปินท้องถิ่น ดารา นักร้องชื่อดัง ในบรรยากาศแบบคาวบอยไนท์  และโซนสุดท้ายคือโซน OTOP of love ที่ให้ทุกคนได้หาของฝากของที่ระลึกไปฝากคนทางบ้าน กับสินค้าเด่นของแต่ละชุมชนในจังหวัดนครพนมที่นำมาจัดแสดงและจำหน่าย ซึ่งงานดังกล่าวจะมีไปจนถึงวันที่ 1 มกราคม 2563 โดยในคืนวันที่ 31 ธันวาคม ทุกคนจะมาร่วมนับเคาท์ดาวน์สู่ปีใหม่ไปพร้อมๆ กัน ก่อนที่ในช่วงเช้าจะมาร่วมกันทำบุญตักบาตร เพื่อเสริมสร้างบุญบารมี สร้างสิ่งดี ๆ ให้กับชีวิตของตนเองและครอบครัวรับวันใหม่ของปี 

วันศุกร์ที่ 27 ธันวาคม พ.ศ. 2562

จ.นครพนม บูรณาการหน่วยงานอำนวยความสะดวกประชาชนรับเทศกาลปีใหม่ พร้อมนำนวัตกรรมใหม่ เตรียมสร้างปรากฎการณ์ลดอุบัติเหตุทางถนน


วันที่ 27 ธันวาคม 2562 ที่บริเวณหน้าสำนักงานหมวดทางหลวงนครพนม บ้านดอนยานาง ตำบลนาทราย อำเภอเมือง จังหวัดนครพนม นายสยาม ศิริมงคล ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม เป็นประธานเปิดศูนย์อำนวยความสะดวกและปลอดภัยทางถนนของกรมทางหลวง และศูนย์ปฏิบัติการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนของจังหวัดนครพนม ในช่วงเทศกาลปีใหม่ 2563 ซึ่งเป็นการบูรณาการ ทั้งหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชนและประชาชน ในการดูแลผู้ที่สัญจรไปมาในพื้นที่ ให้มีความปลอดภัยและสะดวกสบาย

 นายวุฒิพงศ์ คำภูแสน ผู้อำนวยการแขวงทางหลวงนครพนม เปิดเผยว่า ศูนย์อำนวยความสะดวกและปลอดภัยทางถนนกรมทางหลวง และศูนย์ปฏิบัติการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนจังหวัดนครพนม จะเปิดให้บริการไปจนถึงวันที่ 2 มกราคม 2563 โดยเป็นการบูรณาการจากหน่วยงานต่าง ๆ ร่วมกัน ซึ่งจะมีทั้งการดูแลอำนวยความสะดวก เป็นสถานที่พักผ่อนระหว่างเดินทาง การดูแลผู้เจ็บป่วย การให้ความช่วยเหลือในการลากจูงและการซ่อมบำรุง โดยมีทีมงานที่เป็นเจ้าหน้าหน่วยงานภาครัฐ ทั้ง มณฑลทหารบกที่ 210 กองกำกับการตำรวจภูธรจังหวัดนครพนม เทศบาลตำบลหนองญาติ องค์การบริหารส่วนตำบลนาทรายและหน่วยงามในสังกัดกระทรวงคมนาคม ตลอดจน น้อง ๆ จากอาชีวศึกษาที่มาเปิดศูนย์ในการซ่อมสร้างเพื่อชุมชน fix it center ในการเข้ามาดูแลรถยนต์ รถจักรยานยนต์ ให้กับผู้ที่สัญจรไปมา รวมถึงบริษัทโตโยต้านครพนม ที่มีรถโมบายเคลื่อนที่พร้อมให้บริการหากมีการติดต่อขอความช่วยเหลือก็จะวิ่งไปซ่อมให้ถึงที่เกิดเหตุ  ขณะเดียวกันที่ศูนย์แห่งนี้ก็จะมีทีมแพทย์จากสำนักงานสาธารณสุข โรงพยาบาลนครพนม ทีมกู้ชีพกู้ภัยมาให้บริการเกี่ยวกับสุขภาพ ซึ่งจะมีการจัดเจ้าหน้าที่หมุนเวียนกันมาอยู่เวรตลอด 24 ชั่วโมง

ในส่วนของแขวงทางหลวงนครพนมเองนอกจากจะมีเจ้าหน้าที่อำนวยความสะดวกอยู่ที่ศูนย์แล้ว ยังมีรถโมบายเคลื่อนที่เร็วที่พร้อมออกให้บริการประจำหมวดทางหลวง 5 หมวด ได้แก่ หมวดทางหลวงนครพนม หมวดทางหลวงท่าอุเทน หมวดทางหลวงศรีสงคราม หมวดทางหลวงปาก และหมวดทางหลวงนาแก มีศูนย์อำนวยการข้อมูลสำหรับประสานงานตรวจสอบข้อมูลและสถานการณ์ในทางหลวงหมายเลข 212 ตอน ท่าควาย-กลางน้อย ที่กิโลเมตรที่ 319 + 140 นอกจากนี้ยังได้นำเอานวัตกรรมใหม่มาใช้กับจุดเสี่ยงจุดอันตราย นั้นคือการทำ Opticon speed  bar ซึ่งมีลักษณะคล้ายกับ rubber stick ที่เมื่อรถเข้าไปเหยียบแล้วจะสะเทือนแต่ตัวนี้จะมีการบีบช่องจราจรให้เล็กลงตามมาตรฐานที่ใช้โดยทั่วไป โดยของนครพนมมีการติดตั้งที่บ้านธาตุน้อย ตำบลบ้านกลาง อำเภอธาตุพนม โดยมีการเพิ่มความยาวของช่องทางจราจรที่แคบมากขึ้นกว่าปกติ ทำให้คนขับมีความรู้สึกว่าช่องจราจรแคบลงเรื่อยๆ และกลัวว่าจะเกิดอันตรายและทำการลดความเร็วลงโดยอัตโนมัติ และไม่พุ่งเข้าสู่โค้งหักศอกที่เป็นจุดเสี่ยง ซึ่งถ้าได้ผลดีก็จะมีการนำหลักการดังกล่าวไปขยายผลต่อยังจุดเสี่ยงจุดอันตรายอื่น ๆ ในพื้นที่ พร้อมเสนอเข้าสมาคมทางหลวง เพื่อเผยแพร่ต่อไปในอนาคต

จ.นครพนม ประกอบพิธีรับพระราชทานพระบรมฉายาลักษณ์ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระนางเจ้าฯพระบรมราชินี ระดับจังหวัด


วันที่ 27 ธันวาคม 2562 ที่ศาลาประชาคมยงใจยุทธ ศาลากลางจังหวัดนครพนม จังหวัดนครพนม นายสยาม ศิริมงคล ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม เป็นประธานในการประกอบพิธีรับพระราชทานพระบรมฉายาลักษณ์ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี เนื่องในโอกาสมหามงคลพระราชพิธีบรมราชาภิเษก พุทธศักราช 2562 ระดับจังหวัด ที่กระทรวงมหาดไทยโดยกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น ได้ดำเนินการขอพระราชทานพระบรมราชานุญาตเชิญพระบรมฉายาลักษณ์ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่ฉายกับสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ไปจัดพิมพ์เป็นแผ่นภาพขนาด 8.25 x 11.75 นิ้ว จำนวน 23,323,000 แผ่น สำหรับมอบให้แก่ ประชาชนทุกครัวเรือนในสังกัดองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ที่ทำการปกครองส่วนท้องถิ่น โรงเรียน และศูนย์พัฒนาเด็กเล็กในสังกัดองค์การปกครองส่วนท้องถิ่นทั่วประเทศ เพื่อให้ประชาชน หน่วยงานและองค์กรต่าง ๆ ได้น้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณอันหาที่สุดมิได้ และเพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีบรมราชาภิเษก พุทธศักราช 2562

สำหรับการประกอบพิธีรับพระราชทานพระบรมฉายาลักษณ์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี เนื่องในโอกาสมหามงคลพระราชพิธีบรมราชาภิเษก พุทธศักราช 2562 ในครั้งนี้ เป็นการมอบให้แก่ รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม หัวหน้าส่วนราชการในสังกัดกระทรวงมหาดไทย นายอำเภอ ผู้นำองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นของจังหวัดนครพนม โดยหลังจากนี้ตัวแทนทั้ง 12 อำเภอจะได้เชิญพระบรมฉายาลักษณ์ทั้ง 2 พระองค์ไปประกอบพิธีอย่างสมพระเกียรติอีกครั้ง เพื่อมอบให้แก่ประชาชนทุกครัวเรือนและหน่วยงานในสังกัดองค์การปกครองส่วนท้องถิ่นของจังหวัดนครพนม ทั้ง 104 แห่ง ต่อไป

วันพฤหัสบดีที่ 26 ธันวาคม พ.ศ. 2562

จ.นครพนม เปิดศูนย์ปฏิบัติการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลปีใหม่ 2563 และจัดงานวันป้องกันอุบัติภัยแห่งชาติ


วันที่ 26 ธันวาคม 2562 ที่จังหวัดนครพนม นางวิไลวรรณ ไกรโสดา รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม เป็นประธานเปิดศูนย์ปฏิบัติการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลปีใหม่ 2563 และเปิดงานวันป้องกันอุบัติภัยแห่งชาติ ประจำปี 2562 ที่สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดนครพนม ร่วมกับภาคีเครือข่ายและหน่วยงานต่าง ๆ จัดขึ้น เพื่อรณรงค์สร้างการตระหนักรู้และปลูกจิตสำนึกด้านความปลอดภัย ให้กับประชาชนได้ตระหนักถึงความสูญเสียจากภัยพิบัติที่เกิดจากธรรมชาติและภัยที่เกิดจากการกระทำของมนุษย์ เพื่อก่อให้เกิดวัฒนธรรมความปลอดภัย ลดการสูญเสียในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน ทำให้ทุกคนรู้จักการป้องกันตนเอง รวมถึงมีความพร้อมในการรับมือกับภัยทุกประเภท

โดยก่อนการทำกิจกรรมประธานในพิธีได้อ่านสารนายกรัฐมนตรี เนื่องในโอกาสวันป้องกันอุบัติภัยแห่งชาติ ประจำปี 2562 ให้ทุกคนได้รับทราบ จากนั้นทุกคนร่วมกันยืนสงบนิ่งเพื่อไว้อาลัยแก่ผู้ที่สูญเสียชีวิตจากภัยพิบัติเป็นเวลา 1 นาที ก่อนที่จะร่วมกันเปิดศูนย์ปฏิบัติการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลปีใหม่ 2563 ปล่อยขบวนรณรงค์สวมหมวกนิรภัย 100 เปอร์เซ็นต์ไปตามถนนสายต่างๆ และมอบสิ่งของสนับสนุนการปฏิบัติงานการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลปีใหม่ 2563 จากนั้นแต่ละคนจะแยกย้ายเข้าสู่ฐานการเรียนรู้เกี่ยวกับการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเพื่อสร้างความพร้อมสำหรับการรับมือเมื่อเกิดเหตุ ไม่ว่าจะเป็น การเรียนรู้เกี่ยวกับอุทกภัย ภัยแล้ง ภัยหนาวและอัคคีภัย วิธีการขั้นตอนการอพยพหากเกิดภัย การประกันภัย การขับขี่ยานพาหนะที่ปลอดภัย การใช้ไฟฟ้าอย่างปลอดภัย การสัญจรทางน้ำและการช่วยเหลือผู้ตกน้ำ การปฐมพยาบาลเบื้องต้น การติดตามการพยากรณ์อากาศด้วยตนเอง การเรียนรู้เกี่ยวกับอาคาร เครื่องเล่นและอุปกรณ์สาธารณะที่ปลอดภัย รวมถึงแนวทางการช่วยเหลือ เครื่องมือ อุปกรณ์ในการระงับเหตุของหน่วยงานต่าง ๆ เมื่อเกิดภัย

สำหรับวันป้องกันอุบัติภัยแห่งชาติ นั้นเกิดขึ้น เนื่องจากเมื่อวันที่ 26 ธันวาคม 2547 ได้เกิดธรณีภัยพิบัติสินามิครั้งใหญ่ในหลายประเทศ รวมถึง 6 จังหวัดภาคใต้ฝั่งทะเลอันดามันของประเทศไทย ซึ่งก่อให้เกิดความสูญเสียต่อชีวิตและทรัพย์สินเป็นจำนวนมาก ดังนั้นเพื่อเป็นการรำลึกถึงวันที่ประเทศไทยได้ประสบภัยพิบัติครั้งรุนแรง และเป็นการเสริมสร้างความตระหนักรู้ สร้างจิตสำนึกถึงความปลอดภัยให้แก่ประชาชน คณะรัฐมนตรีจึงได้มีมติกำหนดให้วันที่ 26 ธันวาคมของทุกปี เป็นวันป้องกันอุบัติภัยแห่งชาติ โดยให้มีการจัดกิจกรรมรณรงค์เสริมสร้างจิตสำนึก ปลูกฝังวัฒนธรรมความปลอดภัย กระตุ้นเตือนให้ประชาชนทุกคนได้ตระหนักถึงความสูญเสียจากภัยพิบัติที่เกิดจากธรรมชาติและภัยพิบัติที่มนุษย์ก่อขึ้น มีการเตรียมความพร้อมในการรับมือกับภัยพิบัติและมีการดำเนินชีวิตด้วยความไม่ประมาท

วันพุธที่ 25 ธันวาคม พ.ศ. 2562

หัวหน้าผู้ตรวจกรมธนารักษ์ขับเคลื่อนโครงการเปลี่ยนชุมชน เป็นที่ประชุมในที่ราชพัสดุที่นครพนม


วันที่ 25 ธันวาคม 2562 ที่บริเวณศูนย์ OTOP trader เทศบาลเมืองนครพนม จังหวัดนครพนม นายวชิระ บัวมาศ หัวหน้าผู้ตรวจราชการกรมธนารักษ์ พร้อมด้วยนายรังสรรค์ คัมภิรานนท์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม ร่วมเป็นประธานเปิดโครงการเปลี่ยนชุมชน เป็นที่ประชุมและตลาดนัดในที่ราชพัสดุ ซึ่งเป็นโครงการที่กรมธนารักษ์จัดขึ้นเพื่อตอบสนองต่อนโยบายของรัฐบาลและกระทรวงการคลัง ในการนำที่ราชพัสดุมาจัดทำเป็นพื้นที่เพื่อการท่องเที่ยว การจำหน่ายสินค้าชุมชน ทำให้เกิดการสร้างอาชีพและรายได้อย่างยั่งยืน อันจะนำไปสู่การเข้าถึงแหล่งเงินทุนต่อไปในอนาคต โดยมีหัวหน้าส่วนราชการ เจ้าหน้าที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องและประชาชนในพื้นที่ร่วมกิจกรรม

นายวชิระ บัวมาศ หัวหน้าผู้ตรวจราชการกรมธนารักษ์  เปิดเผยว่า จากที่รัฐบาลและกระทรวงการคลังได้มีนโยบายเกี่ยวกับการพัฒนาเศรษฐกิจฐานราก โดยบูรณาการทำแผนปรับโครงสร้างเศรษฐกิจชุมชน เพื่อแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจฐานรากให้เป็นรูปธรรมตามแนวทางกลยุทธ์ 3 สร้างคือสร้างอาชีพ สร้างรายได้ และสร้างโอกาสการเข้าถึงแหล่งเงินทุน และในวันนี้กรมธนารักษ์ในฐานะหน่วยงานในกำกับของกระทรวงการคลัง ที่มีภารกิจในการบริหารจัดการที่ราชพัสดุกว่า 12.5 ล้านไร่ให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและเกิดประโยชน์สูงสุด ทั้งในเชิงเศรษฐกิจ สังคม การท่องเที่ยว การอนุรักษ์ และศูนย์ราชการ ได้ร่วมกับจังหวัดนครพนม ขับเคลื่อนโครงการเปลี่ยนชุมชน เป็นที่ประชุมและตลาดนัดในที่ราชพัสดุ บนที่ดินราชพัสดุหมายเลขทะเบียนที่ นพ. 1 ตำบลในเมือง อำเภอเมืองนครพนม จังหวัดนครพนม ซึ่งมีเนื้อที่ประมาณ 0-3-0 ไร่ ปัจจุบันใช้ประโยชน์ในราชการเทศบาลเมืองนครพนม โดยในโอกาสนี้ได้ร่วมประชุมเพื่อรับฟังปัญหาและอุปสรรค รวมถึงแนวทางในการแก้ไขจากเจ้าหน้าที่กรมธนารักษ์และคณะผู้บริหารการคลังประจำจังหวัดนครพนม ก่อนที่จะมอบนโยบายให้กับทุกคนในการใช้สถานที่แห่งนี้ให้เกิดประโยชน์อย่างสูงสุด สมดังวัตถุประสงค์ของโครงการและมีความยั่งยืนต่อไปในอนาคต คือใช้สถานที่แห่งนี้เป็นที่ประชุมของส่วนราชการ ที่เปิดโอกาสให้ประชาชนในพื้นที่ได้นำสินค้ามาจำหน่ายภายในตลาดที่ราชพัสดุอันจะนำมาซึ่งรายได้ของทุกคน โดยให้หน่วยงานราชการในสังกัดนำองค์ความรู้ วิธีการเข้าถึงแหล่งเงินทุน รวมถึงข้อมูลข่าวสารด้านต่าง ๆ มาถ่ายทอดแก่ประชาชนที่มาจำหน่ายและจับจ่ายเลือกหาสินค้าที่ถูกใจ

มูลนิธิพระยาภิรมย์ภักดี มอบเสื้อกันหนาว 4,000 ตัว ช่วยผู้ประสบภัยจังหวัดนครพนม


วันที่ 25 ธันวาคม 2562 ที่จังหวัดนครพนม นางวิมลา ไตรทศาวิทย์ ที่ปรึกษากรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท บุญรอดบริวเวอรี่ จำกัด พร้อมคณะนักศึกษาสิงห์อาสา เป็นตัวแทนมูลนิธิพระยาภิรมย์ภักดี และบริษัทบุญรอดบริวเวอรี่ จำกัด เดินทางมามอบเสื้อกันหนาว ซึ่งมีลักษณะเป็นผ้าขุดขน เนื้อด้านในนิ่ม ด้านนอกกันลมได้เป็นอย่างดี ให้กับประชาชนผู้ประสบภัยหนาวในพื้นที่จังหวัดนครพนม โดยแบ่งออกเป็นมอบให้จังหวัดนครพนม ที่มีนายรังสรรค์ คัมภิรานนท์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนมเป็นตัวแทนรับมอบ จำนวน 200 ตัว เพื่อสำรองไว้ใช้ในกรณีฉุกเฉินสำหรับช่วยผู้ประสบภัยหนาวในพื้นที่ จากนั้นได้เดินทางไปมอบเสื้อกันหนาวให้กับประชาชนอำเภอเมือง จำนวน 1,300 ตัว ที่อาคารเอนกประสงค์หมู่บ้านมิตรภาพไทย - เวียดนาม บ้านนาจอก แล้วเดินทางไปมอบให้ประชาชนอำเภอเรณูนคร ที่หอประชุมที่ว่าการอำเภอเรณูนครอีก จำนวน 1,200 ตัว และมอบให้กับประชาชนผู้ประสบภัยหนาวอำเภอธาตุพนม ที่อาคารโดมกีฬาวิทยาลัยธาตุพนม จำนวน 1,300 ตัว รวมทั้งสิ้น 4,000 ตัว

สำหรับสภาพอากาศในพื้นที่จังหวัดนครพนมที่ผ่านมา ห่วงระหว่างวันที่ 1-14 ธันวาคม 2562 ประชาชนจังหวัดนครพนมต้องประสบกับสภาพอากาศที่หนาวเย็นและมีลมกรรโชกแรงอย่างต่อเนื่องหลายวัน โดยอุณหภูมิเฉลี่ยต่ำสุดอยู่ที่ประมาณ 7.5 องศาเซลเซียส ส่งผลให้กับประชาชนในทุกๆ อำเภอได้รับความเดือดร้อน และจากการคาดการหมายลักษณะอากาศของกรมอุตุนิยมวิทยา ในช่วงระหว่างวันที่ 24-26 ธันวาคม 2562 ภาคตะวันออกเฉียงเหนือจะมีอากาศเย็นอุณหภูมิลดลง 2-4 องศาเซลเซียส โดยอุณหภูมิต่ำสุด 15-22 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-34 องศาเซลเซียส บริเวณยอดภูมีอากาศหนาวอุณหภูมิต่ำสุด 9-15 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10-30 กม./ชม. ประกอบกับสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดนครพนม ได้มีการสำรวจเกี่ยวกับความต้องการเครื่องกันหนาวของประชาชน พบว่าในพื้นที่ทั้ง 12 อำเภอ ยังคงมีความต้องการมากถึง 132,072 ราย ดังนั้นมูลนิธิพระยาภิรมย์ภักดี และบริษัทบุญรอดบริวเวอรี่ จำกัด ที่ได้ตระหนักถึงความเดือดร้อนของประชาชน จึงได้เดินทางมามอบเสื้อกันหนาวให้กับชาวจังหวัดนครพนม ได้ใส่เพื่อเพิ่มความอบอุ่นให้กับร่างกายในวันนี้

วันอังคารที่ 24 ธันวาคม พ.ศ. 2562

จ.นครพนม ปล่อยแถวระดมกวาดล้างอาชญากรรมรับเทศกาลคริสต์มาสและปีใหม่ 2563

วันที่ 24 ธันวาคม 2562 ที่บริเวณหน้าสถานีตำรวจภูธรเมืองนครพนม จังหวัดนครพนม นายสยาม ศิริมงคล ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม พร้อมด้วย พลตรี สามารถ จินตสมิทธิ์ ผู้บังคับการมณฑลทหารบกที่ 210 พลตำรวจตรี ธนชาติ รอดคลองตัน ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครพนม พลเรือตรี สมพลษ์ ศรอากาศ ผู้บัญชาการหน่วยเรือรักษาความสงบเรียบร้อยตามลำแม่น้ำโขง ร่วมปล่อยแถวกำลังพล สายตรวจรถจักรยานยนต์ สายตรวจรถยนต์ และสายตรวจเดินเท้า ของหน่วยงานต่าง ๆ ประกอบไปด้วย มณฑลทหารบกที่ 210  หน่วยเรือรักษาความสงบเรียบร้อยตามลำน้ำโขง ฝ่ายปกครองจังหวัดนครพนม กองกำกับการสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดนครพนม สถานีตำรวจภูธรเมืองนครพนม ตำรวจตระเวนชายแดนที่ 236 นครพนม ตำรวจท่องเที่ยวนครพนม ตำรวจทางหลวงนครพนม ตำรวจน้ำนครพนม ตรวจคนเข้าเมืองนครพนม ตำรวจเทศกิจเทศบาลเมืองนครพนม โรงพยาบาลนครพนม และหน่วยกู้ภัยจังหวัดนครพนม ที่ได้มีการบูรณางานร่วมกันในการระดมกวาดล้างอาชญากรรมช่วงเทศกาลคริสต์มาสและปีใหม่ 2563 ระหว่างวันที่ 24 ธันวาคม 2562 – 2 มกราคม 2563

โดยการปล่อยแถวระดมกวาดล้างอาชญากรรมในครั้งนี้ มีทั้งมาตรการป้องกันปราบปรามอาชญากรรมและมาตรการอำนวยความสะดวกด้านการจราจรให้ประชาชนและนักท่องเที่ยวที่เดินทางมายังจังหวัดนครพนม ให้ได้รับความปลอดภัยจากปัญหาอาชญากรรม ปัญหาการจราจร รวมถึงอันตรายที่อาจจะเกิดจากการเล่นดอกไม้เพลิง พลุ ประทัด และโคมลอย การติดตามจับกุมกลุ่มมิจฉาชีพและผู้มีคดีค้างเก่าที่จะฉวยโอกาสเข้ามาก่อเหตุความไม่สงบ เหตุไม่พึงประสงค์ทุกรูปแบบในพื้นที่ เป็นการสร้างความอุ่นใจให้กับประชาชนทุกคน เนื่องจากห่วงดังกล่าวมีวันหยุดติดต่อกันหลายวัน ทำให้ประชาชนเดินทางกลับบ้านและออกท่องเที่ยวตามสถานที่ต่าง ๆ ทั้งนี้ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนมได้เน้นย้ำในการปฏิบัติหน้าที่ของกำลังพลทุกนายให้ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความระมัดระวัง

เลขาธิการ สทนช. นำอธิบดี สปป.ลาว ลงพื้นที่นครพนม แจงโครงการไฟฟ้าพลังน้ำเขื่อนหลวงพระบางพร้อมรับฟังความคิดเห็น


วันที่ 24 ธันวาคม 2562 ที่ศูนย์ประชุมหนองบึก สหกรณ์ออมทรัพย์ครูนครพนม อำเภอเมือง จังหวัดนครพนม ดร.สมเกียรติ ประจำวงษ์ เลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ พร้อมด้วย ดร. จันสะแหวง บุนยง อธิบดีกรมนโยบายและแผนพลังงาน สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ลงพื้นที่จัดเวทีให้ข้อมูลเกี่ยวกับโครงการไฟฟ้าพลังงานน้ำเขื่อนหลวงพระบาง ตามระเบียบปฏิบัติของคณะกรรมาธิการแม่น้ำโขง เรื่องการแจ้ง การปรึกษาหารือล่วงหน้าและข้อตกลง ครั้งที่ 1 เพื่อให้ประชาชนริมแม่น้ำโขง 8 จังหวัด ที่อาจได้รับผลกระทบจากโครงการได้รับทราบข้อมูล ข้อห่วงใย ข้อกังวลและผลกระทบที่จะเกิดขึ้น รวมถึงหน่วยงานในพื้นที่ได้ทราบข้อมูล องค์ประกอบและการพัฒนาโครงการ และเปิดโอกาสให้ทุกคนได้แสดงความคิดเห็นในประเด็นข้อห่วงกังวลต่อผลกระทบสะสมและข้ามพรมแดนของโครงการต่อพื้นที่ท้ายน้ำ ต่อคนในท้องถิ่น เช่น ปัญหาภัยแล้ง น้ำท่วม ระบบนิเวศน์ในลำน้ำโขงที่อาจเกิดขึ้นจากการพัฒนาโครงการ ก่อนที่จะรวบรวมข้อมูลทั้งหมดไปกำหนดเป็นท่าทีประเทศไทยส่งผ่านกลไก Procedures for Notification, Prior Consultation and Agreement (PNPCA) ไปยังสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาวซึ่งเป็นเจ้าของโครงการ และปรึกษาหารือร่วมกันกับสมาชิกลุ่มน้ำโขง 4 ประเทศ คือ กัมพูชา สปป.ลาว ไทย และเวียดนาม เพื่อจัดทำแผนปฏิบัติการร่วมกัน โดยมีนายสยาม ศิริมงคล ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม พร้อมด้วยผู้แทนหน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้อง คณะกรรมการลุ่มน้ำและผู้แทนภาคประชาชนในพื้นที่จังหวัดนครพนม หนองคายและจังหวัดบึงกาฬ ร่วมรับฟังและเสนอแนะข้อคิดเห็นต่าง ๆ


สำหรับโครงการพลังงานน้ำเขื่อนหลวงพระบาง เป็นโครงการลำดับที่ 5 ที่สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาวมีแผนจะก่อสร้างบนแม่น้ำโขง บริเวณบ้านห้วยโง แขวงหลวงพระบาง ห่างจากปากแม่น้ำอูเหนือขึ้นมาประมาณ 4 กิโลเมตร ห่างจากเขื่อนไชยะบุรี 130 กิโลเมตร และห่างจากจุดก่อสร้างโครงการเขื่อนปากแบง 170 กิโลเมตร โดยจะเป็นเขื่อนแบบขั้นบันได ลำดับที่ 2 ในลุ่มน้ำโขงตอนล่าง มีความสูง 79 เมตร เป็น Barrage type กว้าง 195 เมตร มีทางระบายน้ำ 6 ช่อง ระดับต่ำ 3 ช่อง ขนาดประตู 19 เมตร สูง 25 เมตร มีระดับการกักเก็บน้ำอยู่ที่ 312 - 312.5 ม.รทก. ซึ่งการดำเนินการดังกล่าวเป็นประเด็นที่ภาคประชาชนและประชาสังคมให้ความสนใจเป็นอย่างยิ่ง โดยเฉพาะจังหวัดที่มีพื้นที่ติดแม่น้ำโขงของไทยทั้ง 8 จังหวัด ดังนั้นสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ ในฐานะสำนักเลขาธิการคณะกรรมการแม่น้ำโขงแห่งชาติไทย ที่ทำหน้าที่เป็นหน่วยงานประสานงาน ภายใต้กรอบความร่วมมือ MRC จึงได้จัดเวทีให้ข้อมูลโครงการดังกล่าวขึ้น โดยจะมีทั้งสิ้น 3 ครั้งและครั้งนี้เป็นครั้งที่ 1



วันจันทร์ที่ 23 ธันวาคม พ.ศ. 2562

มูลนิธิคุณพุ่ม มอบทุนการศึกษาเด็กออทิสติกและเด็กพิการ จังหวัดนครพนม


วันที่ 23 ธันวาคม 2562 ที่ศูนย์การศึกษาพิเศษประจำจังหวัดนครพนม นางวิไลวรรณ ไกรโสดา รองผู้ราชการจังหวัดนครพนม เป็นประธานประกอบพิธีมอบทุนการศึกษาในมูลนิธิคุณพุ่ม ประจำปี 2562 แก่เด็กออทิสติกและเด็กพิการในพื้นที่จังหวัดนครพนม จำนวน 111 ทุน โดยมีคณะผู้บริหาร ครู เจ้าหน้าที่ ผู้ปกครองและนักเรียนศูนย์การศึกษาพิเศษประจำจังหวัดนครพนมร่วมพิธี ทั้งนี้นางสาวละอองดาว ไชยศรี ได้เป็นตัวแทนผู้ปกครอง เด็กออทิสติกและเด็กพิการจังหวัดนครพนมที่เข้ารับทุน กล่าวสำนึกในพระกรุณาธิคุณ ใจความว่า ในนามผู้รับประทานทุนการศึกษาจากมูลนิธิคุณพุ่ม มีความซาบซึ้งในพระกรุณาธิคุณของทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี เป็นอย่างยิ่ง ที่ทรงเล็งเห็นความต้องการจำเป็นพิเศษทางการศึกษาที่มีต่อการดำรงชีวิตของคนพิการ ซึ่งต้องได้รับการพัฒนาศักยภาพด้านต่างๆ ให้สามารถอยู่ร่วมกับคนปกติในสังคมอย่างมีความสุข ซึ่งการพัฒนาศักยภาพผู้พิการแต่ละครั้งมีค่าใช้จ่ายมากกว่าคนปกติหลายเท่า ทำให้พ่อแม่ผู้ปกครองต้องมีภาระเพิ่มขึ้น ซึ่งการได้รับประทานทุนในครั้งนี้จะเป็นการช่วยแบ่งเบาภาระต่างๆ ที่พ่อแม่ผู้ปกครองต้องดูแลได้ระดับหนึ่ง ข้าพระพุทธเจ้า สำนึกในพระกรุณาธิคุณ และสัญญาว่าจะนำทุนการศึกษาที่ได้รับในครั้งนี้ ไปใช้ให้เกิดประโยชน์อย่างคุ้มค่าสูงสุด เพื่อให้ผู้พิการได้รับการพัฒนา ตามศักยภาพของตนเอง ตามพระประสงค์ของทูลกระหม่อมฯ และวัตถุประสงค์ของมูลนิธิคุณพุ่มต่อไป   
        
ด้านนายสุพจน์ ชะพินใจ ผู้อำนวยการศูนย์การศึกษาพิเศษประจำจังหวัดนครพนม เปิดเผยว่า จากที่ทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี ทรงงานตามรอยเบื้องพระยุคลบาท ในการพัฒนาสังคมเพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นของพสกนิกรชาวไทย ควบคู่ไปกับพระปรีชาสามารถและความเข้าใจในฐานะพระมารดาที่ดูแลเอาใจใส่พัฒนาการเรียนรู้ของพระโอรสอย่างใกล้ชิด ทรงเล็งเห็นว่าเด็กและเยาวชน คนพิการ ยังไม่ได้รับโอกาสในด้านต่างๆ อย่างทั่วถึงและเท่าเทียม ทั้งยังทรงห่วงใยเด็ก เยาวชน ผู้ด้อยโอกาสและผู้ยากไร้ทางสังคม จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าประทานทุนทรัพย์ส่วนพระองค์เป็นเงินทุนแรกเริ่มสำหรับจดทะเบียนก่อตั้งเป็นมูลนิธิคุณพุ่มเพื่อเป็นอนุสรณ์ถึงคุณพุ่มพระโอรส โดยทรงดำรงตำแหน่ง องค์ประธานกรรมการมูลนิธิ และเพื่อสนับสนุนการพัฒนาเด็กออทิสติกและเด็กพิการในจังหวัดนครพนม มูลนิธิคุณพุ่มจึงได้พิจารณาจัดสรรทุนการศึกษา จำนวน 111 ทุนๆ ละ 5,000 บาท มามอบให้ในครั้งนี้

วันพุธที่ 18 ธันวาคม พ.ศ. 2562

จากการเจ็บป่วยสู่ผลิตภัณฑ์สมุนไพรชุมชน มาตรฐาน อย.


วันที่ 18 ธันวาคม 2562 ที่อำเภอท่าอุเทน จังหวัดนครพนม นางปิ่นแก้ว มาสกุล ประธานกลุ่มวิสาหกิจชุมชนสบู่สมุนไพร g - ya เปิดเผยว่า จุดเริ่มต้นของการทำผลิตภัณฑ์สบู่สมุนไพร g - ya เริ่มจากที่ตนเองมีสุขภาพไม่แข็งแรง จึงพยายามหายาที่เป็นพืชสมุนไพรและพืชออแกนิคมารับประทาน กระทั่งได้พบกับเห็ดหลินจือที่มีสรรพคุณมากมาย ทั้งเป็นยาบำรุงร่างกาย ช่วยทำให้ผิวพรรณเปล่งปลั่ง ความจำดีขึ้น ส่งเสริมระบบการไหลเวียนของเลือด กล้ามเนื้อหัวใจ บำรุงรักษาสายตา รักษาแผลในกระเพาะอาหารและลำไส้ และเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันให้ร่างกายแข็งแรงจึงได้หามารับประทาน ซึ่งผลปรากฎว่าร่างกายเริ่มดีขึ้นจึงมีความคิดริเริ่มที่จะปลูกเอง เพราะนั่นหมายถึงค่าใช้จ่ายที่ลดลง โดยช่วงแรกก็ปลูกในโรงเรือนแต่ไม่ใหญ่มากนัก เมื่อเพื่อนบ้านเห็นเราสุขภาพร่างกายแข็งแรงขึ้นก็สอบถามกันมา จึงได้แนะนำให้ลองนำเห็ดหลินจือไปรับประทาน จึงกลายเป็นการบอกแบบปากต่อปากไปเรื่อย และเมื่อความต้องการสูงขึ้นหน่วยงานภาคราชการเข้ามาสนับสนุนในส่วนต่าง ๆ จึงได้รวมกลุ่มกันผลิตกลายเป็นวิสาหกิจชุมชนที่ทำรายได้ให้กับทุกคนเป็นอย่างดี

ซึ่งหลักการที่สมาชิกในกลุ่มเน้นย้ำเสมอ ก็คือการรักษาความสะอาด ไม่มีสารเคมี และต้องมีความปลอดภัย เริ่มตั้งแต่โรงเรือน เครื่องมือและอุปกรณ์ในการเพาะเลี้ยง ขั้นตอนและกรรมวิธีในการดูแลไปจนถึงการแปรรูปผลิตภัณฑ์ที่ต้องเป็นไปตามแบบที่สาธารณสุขกำหนดทุกอย่าง จนปัจจุบันทางกลุ่มได้รับการรับรองมาตรฐานอาหารและยา (อย.) ภายใต้ชื่อ วิสาหกิจชุมชนสบู่สมุนไพร g-ya  จากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาแล้ว 1 ตัวคือเห็ดหลินจืออบแห้ง และเพื่อเป็นการเพิ่มทางเลือกให้กับลูกค้า ทางกลุ่มก็ได้มีการต่อยอดผลิตภัณฑ์ขยายไปในรูปแบบต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น น้ำดื่มเห็ดหลินจือ ขนมเบเกอรี่ที่มีส่วนผสมเห็ดหลินจือ รวมถึงสบู่สมุนไพรอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็น สบู่ขมิ่นชัน สบู่กากกาแฟ สบู่มะขาม-น้ำผึ้ง ส่วนราคาจำหน่ายนั้นเห็ดหลินจืออบแห้งจะจำหน่ายซองละ 150 บาท ซาเห็ดหลินจือจำหน่ายที่ราคา 200 บาท น้ำเห็ดราคาขวดละ 15 บาท เค้กกล้วยหอมราคาแพคละ 35 บาท ถ้าซื้อ 3 แพคราคาจะอยู่ที่ 100 บาท ส่วนสบู่ชนิดต่าง ๆ จะจำหน่ายในราคาก้อนละ 90 บาท แต่ถ้าซื้อเป็นชุดของขวัญที่จำหน่ายชุดละ 500 บาท จะคุ้มกว่าเพราะเฉลี่ยแล้วตกก้อนละ 80 กว่าบาทเท่านั้น ซึ่งผู้ที่สนใจสามารถเข้ามาดูรายระเอียดเพิ่มเติมและสั่งจองได้ทางหน้าเพจสบู่สมุนไพร g-ya หรือโทร 094-5582477,081-9841850 ติดต่อมาที่กลุ่มวิสาหกิจชุมชนสบู่สมุนไพร g-ya  เลขที่ 11 หมู่ที่ 3 ตำบลพนอม อำเภอท่าอุเทน จังหวัดนครพนม ก็ได้เช่นเดียวกัน

วันอังคารที่ 17 ธันวาคม พ.ศ. 2562

มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง มอบผ้าห่มกันหนาวและเครื่องอุปโภค บริโภคช่วยผู้ประสบภัยจังหวัดนครพนม


วันที่ 17 ธันวาคม 2562 ที่จังหวัดนครพนม นายสยาม ศิริมงคล ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม พร้อมด้วย คณะผู้บริหารมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง สมาคมพ่อค้าจังหวัดนครพนม เหล่ากาชาดจังหวัดนครพนม ได้เดินทางไปมอบผ้าห่มกันหนาวและเครื่องอุปโภค บริโภคแก่ผู้ประสบภัยหนาวของจังหวัดนครพนม ประกอบไปด้วย อำเภอโพนสวรรค์ จำนวน 400 ชุด อำเภอนาหว้า จำนวน 300 ชุดและอำเภอปลาปาก จำนวน 300 ชุด รวมทั้งสิ้น 1,000 ชุด

โดยในห่วงระหว่างวันที่ 1-14 ธันวาคม 2562 ประชาชนจังหวัดนครพนมต้องประสบกับสภาพอากาศที่มีความหนาวเย็นอย่างต่อเนื่องหลายวันอีกทั้งมีลมกรรโชกแรงในช่วงเวลากลางคืน โดยอุณหภูมิเฉลี่ยต่ำสุดอยู่ที่ประมาณ 7.5 องศาเซลเซียส แม้ปัจจุบันอุณหภูมิจะเพิ่มสูงขึ้นแต่ยังคงหนาวเย็นในช่วงเวลากลางคืน โดยแต่ละพื้นที่มีอุณหภูมิระหว่าง 14 - 24 องศาเซลเซียส และส่งผลให้กับประชาชนในทุกๆ อำเภอได้รับความเดือดร้อน โดยจากการสำรวจของสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดนครพนมเกี่ยวกับความต้องการเครื่องกันหนาวพบว่าประชาชนในพื้นที่ 12 อำเภอยังคงมีความต้องการรวมทั้งสิ้น 132,072 ราย ดังนั้นมูลนิธิป่อเต็กตึ้ง และสมาคมพ่อค้าจังหวัดนครพนม จึงได้จัดทำโครงการแจกผ้าห่มพร้อมเครื่องอุปโภค บริโภคแก่ผู้ประสบภัยหนาวจังหวัดนครพนมขึ้นเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนขึ้น โดยมีการคัดเลือกพื้นที่ที่มีความจำเป็นเร่งด่วนก่อนและได้ร่วมกันเดินทางมามอบให้ในวันนี้

จ.นครพนม นำผลงานคนพิการโชว์วันคนพิการสากล สร้างการรับรู้และสนับสนุนในระดับพื้นที่


วันที่ 17 ธันวาคม 2562 ที่หอประชุมหนองบึก ชั้น 3 สหกรณ์ออมทรัพย์ครูนครพนม ตำบลหนองแสง อำเภอเมือง จังหวัดนครพนม นายรังสรรค์ คัมภิรานนท์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม เป็นประธานเปิดงานวันคนพิการสากล ประจำปี 2562 ที่จังหวัดนครพนม โดยสำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดนครพนมจัดขึ้น เพื่อส่งเสริมให้คนพิการได้มีส่วนร่วมในกิจกรรมทางสังคม และเปิดโอกาสในคนพิการได้แสดงความสารมารถและศักยภาพให้ประชาชนทั่วไปได้เห็น และเกิดเจตคติเชิงที่ดี ที่สร้างสรรค์ต่อคนพิการ เกิดการยอมรับคนพิการในฐานะที่เป็นทรัพยากรที่มีคุณค่าของสังคมที่ยังสามารถใช้สติปัญญาและความเชี่ยวชาญในการทำงานเลี้ยงตนเองและครอบครัว ทั้งยังเป็นกำลังสำคัญในการพัฒนาสังคมและประเทศชาติ

โดยกิจกรรมในวันนี้ประกอบไปด้วย การจัดนิทรรศการโชว์และจำหน่ายสินค้าของผู้พิการ กลุ่มคนพิการ ที่ได้ใช้เวลาว่างผลิตผลงาน ชิ้นงานต่างๆ ให้กับผู้ที่มาร่วมงาน ซึ่งสินค้าก็มีให้เลือกอย่างหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นเครื่องจักสาน พวงกุญแจ ดอกไม้ กระเป๋าถือ ของชำร่วย ผ้าทอ ยาสมุนไพร ของที่ระลึกที่เป็นพระธาตุพนมจำลอง ตลอดจนผลผลิตทางการเกษตรที่แปรรูปแล้ว โดยราคาเริ่มต้นที่ 20 บาท นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมให้ผู้พิการได้แสดงความสามารถในด้านต่างๆ เช่น การร่ายรำ การร้องเพลง การนวดผ่อนคลายความเครียด การทำกิจกรรมชิงโชคของรางวัลที่หน่วยงานต่าง ๆ นำมาสนับสนุน เช่น ตู้เย็น โทรทัศน์ พัดลม จักรยานและของอื่น ๆ อีกมากมาย รวมถึงการมอบเกียรติบัตรและช่อดอกไม้แก่คนพิการดีเด่นที่ประสบความสำเร็จในชีวิต บุคคลและหน่วยงานที่ให้การสนับสนุนงานด้านคนพิการ มอบสิ่งอำนวยความสะดวกคนพิการ มอบใบอนุญาตจัดตั้งศูนย์บริการคนพิการทั่วไป และมอบเงินเพื่อปรับปรุงที่อยู่อาศัยสำหรับคนพิการ

ทั้งนี้วันคนพิการสากล ซึ่งตรงกับวันที่ 3 ธันวาคมของทุกปี เป็นวันสำคัญระหว่างประเทศที่สหประชาชาติได้มีการส่งเสริมให้มีการเฉลิมฉลองและเชิญชวนให้ประเทศสมาชิกร่วมกัน จัดกิจกรรมต่างๆ เพื่อให้คนพิการได้มีส่วนร่วมในกิจกรรมทางสังคม มีโอกาสได้แสดงศักยภาพ ทำให้เกิดเจตคติเชิงสร้างสรรค์ต่อคนพิการและความพิการ เกิดการยอมรับคนพิการในฐานะที่เป็นทรัพยากรที่มีคุณค่าของสังคม มาตั้งแต่ปี 2535 โดยในปีนี้จังหวัดนครพนมจัดงานคนพิการสากล ประจำปี 2562 ภายใต้แนวคิด เราจะไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง สร้างการมีส่วนร่วม เสริมความเป็นผู้นำคนพิการ สู่เป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน 2030  

ประชาชนคือศูนย์กลางการทำงาน กับรางวัลแห่งความโปร่งใสระดับประเทศของจังหวัดนครพนม


ปัญหาการทุจริตคอรัปชั่นมีหลากหลายรูปแบบ ทั้งการทุจริตเชิงนโยบาย การทุจริตต่อตำแหน่งหน้าที่ การทุจริตในการจัดซื้อจัดจ้าง หรือแม้แต่ การทุจริตโดยการทำลายระบบการตรวจสอบ ซึ่งกลายเป็นปัญหาใหญ่ที่มีอยู่ทั่วโลก และในสังคมไทยซึ่งเป็นสังคมของการเอื้ออาทร สังคมของการอุปถัมภ์ทำให้หลายคนอาจจะมองว่าไม่สำคัญ เพราะคิดว่าไม่ใช่ปัญหาของตัวเอง ไม่ใช่เรื่องใกล้ตัว ทั้งที่ในความเป็นจริงแล้ว เป็นปัญหาสำคัญที่ส่งผลกระทบต่อการพัฒนาประเทศเป็นอย่างมาก และรัฐบาลก็ได้ให้ความสำคัญกับปัญหาดังกล่าว โดยได้มีแผนยุทธศาสตร์ว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริตที่มุ่งเน้นการสร้างธรรมาภิบาลในการบริหารงาน วันนี้เรามาลองติดตามดูว่าจังหวัดนครพนม มีหลักคิดในการดำเนินงานกันอย่างไร เพื่อสร้างสังคมที่ใสสะอาด ไม่มีการทุจริตคอรัปชั่น จนได้รับรางวัล Integrity and Transparency Assessment : ITA ในระดับ AA ซึ่งเป็นเพียงจังหวัดเดียวที่ได้รับรางวัลนี้

นายสยาม ศิริมงคล ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม เปิดเผยว่า หลักการทำงานของจังหวัดนครพนมนั้นมุ่งที่จะตอบสนองต่อแก้ไขปัญหาและตอบสนองต่อความต้องการของพี่น้องประชาชนชนตั้งแต่ระดับผู้บริหาร ไม่ว่าจะเป็น ผู้ว่าราชการจังหวัด รองผู้ว่าราชการจังหวัด หรือหัวหน้าส่วนราชการต่าง ๆ ทำให้การดำเนินงานประสบผลสัมฤทธิ์ ซึ่งตนเองคิดว่าการทำงานใด ๆ ถ้าเรามุ่งที่จะตอบสนองต่อพี่น้องประชาชน การทำงานนั้นจะเกิดความโปร่งใสและก็มีประสิทธิภาพขึ้นมาโดยอัตโนมัติ โดยการประเมินคุณธรรมและความโปร่งใสในการทำงานของหน่วยงานภาครัฐประจำปี 2562 ที่ได้รับรางวัล ITA ในครั้งนี้ขอเรียนตามตรง ๆ ว่าจังหวัดไม่ได้ทราบว่า การประเมินจะเข้ามาช่วงไหนหรือใช้รูปแบบอะไรบ้าง รายละเอียดของการประเมินเป็นอย่างไร เพราะเป็นการประเมินโดยหน่วยงานภายนอก คือ ป.ป.ช. เป็นผู้ประเมิน แต่อย่างไรก็ตามจากผลการประเมินนั้นเป็นที่รับรู้รับทราบโดยทั่วกันของพี่น้องชาวนครพนมและส่วนราชการต่าง ๆ ว่าเป็นหน่วยงานที่มีการประเมินคุณธรรมและความโปร่งใสในการทำงานของหน่วยงานภาครัฐประจำปี 2562 ที่ได้รับรางวัล ซึ่งการดำเนินงานในระยะต่อไป ก็จะยังคงรูปแบบและลักษณะของการทำงานแบบเดิมไว้ คือมุ่งที่จะให้พี่น้องประชาชนเป็นศูนย์กลางการทำงานของหน่วยงานราชการ และขอให้พี่น้องประชาชนชาวจังหวัดนครพนมมีความภาคภูมิใจและมีความไว้วางใจในหน่วยงานราชการของจังหวัดนครพนม ว่าหน่วยงานราชการ ข้าราชการทั้งหมดจะทำงานเพื่อที่จะตอบสนองต่อปัญหาความต้องการของประชาชนให้ดีที่สุดในทรัพยากรที่มีอยู่

และนี้คือหลักคิดดี ๆ ที่ใช้ในการดำเนินงาน เพื่อสร้างสังคมที่ไม่มีการทุจริตคอรัปชั่น ทำให้ประชาชนชาวจังหวัดนครพนมมีความสุข มีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นในรอบปีที่ผ่านมา

วันจันทร์ที่ 16 ธันวาคม พ.ศ. 2562

3 มาตรการ กับการแก้ปัญหาที่อาจจะเกิดความรุนแรงในโรงพยาบาล


โรงพยาบาลเป็นสถานที่ที่ทุกคนต้องเข้าไปรับการรักษาเมื่อมีอาการเจ็บป่วย ซึ่งในปัจจุบันเรามักจะเห็นว่ามีเหตุการณ์และข่าวความรุนแรงในโรงพยาบาลอยู่บ่อยครั้ง วันนี้เรามาลองติดตามดูว่าผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้อง มีการเตรียมพร้อมและรับมือกับปัญหากันอย่างไร

นายแพทย์ จิณณพิภัทร ชูปัญญา นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดนครพนม เปิดเผยว่า การเตรียมความพร้อมรับกรณีดังกล่าวที่อาจจะเกิดขึ้นนั้น ทางจังหวัดนครพนมได้มีการเชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ไม่ว่าจะเป็น ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลชุมชน หัวหน้ากลุ่มงานบริหารในสังกัดกระทรวงสาธารณสุขจังหวัดนครพนม มาปรึกษาหารือร่วมกันว่าจะเตรียมพร้อมอย่างไง ซึ่งที่ประชุมได้มีข้อสรุปที่จะทำร่วมกัน 3 มาตรการ คือด้านสถานที่ ซึ่งได้มีการตรวจเช็คทุกโรงพยาบาล 12 แห่งแล้วว่า มีการติดกล้องวงจรปิดและใช้ได้ทุกแห่งเพียงพอในทุกโรงพยาบาล มีการตรวจเช็คระบบการเข้าออกในห้องฉุกเฉินโรงพยาบาล ซึ่งต้องสามารถเข้าออกได้ 2 ทางเป็นอย่างน้อย รวมถึงให้จัดสถานที่พักรอสำหรับญาติผู้ป่วยที่ตามมาอย่างเพียงพอ  มาตรการที่ 2 คือมาตรฐานการรักษาความปลอดภัย ซึ่งก็ได้มีการซ้อมแผนกรณีที่เกิดเหตุขึ้นในโรงพยาบาล ว่าจะต้องทำอย่างไรเพื่อเป็นการเตรียมความพร้อม ทั้งนี้ได้เน้นย้ำตลอดเวลาว่าระบบการรักษาของโรงพยาบาลต้องมีความพร้อมเสมอ ทั้งในช่วงเทศกาลปีใหม่หรือเทศกาลงานบุญงานประเพณีในแต่ละพื้นที่ โดยอัตรากำลังเจ้าหน้าที่ต้องพร้อม มีการจัดตั้งทีมเสริมถ้าเกิดกรณีฉุกเฉินสามารถเรียกได้ตลอด 24 ชั่วโมง รวมทั้งให้หัวหน้าฝ่ายการพยาบาลเข้ามาทำหน้าที่พูดคุยกับคนไข้และญาติคนไข้เพื่อให้ข้อมูลอยู่ตลอดเวลาเป็นการคลายความวิตกกังวล และถ้ามีกรณีการชกต่อยกันมา จะแยกการรักษาไปคนละที่ เช่น แยกโรงพยาบาล แต่ถ้าแยกไม่ได้จะแยกห้องตรวจ เพื่อไม่ให้เกิดการปะทะอย่างที่เคยเกิดเหตุการณ์ในที่อื่น ๆ นอกจากนั้นยังให้มีการจัดเวรยาม 24 ชั่วโมง เพื่อเป็นขวัญกำลังใจให้เจ้าหน้าที่พยาบาล ทั้งยังได้มีการสั่งการประสานกับทีมท้องถิ่นท้องที่ เช่น อปพร. อสม. เพื่อจัดอัตรากำลังเสริมในกรณีที่โรงพยาบาลมีอัตรากำลังน้อยหรือเจ้าหน้าที่ไม่เพียงพอ 

และอีกหนึ่งโมเดลสำคัญของจังหวัดที่ได้มีการพูดคุยกับทางผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครพนม คือท่านได้กรุณาจัดนายตำรวจสัญญาบัตร 1 นาย และนายตำรวจชั้นประทวนอีก 6 นาย ให้ไปประจำทุกโรงพยาบาล 12 แห่ง ในช่วงเทศกาลปีใหม่ ตั้งแต่วันที่ 27 ธันวาคม 2562 ถึงวันที่ 2 มกราคม 2563 แบบอยู่ 24 ชั่วโมง ส่วนวันเวลาปกติที่ไม่อยู่ในช่วงดังกล่าว ก็จะมีเบอร์โทรประสานที่สามารถติดต่อได้ตลอดเวลาเพื่ออำนวยความสะดวก ให้ความช่วยเหลือ ซึ่งจะเข้ามาสร้างความอุ่นใจให้กับเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานและพี่น้องประชาชนที่มาทำการรักษา ว่าจะไม่เกิดเหตุการณ์ความรุนแรงขึ้น หรือถ้าเกิดขึ้นจริง ก็มีเจ้าหน้าที่ตำรวจที่จะเข้าระงับเหตุได้อย่างทันท่วงที ส่วนมาตรการสุดท้ายคือถ้ามันจำเป็นจริง ๆ และไม่อยากให้เกิด เราจะดำเนินการตามกฎหมายอย่างเฉียบขาด เนื่องจากว่าโรงพยาบาลหรือสถานรักษาพยาบาล ถือเป็นสถานที่ปราศจากความขัดแย้งทั้งหมดทั้งปวง เพราะจะต้องใช้ความรู้ความสามารถ สมาธิในการรักษาคนไข้ ดังนั้นถ้าเกิดมีเรื่องชกต่อย ทะเลาะวิวาทกัน ทำร้ายกันเอง หรือทำลายข้าวของทรัพย์สินทางราชการ ชกต่อยเจ้าหน้าที่ จะมีการดำเนินการแจ้งความทางกฎหมายอย่างเด็ดขาด
เราจะเห็นว่ามาตรการที่ออกนั้นคลอบคลุมทั้งหมด แต่สิ่งที่ดีที่สุดคือการที่เราทุกคนมีน้ำใจ มีจิตสำนึกที่ดี และไม่ก่อความวุ่นวายในสถานที่สำคัญที่เป็นที่พึงของทุกคนในยามฉุกเฉิน

วันอาทิตย์ที่ 15 ธันวาคม พ.ศ. 2562

พลังศรัทธานับหมื่นร่วมกิจกรรมปฏิบัติธรรมบูชาพระธาตุพนม เสริมบุญบารมีรับปีใหม่


วันที่ 15 ธันวาคม 2562 ที่บริเวณวัดพระธาตุพนมมหาวรวิหาร อำเภอธาตุพนม จังหวัดนครพนม บรรยากาศเติมไปด้วยความอิ่มเอิบของพุทธศาสนิกชนนับหมื่นคนที่เดินทางมาร่วมกิจกรรมปฏิบัติธรรมถวายเป็นพุทธบูชาต่อองค์พระธาตุพนม สิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองนครพนม อายุเก่าแก่กว่า 2,500 ปี  และยังเป็นพระบรมเจดีย์ที่สำคัญที่ภายในบรรจุพระอุรังคธาตุหรือกระดูกส่วนหน้าอกของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเอาไว้ ตั้งแต่เมื่อวานที่ผ่านมา โดยทุกคนได้ร่วมกันสวดมนต์ทำวัตรเย็น รับฟังพระธรรมเทศนาและเจริญจิตภาวนาจนข้ามคืนถึงรุ่งเช้าของวันนี้ ก่อนที่พุทธศาสนิกชนทุกคนจะมาร่วมกันกันทำบุญตักบาตร ข้าวสาร อาหารแห้ง แด่พระเทพวรมุนี เจ้าคณะจังหวัดนครพนม เจ้าอาวาสวัดพระธาตุพนมวรมหาวิหาร และพระภิกษุ สามเณร ที่ออกมารับบิณฑบาตรโดยพร้อมเพียงกัน  

 สำหรับกิจกรรมปฏิบัติธรรมถวายเป็นพุทธบูชาต่อองค์พระธาตุพนมนั้น ทางวัดพระธาตุพนมวรมหาวิหาร ได้ร่วมกับพุทธศาสนิกชนในพื้นที่จัดขึ้นเป็นประจำทุกปี เพื่อเป็นการส่งเสริม สนับสนุนให้พุทธศาสนิกชนทุกคนได้เข้าวัด ฟังธรรม ร่วมกันทำนุบำรุงพระศาสนา กล่อมเกลาจิตใจให้เป็นคนดี รู้จักการลดละเลิก อบายมุขทั้งหลายทั้งปวง เสริมสร้างบุญบารมีต้อนรับสิ่งดี ๆ ที่จะเริ่มขึ้นในช่วงเทศกาลปีใหม่

วันเสาร์ที่ 14 ธันวาคม พ.ศ. 2562

นักไตรกีฬากว่า 1,000 ชีวิตร่วมทดสอบความแข็งแกร่งที่นครพนม กับการแข่งขันไตรกีฬานาวีเฉลิมพระเกียรติ ซีซั่น 2 ของกองทัพเรือ


วันที่ 14 ธันวาคม 2562 ที่บริเวณลานพญาศรีสัตตนาคราช อำเภอเมืองนครพนม จังหวัดนครพนม บรรยากาศเป็นไปด้วยความคึกคักของนักไตรกีฬาทั้งของชาวไทยและชาวต่างชาติ กว่า 1,000 ชีวิต ที่เดินทางมาร่วมการแข่งขันไตรกีฬานาวีเฉลิมพระเกียรติ ซีซั่น 2  “มรรควิถีคนกล้า ด้วยรักและศรัทธา ล่องธาราสู่มหาชลธี เดอะซีรีย์”ที่กองทัพเรือจัดขึ้น โดยสนามจังหวัดนครพนม เป็นสนามแรกที่เปิดตัวการแข่งขัน ภายใต้ชื่อรายการ “ถิ่นน้ำสองสี เหล่าราชนาวีเทิดจักรีวงศ์” ซึ่งตั้งแต่เปิดรับสมัครก็ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากนักไตรกีฬา ด้วยหลายคนมองว่าเป็นความท้าทายร่างกายที่แข็งแกร่งกับมาตรฐานการแข่งขันในระดับสากล ที่คำนึงถึงความปลอดภัยเป็นสำคัญ นอกจากนี้ยังจะได้สัมผัสกับบรรยากาศและธรรมชาติที่สวยงามตลอดริมฝั่งแม่น้ำโขงของจังหวัดนครพนม

โดยก่อนการปล่อยตัวการแข่งขัน พลเรือเอก ลือชัย รุดดิษฐ์ ผู้บัญชาการทหารเรือ พร้อมด้วย นายสยาม ศิริมงคล ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม ได้นำคณะนักไตรกีฬาทุกคนประกอบพิธีถวายความเคารพเบื้องหน้าพระบรมฉายาลักษณ์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และกล่าวถวายราชสดุดีเฉลิมพระเกียรติ จากนั้นคณะเจ้าหน้าที่ที่จัดการแข่งขันได้นำนักไตรกีฬาแต่ละประเภทไปประจำจุดการปล่อยตัวกลางลำน้ำโขง โดยเริ่มจากนักกีฬาประเภทไตรกีฬาระยะทางไกล ซึ่งเป็นการว่ายน้ำระยะทาง 3.8 กิโลเมตร เริ่มจากบริเวณหน้าสถานีเรือนครพนม ตามมาด้วยการปล่อยตัวนักกีฬาประเภทไตรกีฬามาตรฐานโอลิมปิก เป็นการว่ายน้ำระยะทาง 1.5 กิโลเมตร ปล่อยตัวที่บริเวณหน้าพิพิธภัณฑ์จวนผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนมหลังเก่า ก่อนที่จะมาปล่อยตัวนักกีฬาประเภทไตรกีฬามือสมัครเล่นและประเภททวิกีฬา ซึ่งเป็นการว่ายน้ำระยะทาง 0.75 กิโลเมตร ปล่อยตัวบริเวณหน้าสถานีตำรวจภูธรจังหวัดนครพนม ทั้งนี้นักกีฬาทุกคนจะว่ายน้ำไปขึ้นฝั่งที่บริเวณท่าเทียบเรือหน้าตลาดอินโดจีน ก่อนที่จะเข้าสู่การแข่งขันปั่นจักยานและวิ่งตามระยะทางที่ตนเองลงสมัคร ซึ่งใช้ถนนทางหลวงหมายเลข 212 ทั้งขาไปและกลับ

วันศุกร์ที่ 13 ธันวาคม พ.ศ. 2562

จ.นครพนม จัดกิจกรรมวันดินโลก เสริมความรู้เกษตรกรในการปกป้องอนาคต ลดการชะล้างดิน


วันที่ 13 ธันวาคม 2562 ที่ศูนย์การเรียนรู้หลักการเกษตรทฤษฎีใหม่ (โคกหนองนาโมเดล) บ้านโพนสวาง หมู่ที่ 4 ตำบลฝั่งแดง อำเภอธาตุพนม จังหวัดนครพนม นายรังสรรค์ คัมภิรานนท์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม เป็นประธานเปิดงานวันดินโลกปี 2562 Stop Soil Erosion save our Future :  ปกป้องอนาคต ลดการชะล้างดิน ที่จังหวัดนครพนม โดยสถานีพัฒนาที่ดินนครพนมจัดขึ้น เพื่อเป็นการน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร  เป็นการเผยแพร่พระราชกรณียกิจด้านการปกป้องและพัฒนาทรัพยากรดินและน้ำ สร้างให้ทุกคนได้ตระหนักถึงความสำคัญของทรัพยากรดินต่อการพัฒนาด้านการเกษตร โภชนาการ และความมั่นคงทางอาหาร การรับรู้เกี่ยวกับวันดินโลกและหันมาใส่ใจ ดูแล รักษาและฟื้นฟูทรัพยากรดินในพื้นที่ตนเองให้มีความอุดมสมบูรณ์

โดยกิจกรรมในวันนี้ มีทั้งการถ่ายทอดความรู้เกี่ยวกับข้อมูลทางวิชาการ และการสาธิตให้ทุกคนได้เห็นถึงขั้นตอนการปฏิบัติ ไม่ว่าจะเป็น การปลูกหญ้าแฝกเพื่อชะลอการพังทลายของหน้าดิน การไถกลบปอเทืองเพื่อปรับปรุงบำรุงดินให้มีความอุดมสมบูรณ์ นอกจากนี้ยังมีการประกวดวาดภาพเพื่อสื่อความหมายถึงการอนุรักษ์ทรัพยากรดินของเยาวชนในพื้นที่ และการจัดนิทรรศการให้ความรู้เกี่ยวกับทรัพยากรดิน น้ำ การประมง การเกษตรทฤษฎีใหม่ การแปรรูปสินค้าเกษตร และการทำบัญชีครัวเรือน

ทั้งนี้วันดินโลก (World Soil Day) ได้ถูกกำหนดขึ้นตามมติขององค์การสหประชาชาติ ในระหว่างการประชุมคณะกรรมการด้านเศรษฐกิจและการเงินของที่ประชุมสมัชชาสหประชาชาติ สมัยสามัญที่ 68 ณ สำนักงานใหญ่สหประชาชาติ นครนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อปี 2556 โดยสหภาพวิทยาศาสตร์ทางดินนานาชาติ ได้มีมติทูลเกล้าฯ ถวายรางวัลนักวิทยาศาสตร์ดินเพื่อมนุษยธรรม แด่พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร รัชกาลที่ 9 เพื่อเป็นการยกย่องและถวายราชสดุดีพระเกียรติคุณให้เป็นที่ประจักษ์ ถึงพระวิสัยทัศน์และพระราชกรณียกิจเกี่ยวกับการพัฒนาและอนุรักษ์ทรัพยากรดินอย่างยั่งยืน และในโอกาสเดียวกันนี้ผู้บริหารสหภาพวิทยาศาสตร์ทางดินนานาชาติ ได้ขอพระราชทานให้วันที่ 5 ธันวาคมของทุกปีเป็นวันดินโลก world soil day โดยได้มีการบรรจุในปฏิทินปฏิบัติงานขององค์การสหประชาชาติอย่างเป็นทางการตั้งแต่ปี 2556 เป็นต้นมา

วันพฤหัสบดีที่ 12 ธันวาคม พ.ศ. 2562

พสกนิกรจังหวัดนครพนม เฝ้าฯรับเสด็จในหลวง ในการพระราชดำเนินเลียบพระนคร ผ่านการถ่ายทอดสด


วันที่ 12 ธันวาคม 2562 ที่บริเวณศาลาประชาคมยงใจยุทธ ศาลากลางจังหวัดนครพนม บรรยากาศเต็มไปด้วยพสกนิกรชาวจังหวัดนครพนมที่เดินทางมาร่วมเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท รับเสด็จพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ในการเสด็จพระราชดำเนินเลียบพระนคร โดยขบวนพยุหยาตราทางชลมารค เนื่องในพระราชพิธีบรมราชาภิเษก พุทธศักราช 2562 ผ่านการถ่ายทอดสดทางสถานีโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจแห่งประเทศไทย โดยหลายคนได้เดินทางมาล่วงหน้าก่อนที่จะเริ่มพิธี กระทั่งเวลาใกล้เวลาเสด็จพระราชดำเนินฯสถานที่ก็เนื่องแน่นไปด้วยพสกนิกรที่พร้อมใจกันสวมใส่เสื้อเหลืองมาร่วมพิธีเพื่อแสดงออกถึงความจงรักภักดีและน้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ โดยในเวลา 15.00 น. นายสยาม ศิริมงคล ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม ได้เป็นประธานนำทุกคนประกอบพิธีเปิดกรวยกระทงถวายราชสักการะเบื้องหน้าพระบรมฉายาลักษณ์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ก่อนที่ทุกคนจะร่วมรับชมการถ่ายทอดสด

โดยการเสด็จพระราชดำเนินเลียบพระนคร โดยขบวนพยุหยาตราทางชลมารค เนื่องในพระราชพิธีบรมราชาภิเษก พุทธศักราช 2562 ในครั้งนี้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้อัญเชิญพระพุทธปฏิมาชัยวัฒน์ รัชกาลที่ 9 ประดิษฐานเหนือบุษบกเรือพระที่นั่งอนันตนาคราช ที่เป็นเรือนำขบวน โดยพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี และสมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้าทีปังกรรัศมีโชติฯ จะประทับเรือพระที่นั่งสุพรรณหงส์ เป็นเรือลำที่ 2 สมเด็จเจ้าฟ้าฯ กรมหลวงราชสาริณีสิริพัชร มหาวัชรราชธิดา และสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรีฯ ประทับเรือพระที่นั่งอเนกชาติภุชงค์ เป็นลำดับที่ 3 เรือพระที่นั่งนารายณ์ทรงสุบรรณ ลำดับที่ 4 ตามด้วยเรือพระที่นั่งสำรอง จากนั้น เป็นเรือดั้ง เรือแซง เรือรูปสัตว์และเรือมีชื่อต่างๆ  นอกจากนี้ยังทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้จัดริ้วขบวนราบใหญ่จากท่าวาสุกรีไปยังพระบรมมหาราชวัง ต่อเนื่องจากการเสด็จพระราชดำเนินเลียบพระนครโดยกระบวนพยุหยาตราชลมารค

จังหวัดนครพนม จัดกิจกรรมรณรงค์ยุติความรุนแรงต่อเด็ก สตรี และบุคคลในครอบครัว

วันที่ 12 ธันวาคม 2562 ที่บริเวณหน้าศาลากลางจังหวัดนครพนม นายสยาม ศิริมงคล ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม เป็นประธานนำคณะหัวหน้าส่วนราชการ เจ้าหน้าที่ นักเรียน นักศึกษาและประชาชน ร่วมเดินรณรงค์ยุติความรุนแรงต่อเด็ก สตรี บุคคลในครอบครัว และความรุนแรงในสังคมทุกรูปแบบ ที่จังหวัดนครพนม โดย สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดนครพนมจัดขึ้น ภายใต้แนวคิด Safety Home… Safety Society บ้านปลอดภัย....สังคมไทยไร้ความรุนแรง เพื่อปลูกจิตสำนึก กระตุ้นเตือนให้เห็นถึงความสำคัญในการแก้ไขปัญหาความรุนแรงในเด็ก สตรีและคนในครอบครัว ซึ่งเป็นปัญหาที่คนในสังคมมองเป็นเรื่องความสัมพันธ์ภายในครอบครัว ที่คนภายนอกไม่ควรเข้าไปยุ่งเกี่ยว แต่ในความเป็นจริงแล้วปัญหาความรุนแรงต่อเด็ก สตรี หรือคนในครอบครัว ไม่ว่าจะเป็น ด้วยวาจา การกระทำความรุนแรงทางกายในรูปแบบต่างๆ เป็นเหมือนระเบิดเวลาที่น่ากลัว โดยเฉพาะในเด็กที่กำลังเติบโตหรือตกเป็นเหยื่อของความรุนแรงในครอบครัว เนื่องจากเด็กเหล่านี้จะมีพัฒนาการเป็นผู้ใหญ่ที่กระทำความรุนแรงต่อคนในครอบครัวและสังคมต่อไป


โดยข้อมูลจากกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ปี 2561 พบว่ามีการกระทำความรุนแรงในครอบครัว ทั่วทั้งประเทศ 1,594 ราย ซึ่งปัจจัยสำคัญที่นำมาสู่การกระทำความรุนแรงในครอบครัวมากสุด คือสุรา ยาเสพติดและการพนัน คิดเป็นร้อยละ 40.99 ส่วนสถานที่เกิดเหตุอันดับแรกคือภายในบ้านคิดเป็นร้อยละ 68.96 รองลงมาเป็นบ้านญาติหรือบ้านผู้อื่น คิดเป็นร้อยละ 10.28 ทั้งนี้องค์การสหประชาชาติได้รับรองให้วันที่ 25 พฤศจิกายนของทุกปี เป็นวันขจัดความรุนแรงต่อสตรีสากล และมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 29 มิถุนายน  2542 ได้กำหนดให้เดือนพฤศจิกายนของทุกปีเป็นเดือนรณรงค์ยุติความรุนแรงต่อเด็กและสตรี ดังนั้นเพื่อเป็นการกระตุ้นเตือน ปลูกจิตสำนึกให้กับประชาชนในพื้นที่มีความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้องเกี่ยวกับที่มาของการเกิดปัญหา ช่องทางการแจ้งข้อมูลข่าวสาร การร่วมเป็นเครือข่ายในการเฝ้าระวังและการร่วมกันแก้ไขปัญหาเพื่อสร้างให้สังคมปลอดความรุนแรงต่อเด็ก สตรีและคนในครอบครัว จังหวัดนครพนมจึงได้จัดกิจกรรมดังกล่าวขึ้น 

วันพุธที่ 11 ธันวาคม พ.ศ. 2562

สสจ.นครพนม แนะวิธีกำจัดเชื้อโรคจากเสื้อมือสองและเลี่ยงโรคหน้าหนาว


วันที่ 11 ธันวาคม 2562 ที่จังหวัดนครพนม  นายแพทย์ธราพงษ์  กัปโก นายแพทย์เชี่ยวชาญด้านเวชกรรมป้องกัน รองนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดนครพนม เปิดเผยว่า ปัจจุบันสภาพอากาศในจังหวัดนครพนมยังคงมีความหนาวเย็นอย่างต่อเนื่อง ดังนั้นการทำให้ร่างกายอบอุ่นอยู่ตลอดเวลาจึงเป็นเรื่องสำคัญเพื่อหลีกเลี่ยงการเจ็บป่วย โดยหนึ่งในนั้นคือการสวมใส่เสื้อกันหนาวและหลายคนจึงเลือกใช้เสื้อผ้ามือสองเพราะมีทุนทรัพย์ไม่เพียงพอ จึงอยากฝากเตือนเกี่ยวกับผู้ที่เลือกใช้เสื้อผ้ามือสองให้เพิ่มความระมัดระวังและควรทำความสะอาดให้ดี เพราะเสื้อผ้ามือสองอาจจะมีเชื้อโรคปนเปื้อนมากับเสื้อผ้าด้วย และอาจก่อให้เกิดโรคติดเชื้อทางผิวหนังได้ เช่น  โรคกลาก เกลื้อน โรคหิต นอกจากนี้ยังมีโรคภูมิแพ้เพราะในเสื้อผ้ามือสองมักจะมีไรฝุ่นที่จะไปกระตุ้นอาการของคนที่มีภาวะภูมิแพ้ผิวหนังได้ รวมถึงเสื้อผ้ามือสองยังอาจเป็นพาหะนำโรคต่าง ๆได้ ถ้าไม่ทำความสะอาดอย่างถูกวิธี

ซึ่งขั้นตอนการปฏิบัติตัวเมื่อได้เสื้อผ้ามือสองมา ต้องทำความสะอาดเหมือนซักผ้าปกติ แต่เพิ่มขั้นตอนอีกนิดหน่อยด้วยการทำความสะอาดด้วยน้ำร้อนอุณหภูมิอย่างน้อย 60 องศา แช่ทิ้งไว้ประมาณ 20 นาที หรือ 1 ชั่วโมง ซึ่งจะช่วยกำจัดพวกหิดเหาที่ติดมาได้ กรณีที่ไม่แน่ใจว่าเสื้อมือสองผ่านการทำความสะอาดมาหรือเปล่าให้นำมาใส่ในถุงพลาสติกแล้วปิดปากถุงให้สนิททิ้งไว้ประมาณ 5 -7 วัน เพื่อให้ตัวเชื้อโรคตาย ที่สำคัญคือถ้าใช้เสื้อผ้ามือสองแล้วเกิดมีผื่นพยายามอย่าแกะเกาหรือสงสัย ให้รีบไปปรึกษาแพทย์ผิวหนังเพื่อวินิจฉัยโรคทันที เพื่อรับการรักษาอย่างถูกต้องวิธี

นอกจากการเลือกเสื้อผ้ามาสร้างความอบอุ่นให้ร่างกายแล้ว ยังมีโรคที่ต้องระวังในช่วงหนาวนี้ เช่น โรคหัดซึ่งลักษณะอาการจะมีไข้ 3-4 วัน จากนั้นจะมีผื่นขึ้นตามตัว โรคนี้สามารถป้องกันได้ด้วยการฉีดวัคซีน ต่อมาคือโรคไข้หวัดใหญ่และโรคปอดบวม อาการคือมีไข้และไอ บางรายอาจจะมีน้ำมูกด้วย โดยโรคปอดบวมจะมีอาการเพิ่มมาคือมีอาการหอบร่วมด้วย ทั้ง 2 โรคนี้สามารถป้องกันได้ด้วยการรักษาสุขภาพร่างกายให้แข็งแรง ทำให้ร่างกายอบอุ่นอยู่เสมอ ที่สำคัญคือการหลีกเลี่ยงการสัมผัสสารคัดหลั่งจากผู้ป่วย ตามมาด้วยโรคอุจจาระร่วงเฉียบพลัน วิธีป้องกันก็คือการกินร้อนช้อนกลางล้างมือ อีกโรคที่พบในหน้าหนาวคือโรคมือเท้าปาก ซึ่งมักจะพบในเด็กเล็ก อาการคือมีไข้สูงบางรายอาจจะมีไข้ต่ำโดยเด็กที่ป่วยจะมีผื่นขึ้นเป็นจุดแดง ๆ ที่ฝ่ามือ ฝ่าเท้า และในปาก อาการเหล่านี้จะส่งผลให้เด็กรับประทานอาหารได้น้อยลง ผู้ปกครองควรพาบุตรหลานไปพบแพทย์และให้หยุดเรียน เพื่อแยกการสัมผัสคลุกคลีกับเด็กอื่นๆ ป้องกันการกระจายเชื้อโรค พยายามให้เด็กดื่มน้ำบ่อย ๆ

วันจันทร์ที่ 9 ธันวาคม พ.ศ. 2562

จ.นครพนม คว้ารางวัลคุณธรรมและความโปร่งใส ITA ระดับ AA หนึ่งเดียวในประเทศ พร้อมเดินหน้ารณรงค์ปลูกจิตประชาชน

วันที่ 9 ธันวาคม 2562 ที่จังหวัดนครพนม บรรยากาศการแสดงพลังประกาศเจตนารมณ์ต่อต้านการทุจริตคอร์รัปชั่น " Zero tolerance คนไทยไม่ทนต่อการทุจริต " เนื่องในวันต่อต้านคอร์รัปชั่นสากล (ประเทศไทย) เป็นไปด้วยความคึกคักของประชาชนชาวจังหวัดนคพนมที่ออกมารวมตัวกัน ไม่ว่าจะเป็น คณะหัวหน้าส่วนราชการ เจ้าหน้าที่ หน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ตลอดจนนักเรียน นักศึกษาและประชาชนชาวจังหวัดนครพนม โดยในเวลา 8.30 น. นายรังสรรค์ คัมภิรานนท์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม ได้เป็นประธานนำทุกคนเดินรณรงค์ประชาสัมพันธ์ปลูกจิตสำนึกและกระตุ้นให้ทุกภาคส่วนหันมาใส่ใจและร่วมกันแก้ไขปัญหาการทุจริตคอร์รัปชั่นให้หมดไปจากจังหวัดนครพนม โดยเป็นการเดินไปตามถนนนิตโยก่อนที่จะเลี้ยวเข้าสู่ถนนอภิบาลบัญชาและมุ่งหน้าสู่หอประชุมยงใจยุทธ ศาลากลางจังหวัดนครพนม เพื่อร่วมกันประกาศเจตนารมณ์ในการต่อต้านการคอร์รัปชั่นพร้อมกับส่วนกลางและจังหวัดอื่นๆ ทั่วประเทศ ที่มี พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธานในพิธี ผ่านการถ่ายทอดสดทางสถานีโทรทัศน์แห่งประเทศไทย ช่อง NBT จากศูนย์แสดงสินค้าและการประชุมอิมแพ็ค เมืองทองธานี จังหวัดนนทบุรี

สำหรับความโปร่งใสในการดำเนินงานของหน่วยงานภาครัฐนั้น ในปี 2562 นี้จังหวัดนครพนมได้รับการประเมินคุณธรรมและความโปร่งใส Integrity and Transparency Assessment : ITA ในระดับ AA ด้วยคะแนน 95.50 คะแนน ซึ่งเป็นเพียงจังหวัดเดียวของประเทศที่ได้รับรางวัลนี้ โดยเป็นการประเมินในเชิงบวกที่ครอบคลุมการปฏิบัติราชการของหน่วยงานภาครัฐในทุกมิติที่สอดรับกับยุทธศาสตร์ชาติว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริตระยะที่ 3 (พ.ศ. 2560-2564) และในวันนี้ นายสยาม ศิริมงคล ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนมได้เป็นตัวแทนจังหวัดเดินทางไปรับรางวัลจากนายกรัฐมนตรีภายในงาน

โดยนอกจากกิจกรรมการเดินรณรงค์ การประกาศเจตนารมณ์ในการต่อต้านการคอร์รัปชั่นแล้ว จังหวัดนครพนมยังมีกิจกรรมอื่น ๆ เพื่อมาปลูกจิตสำนึกให้กับผู้ที่มาร่วมงาน ไม่ว่าจะเป็นการแสดงหมอลำกลอน ที่มีการแต่งเนื้อร้องใส่ทำนองให้เป็นคติสอนใจ ทำให้ทุกคนได้เห็นถึงความสำคัญและหันมาเป็นส่วนหนึ่งในการป้องกันและปราบปรามการทุจริตคอร์รัปชั่น ทำให้ทุกคนได้ทราบช่องทางการแจ้งข่าวเรื่องราวร้องทุกข์ร้องเรียน จึงกลายเป็นอีหนึ่งสีสันให้ผู้ที่มาร่วมงานได้รับความเพลิดเพลินไปพร้อมกับความรู้ นอกจากนี้ยังมีการจัดนิทรรศการให้ความรู้ของหน่วยงานต่าง ๆ

วันศุกร์ที่ 6 ธันวาคม พ.ศ. 2562

รด.นครพนม มุกดาหาร ประกอบพิธีกระทำสัตย์ปฏิญาณตนและสวนสนาม เนื่องในวันนักศึกษาวิชาทหาร


วันที่ 6 ธันวาคม 2562 ที่บริเวณณสนามกีฬากลางจังหวัดนครพนม พลตรี สามารถ จินตสมิทธิ์ ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 210 เป็นประธานนำกำลังนักศึกษาวิชาทหาร จากจังหวัดนครพนมและจังหวัดมุกดาหาร จำนวน 4,700 นาย ประกอบพิธีกระทำสัตย์ปฏิญาณตนและสวนสนาม นศท.ประจำปี 2562 เนื่องในวันนักศึกษาวิชาทหาร ประจำปี 2562 โดยมีนางวิไลวรรณ ไกรโสดา รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม พร้อมด้วย พลตำรวจตรี ธนชาติ รอดคลองตัน ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครพนม นาวาเอก ก้องเกียติ นาทวงศ์ หัวหน้าแผนกกิจการพลเรือน หน่วยเรือรักษาความสงบเรียบร้อยตามลำแม่น้ำโขง คณะหัวหน้าส่วนราชการ ตลอดจนประชาชนในพื้นที่ร่วมเป็นเกียรติในงาน

โดยวันที่ 8 ธันวาคมของทุกปี เป็นวันนักศึกษาวิชาทหาร ซึ่งนักศึกษาวิชาทหาร (นศท.) หรือที่นิยมเรียกกันว่า รด. เป็นเยาวชนอายุตั้งแต่ 15 ปีขึ้นไป ที่อยู่ระหว่างเข้ารับการฝึกวิชาทหาร ตามหลักสูตรที่กระทรวงกลาโหมกำหนด ตามพระราชบัญญัติส่งเสริมการฝึกวิชาทหาร พ.ศ. 2503 เพื่อเป็นกำลังพลสำรองของกองทัพไทย ภายใต้การควบคุมของ โรงเรียนรักษาดินแดน ศูนย์การนักศึกษาวิชาทหาร หน่วยบัญชาการรักษาดินแดน โดยพิธีกระทำสัตย์ปฏิญาณตนและสวนสนามของนักศึกษาวิชาทหาร นับเป็นพิธีที่มีเกียรติและมีความสำคัญยิ่ง ที่กองทัพบกได้กำหนดให้จัดขึ้นเป็นประจำทุกปี เพื่อให้นักศึกษาวิชาทหารได้แสดงออกถึงความมีระเบียบวินัย ความสามัคคี และความอดทน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ทำให้เกิดความภาคภูมิใจที่ได้สมัครเข้าเป็นนักศึกษาวิชาทหารและได้กระทำสัตย์ปฏิญาณตนต่อหน้าผู้บังคับบัญชา ครู อาจารย์ และประชาชนทั่วไป เพื่อเป็นการยืนยันว่านักศึกษาวิชาทหารทุกนาย ได้ยึดมั่นในอุดมการณ์ที่มั่นคงกับการดำรงไว้ซึ่งสถาบัน ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์และการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข และช่วยกันพัฒนาบ้านเมืองให้เจริญรุ่งเรืองสืบไป และเพื่อรำลึกถึงวีรกรรมของทหารประจำการ ตำรวจ ยุวชนทหาร และราษฎรอาสาสมัคร ที่ได้ร่วมมือต่อต้านข้าศึกในสงครามมหาเอเชียบูรพา

กลุ่มเกษตรกรแปลงใหญ่นครพนม พัฒนามาตรฐานการเลี้ยงจิ้งหรีด เล็งส่งออกตลาดสิงคโปร์


วันที่ 6 ธันวาคม 2562 ที่จังหวัดนครพนม นายสุขใจ ไชยวารี ประธานกลุ่มแปลงใหญ่แมลงเศรษฐกิจ (จิ้งหรีด) ตำบลโพนทอง อำเภอเรณูนคร เปิดเผยว่า การเลี้ยงจิ้งหรีดมีขั้นตอนที่ไม่ยุ่งยากอะไรมากมายแต่ต้องใส่ใจกับการดูแลอยู่เสมอ ที่สำคัญคือสามารถเลี้ยงได้ทุกเพศทุกวัย เดิมทีชาวบ้านในพื้นที่มีการเลี้ยงจิ้งหรีดอยู่แล้วแต่ไม่มากนัก พอกรมส่งเสริมการเกษตรและสำนักงานเกษตรจังหวัดนครพนม เข้ามาให้ข้อมูลเกี่ยวกับการทำเกษตรแปลงใหญ่ ชาวบ้านในพื้นที่จึงได้มีการปรึกษาหารือและรวมกลุ่มกัน โดยเริ่มต้นมีสมาชิก 30 ราย จากนั้นเจ้าหน้าที่ก็เข้ามาอบรมให้ความรู้ในด้านต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น ลักษณะของโรงเรือนที่ดี ขั้นตอนการเลี้ยง การให้อาหาร การให้น้ำ ช่องทางการตลาด การคัดแม่พันธุ์จิ้งหรีด และการแปรรูปเพื่อเพิ่มมูลค่าผลผลิต ซึ่งเมื่อทุกคนมีองค์ความรู้แล้ว ก็ได้นำงบประมาณที่ได้รับมาสร้างโรงเรือนและบ่อเลี้ยงเพิ่มเติมจากที่มีอยู่ นำไปซื้ออุปกรณ์ในการเลี้ยงอื่น ๆ  ซึ่งหลังดำเนินการมาได้สักระยะปรากฏว่าสมาชิกในกลุ่มทุกรายมีรายได้เพิ่มขึ้น ทำให้เพื่อนบ้านสนใจและหันมาเข้าร่วมกลุ่มเป็นสมาชิกเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ปัจจุบันมีสมาชิก 50 ราย

สำหรับการเลี้ยงนั้นทุกคนจะเน้นกระบวนการผลิตที่มีความสะอาดเป็นหลัก มีการต่อระบบให้น้ำด้วยท่อ PVC เพื่อป้องกันน้ำไปเปื้อนกับแผงไข่ที่ใช้เลี้ยงจิ้งหรีด ส่วนอาหารก็จะมีการคำนวณให้พอดีกับการเลี้ยงจิ้งหรีดในแต่ละวันเพื่อไม่ให้เหลือตกค้างและลดค่าใช้จ่าย หมั่นทำความสะอาดบ่อเลี้ยงอยู่เสมอเพื่อลดอัตราการตายของจิ้งหรีด ที่สำคัญคือมีการพัฒนาต่อยอดแมลงเศรษฐกิจตัวอื่นๆ เพิ่มเติม คือ สะดิ้งและจิ้โก่ง รวมถึงมีการแปรรูปสินค้าให้มีความหลากหลายสำหรับลูกค้า ไม่ว่าจะเป็น จิ้งหรีดน็อคสด จิ้งหรีดอบกรอบ จิ้งหรีดต้ม น้ำพริกจิ้งหรีดและปุ๋ยมูลจิ้งหรีด โดยในอนาคตเตรียมจะแปรรูปเป็นข้าวเกรียบและจิ้งหรีดบดผง สำหรับการจำหน่ายนั้นทางกลุ่มจะมีลูกค้าสั่งจองล่วงหน้ามาจากจังหวัดอุบลราชธานี จังหวัดอื่นทั่วประเทศ และประเทศเพื่อนบ้านอย่าง สปป.ลาว โดยรายได้เฉลี่ยจะอยู่ที่บ่อละประมาณ 1,800 บาท ซี่งแต่ละคนจะเลี้ยงประมาณ 10 -12 บ่อ นั้นหมายถึงแต่ละคนมีรายได้เฉลี่ยอยู่ที่ 18,000 – 21,600 บาทต่อการเลี้ยง 45 วัน ขณะเดียวกันทางกลุ่มมองว่าตลาดจิ้งหรีดยังสามารถเติบโตได้อีกไกลเพราะมีความต้องการของตลาดสูง จึงได้มีการประสานไปที่ตลาดของสิงคโปร์เพื่อเพิ่มช่องทางการจำหน่ายแต่ยังไม่สามารถนำไปจำหน่ายได้เนื่องจากสินค้าต้องผ่านมาตรฐานการควบคุมการผลิต (GMP) และมาตรฐานความปลอดภัยเสียก่อน ดังนั้นสมาชิกในกลุ่มที่มีความพร้อมมากที่สุด จึงได้เริ่มดำเนินการขอมาตรฐาน GMP ก่อน ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างรอการอนุมัติ ส่วนฟาร์มที่เหลือก็กำลังเร่งพัฒนาตนเองไปให้ถึงจุดนั้นพร้อม ๆ กัน เพื่อที่ทุกคนจะได้มีรายได้ที่มั่นคงและสูงมากกว่าที่เป็นอยู่